“เบลล์” ผู้ประสานงานและดูแลการวิ่งโครงการก้าวคนละก้าว เล่าความประทับใจต่อ “ตูน บอดี้สแลม” เผย เกิดมาเพิ่งเคยเห็นคนแบบนี้ ทำอะไรเพื่อคนอื่นเหมือนคนไม่รู้จักความเหน็ดเหนื่อย
วันที่ 15 มี.ค. 2562 นายชายชาญ ใบมงคล หรือ เบลล์ ผู้ประสานงานและดูแลการวิ่งโครงการก้าวคนละก้าว ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของชายที่ชื่อ อาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม ผ่านเฟซบุ๊ก Chaichan Baimongkol ขณะเดินทางไปยังโรงพยาบาลต่างๆ พร้อมกับ ตูน บอดี้สแลม โดยขอยกบทความช่วงหนึ่งเป็นห้วงเวลาที่กำลังเดินทางไป จ.ราชบุรี วันนั้นบนรถตู้ ตูน บอดี้สแลม มาบอกเล่า
"วันนี้ไม่ไหวว่ะพี่..." ตูนหันมาบอกผมบนรถตู้ ระหว่างทางที่ไปโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี ซึ่งโรงพยาบาลชวนพวกเราไปดูเครื่องมือเครื่องใช้ที่ได้มาจากงบก้าวคนละก้าวเมื่อครั้งโน้น พอดีวันนี้พี่ตูนมีเล่นคอนเสิร์ตที่ราชบุรีพอดี ก่อนขึ้นเวที...เราจึงตัดสินใจไปโรงพยาบาลก่อน ผมอยู่กับพี่ตูนมาตั้งแต่ช่วงบ่าย ไม่รู้แกไปกินไรมาท้องเสีย...เข้าห้องน้ำไปหลายทีแล้วเพลียมาตลอดทาง นั่งถอนหายใจเฮือกๆ บ่นไม่มีแรงหลายรอบ กินแค่ขนมปังกาแฟไปช่วงบ่าย ถ้ากินมากไปเดี๋ยวจุก...ขึ้นคอนเสิร์ตไม่ไหว สรุปคือทั้งวันใช้แรงจากขนมปังชิ้นเล็กๆ 2 ชิ้น ผมเห็นแล้วก็อยากจะแบ่งเรี่ยวแรงและไขมันบางส่วนไปให้แกบ้างวันนี้พี่ตูนดูโคตรสะโหลสะเหล จะไหวมั้ยวะ?

...
พอเดินลงจากรถตู้ไปหาคุณหมอคุณพยาบาลก็ได้รับการต้อนรับแสนอบอุ่น ทุกคนมีดอกไม้มาให้ รอยยิ้มและเสียงหัวเราะดังลั่นโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี คุณว่าพี่ตูนไหวมั้ย? มีแรงเฉยเลย... ทาง รพ. เปิด VTR ให้พวกเราดูว่า เงินบริจาคทุกบาททุกสตางค์ได้นำมาซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้ชาวราชบุรีและจังหวัดใกล้เคียงได้ใช้แล้ว หลายชีวิตรอดตาย หลายชีวิตได้ความสุขกลับคืนมา ชาวราชบุรีจึงขอขอบคุณคนไทยใจดี ขอบคุณพี่ตูนและทีมก้าวคนละก้าว มา ณ ที่นี้ และขอนำชื่อ "อาทิวราห์" นามอันเป็นความหวัง มาตั้งชื่อศูนย์อุปกรณ์ทางการแพทย์ของโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี พี่ตูนน้ำตาซึม...แกดีใจ แล้วก็ไม่รู้เอาแรงมาจากไหนเดินไปชมอุปกรณ์นั้นนี้โน้นตามตึกต่างๆ ก้มลงไหว้กราบบรรดาผู้ป่วยตามหอต่างๆ ถ่ายรูปเซลฟี่แจกลายเซ็นไปหลายต่อหลายครั้ง เหมือนลืมอาการเพลียตอนอยู่บนรถตู้ไปแล้ว เหมือนลืมไปว่ายังมีคอนเสิร์ตที่ต้องเล่นเป็นคิวถัดไป

ผมแยกไปถ่ายทำงานที่พื้นที่ใกล้เคียงก่อน ตั้งใจว่าถ่ายเสร็จจะกลับบ้านเลย แต่พี่ตูนถามมาเสียงเบาๆ ว่า "กลับมาได้มั้ย? มาหาอะไรอ้วนๆ กินกัน" บอกตรงๆ ว่าไม่ใช่คนเห็นแก่กินแต่ทำใจแข็งไม่ไหว...รู้ว่าแกทำเพื่อคนอื่นมามากเหลือเกินทำแบบที่ไม่จำเป็นต้องทำ แต่แกก็ทำ เพราะแกเชื่อว่ามันจำเป็น เออ...กลับมาก็ได้ ผมตีรถกลับมาหาพี่ตูนอีกทีก็ตอนคอนเสิร์ตจบแล้ว ระหว่างทางกลับบ้าน "มีความสุขเนอะ" พี่ตูนบอก "ดีครับ" (จะให้ผมพูดว่าไงได้อีก) "วันนี้ที่โรงพยาบาลดีมากเลย คอนเสิร์ตก็มันมาก สนุกมาก ผมอยู่ได้เพราะสิ่งนี้เลย"
ผมเกิดมาเพิ่งเคยเห็นคนแบบนี้ คนที่อยู่ตัวคนเดียวแล้วหงอยๆ ดูเซื่องๆ ซึมๆ แต่เมื่อได้ทำอะไรเพื่อคนอื่นจะกลายเป็นจริงจังมุ่งมั่นและทำได้เหมือนคนไม่รู้จักความเหน็ดเหนื่อย เหมือนว่าต้นกำเนิดพลังงานของเขาคือความสุขของทุกๆ คน "กินไรอ่ะ" ผมทวง "ผมขอบอกพี่เบลล์เลยว่าดึกๆ ต้องสิ่งนี้ ผมชอบมากกกก" แล้วแกก็พาผมไปกินอาหารมื้อดึกที่แกชื่นชอบสุดๆ ซึ่งก็คือ...ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นข้างถนน โต๊ะเล็กๆ ในความมืดข้างถนน พี่ตูนของพวกเราซดก๋วยเตี๋ยวอย่างเอร็ดอร่อย ปากบอกชมรสชาติก๋วยเตี๋ยวกับเจ้าของร้านไม่หยุด ไม่มีใครรู้ว่านี่คือ ตูน บอดี้สแลม ไม่มีใครรู้เพราะไม่น่ามีใครเชื่อ... "อิ่ม...สบาย หลับได้" แกบอกมาอย่างร่าเริง

"นับว่าเป็นอีกวันที่ผมได้สำรวจผู้ชายคนนี้อย่างใกล้ชิดและรู้สึกได้ว่า ถ้าจะมีใครสักคนที่เป็นแบบอย่างได้ในหลายๆ เรื่อง ก็ต้องพี่ตูนนี่ล่ะ ไปซื้อเครื่อง AED ให้ที่โรงพยาบาลสระใคร จ.หนองคาย ก็ไม่ได้ให้ทำ PR อะไร เพราะคิดว่าเงินเขาเองไม่ต้องบอกใครหรอก แต่พอได้เห็น VTR ของโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี ที่ทำออกมาขอบคุณคนไทย ก็สั่งแล้วสั่งอีกว่าให้เพจก้าวรีบเอามาแชร์คนไทยได้เห็นจะได้ดีใจกัน
หัวใจของเขามีแต่เพื่อคนอื่น คนอย่างนี้มีอยู่จริงๆ ฝากความรักและดูแลพี่ตูนกันด้วยครับ แกจะได้อยู่เป็นแรงบันดาลใจให้กับพวกเราไปนานๆ หลายคนถามว่า แล้วหนูจะได้เจอพี่ตูนได้ยังไง? บอกเลยว่าหาไม่ยากครับ เริ่มด้อมๆ มองๆ จากร้านก๋วยเตี๋ยวแถวบ้านก่อน ไม่แน่ว่าคุณอาจได้เจอแกอาจจะนั่งกินอยู่อย่างเอร็ดอร่อยก็ได้"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
(ขอบคุณเฟซบุ๊ก Chaichan Baimongkol และภาพประกอบจากอินสตาแกรม artiwara)