"กู้ภัย" พกประแจเบอร์ 12 ทุกวัน โอดช่วยคนเจ็บบนถนนมอเตอร์เวย์ สาย 7 ช่วง หนองมน ศรีราชา แหลมฉบัง พัทยา สุดลำบาก ต้องปีน ใช้ประแจไขรั้ว ช่วยเหลือคน
นายสุรวุฒิ เกิดชัย รองประธานกู้ภัยสว่างประทีป ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า ก่อนปี 2560 ประชาชนและชาวบ้านในพื้นที่ ได้ใช้ถนนมอเตอร์เวย์สาย 7 ช่วง หนองมน ศรีราชา แหลมฉบัง ยาวไปจนถึง พัทยา ฟรี ต่อมาเริ่มมีการเก็บเงินค่าผ่านทาง มีการกั้นรั้ว ทำให้บริเวณดังกล่าวไม่มีจุดเข้าออก

อย่างไรก็ตาม หากเกิดอุบัติเหตุบนถนนมอเตอร์เวย์ช่วงบริเวณ ศรีราชา ยาวไปจนถึงหนองมน ไม่ว่าจะเป็นขาเข้าเมืองพัทยา หรือ ขาออกมุ่งหน้าไปกรุงเทพฯ สิ่งที่กู้ภัยทำได้เพื่อเข้าไปช่วยเหลือคนเจ็บก็คือ ต้องใช้ประแจเบอร์ 12 ขันนอตเพื่อนำเหล็กลูกกรงออก หรือต้องปีนข้ามรั้วไปช่วยผู้บาดเจ็บ จากนั้นก็จะลำเลียงคนบาดเจ็บออกมาเพื่อส่งต่อโรงพยาบาล
"อุบัติเหตุบนถนนมอเตอร์เวย์ตรงนี้เป็นปัญหาบ่อยมากๆ การเข้าไปช่วยเหลือต้องตัดลูกกรงเหล็กบ้าง ปีนเข้าไปบ้าง และต้องยกคนเจ็บปีนข้ามรั้ว ซึ่งหากเหตุเกิดช่วงศรีราชา บางครั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องเข้าไปในถนนมอเตอร์เวย์ และหากจะออกมาจากถนนเส้นนี้ก็ต้องขับรถไปไกลถึง 20 กิโลเมตร ซึ่งตรงนั้นก็ถึงทางออก อ.เมืองชลบุรี พอดี กรณีคนเจ็บต้องการกลับมารักษาที่ศรีราชา กู้ภัย ก็ต้องขับพามาอีก 20 กิโลเมตร"
...
ทั้งนี้ ประเด็นดังกล่าวทั้งชาวบ้าน และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้พยายามพูดคุยกันมาโดยตลอดว่า เราอยากได้ทางออกฉุกเฉิน สำหรับช่วยเหลือคนเจ็บ หรือผู้ประสบอุบัติเหตุบนมอเตอร์เวย์

"ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์" ถามว่า บริเวณดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ของมอเตอร์เวย์ดูแลหรือไม่ นายสุรวุฒิ ระบุว่า บริเวณนั้นมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้ เช่น รถกระบะที่ให้สัญญาไฟว่ามีอุบัติเหตุ แต่ไม่มีรถพยาบาล หากเกิดอุบัติเหตุ และมีผู้บาดเจ็บจะเป็นหน้าที่ของกู้ภัยเข้าช่วยเหลือ
ยกตัวอย่างเช่น เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 62 ที่ผ่านมา มีอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำบนถนนมอเตอร์เวย์ ช่วงศรีราชา มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้ประแจเบอร์ 12 ไขเหล็กเอารั้วออก ซึ่งสภาพอากาศร้อนมากๆ จากนั้นก็ต้องปีนข้ามรั้วออกมา ซึ่งหากเป็นช่วงกลางคืน ทีมกู้ภัยไม่สามารถเอารถเข้าไปบนนถนนมอเตอร์เวย์ได้ เราก็ต้องใช้คนจำนวนมากในการลำเลียงคนออกมาเพื่อส่งต่อโรงพยาบาล
"ผมก็อยากฝากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยดูแลตรงนี้ให้ด้วย อยากให้คำนึงถึงหากมีผู้บาดเจ็บที่ต้องได้รับการช่วยเหลือแบบทันท่วงที ไม่ใช่แค่ตรงจุดนี้เพียงอย่างเดียว แต่อาจจะยาวไปช่วงถนนที่ไม่มีทางออกฉุกเฉิน"
(ขอบคุณภาพจาก สุรวุฒิ เกิดชัย )