ชาวเน็ตถกคลิปหมอขึ้นเสียงใส่ป้า ซัด หมอทำเกินไป แต่ญาติไม่ยอมรับความจริง

วิจารณ์สนั่นโซเชียล คลิปหมอเสียงแข็งใส่คนไข้ บอกใกล้เสียชีวิตแล้ว ต้องสั่งเสียลูกหลาน ขณะที่บางส่วนมอง หมอทำเกินไปทำไมไม่พูดดีๆ บางคนมอง ญาติก็ไม่ยอมรับความจริง

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์คลิป หมอผู้หญิงพูดคุยกับผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยดี และบอกให้สั่งเสียลูกหลานตั้งแต่เดี๋ยวนี้ ล่าสุดผู้ป่วยคนดังกล่าวเสียชีวิตแล้ว ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ (เสียชีวิตแล้ว ป้าในคลิปหมอขึ้นเสียง ให้สั่งเสียลูกหลาน บอกรักษาไม่หาย)

ทั้งนี้ หลังมีการแผยแพร่ข่าวดังกล่าวออกไป ชาวโซเชียลจำนวนมากได้เข้ามาแสดงความคิดเห็น โดยแบ่งเป็น 2 ฝ่าย ขณะที่แฟนเพจเฟซบุ๊ก อีเจี๊ยบ เลียบด่วน มองว่า ถ้าผมได้ยินหมอกำลังพูดกะแม่ผมแบบนี้ ผมก็ด่าหมอนะ พูดตรงๆ น่ะดี แต่ก็ต้องมีศิลปะ เลือกเวลา เลือกคนที่จะพูดด้วย ไม่เกี่ยวกะนอนน้อยหรอก คิดน้อยไปมากกว่า

ทางด้านเฟซบุ๊ก Drama-addict แสดงความเห็นว่า คนส่งมาถามเยอะว่าหมอทำในคลิปแบบนี้ถูกต้องมั้ย พูดกับคนไข้แบบนี้ได้เหรอ คือเราไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เขาคุยอะไรกันมาก่อน แต่จากที่เห็นในคลิป มันบอกได้หลายอย่าง อย่างแรก ภาษากายของหมอที่คุยกับคนไข้ ลงไปนั่งยองๆ คุกเข่าลงไปในระดับสายตาระดับเดียวกันแบบนั้น คือไม่ได้มีท่าทีข่มคนไข้ แต่ต้องการสื่อสารให้คนไข้เข้าใจโดยอยู่ในระดับเดียวกัน

ส่วนอาการป้าเท่าที่ฟัง คือ ตับแข็ง กับไตมีปัญหา ซึ่งโรคนี้เหลือเวลาไม่มากแล้ว ปรกติ ในคนไข้ที่ป่วยจนรักษาไม่หายเวลาที่เหลือคือการรักษาประคับประคองและใช้เวลาที่เหลือให้คุ้มที่สุด คนไข้บางคนกับญาติจะไม่เข้าใจตรงนี้ แล้วตระเวนหาหมอผี หาพวกพ่นน้ำมนต์ทำพิธี เสียเวลาอันมีค่าไปโดยเปล่าประโยชน์

ทั้งนี้ เท่าที่ฟังเหมือนญาติยังไม่ค่อยรับความจริง เช่นที่ แย้งหมอว่าคนไข้เหนื่อยเพราะฝุ่นควันรึเปล่า ซึ่งเป็นเรื่องปรกติของคนไข้ที่ยังทำใจไม่ได้ เวลาหมอจะคุยกับญาติที่ยังทำใจไม่ได้ให้เข้าใจ เป็นเรื่องยาก บางทีก็ต้องย้ำหนักแน่นว่าที่ญาติเข้าใจมันไม่ถูกต้อง

จริงๆ แล้วในคลิปนี่เรื่องปรกตินะ และหมอในคลิปก็เจตนาดี ส่วนการที่คนไข้เสีย ก็ตามสาเหตุคือตัวโรค เผื่อมีคนโยงว่าหมอทำให้เสียกำลังใจ ซึ่งไม่เกี่ยวหรอกครับ

เฟซบุ๊ก Adisak Wachirakarn : พ่อผมเป็นมะเร็ง รักษาจนสุดท้ายหมอบอกกลับไปดูแลตัวที่บ้าน ยาที่ให้ไม่ช่วยอะไรละ บอกเป็นนัยๆ ว่ารักษาไปก็ไม่ช่วยอะไรแล้ว

เฟซบุ๊ก จิราวิช วัฒนไชย : เมื่อก่อนผมเคยดุผู้ป่วยนะ อยากให้ผู้ป่วยหายดี ต่อมาโดนฟ้องร้อง ผอ. รองผอ.เรียกคุย หลังจากนั้น ใครจะรักษา ใครจะกินไม่กินยา ใครอยากสูบบุหรี่กินเหล้า ไม่คุมเบาหวานความดัน ก็เรื่องของมัน ไม่คุมที่เอาตัวเราไม่เสี่ยงคุกเสี่ยงตาราง ครอบครัวเราก็ต้องดูแล เงินก็ต้องหา

ทำไมต้องมาเสียเวลาขึ้นโรงขึ้นศาล กับผู้ป่วยที่ไม่ดูแลตัวเองด้วย ตามเวรตามกรรมครับ ผมปลงล่ะ เวลาถูกฟ้องร้องไม่มีใครช่วย ไม่อยากเปลืองตัว เปลืองน้ำลายสอนคนไข้เลยนะ ยิ่งผู้หญิงวัยรุ่นยิ่งไม่อยากตรวจ สิทธิบ้าบอคอแตกอะไรของมัน แตะไม่ได้ ทำตัวอย่างกับพระเจ้าบริสุทธิ์ผุดผ่อง

เฟซบุ๊ก วัฒนชัย หาริโร : คนในครอบครัวที่เสียชีวิตล่าสุดในครอบครัวผมคือ ปู่ผม ปู่เข้า รพ แล้วหมอบอกกับญาติ ว่าอยู่ได้อีกแค่ 8 เดือนเต็มที่ ทุกคนไม่ยอมบอกปู่ กลัวว่าท่านจะเสียกำลังใจ ผ่านไป 4 วัน ก็กลับบ้านได้ ปู่ถามว่าเป็นอะไร ทุกคนก็ช่วยกันปิด บอกแค่ว่าไม่มีอะไร ผ่านไปอีกเดือนกว่าๆ ก็ได้เข้านอนโรงพยาบาลอีกรอบ ทุกคนก็ไม่ยอมบอกท่านมีแต่ช่วยกันพูดให้กำลังแก บอกไม่เป็นอะไรมาก แต่ลูกๆ หลานดูเครียดกันทุกคน ตอนเย็นผมจำได้ดีเลย ปู่บอกให้เรียกทุกคนมารวมตัวกันที่เตียงให้หมด แล้วแกก็บอกติดตลกว่า ใครโกหกหรือปิดบังอะไร แกจะยึดมรดกคืน ทุกคนก็หัวเราะ พอหมอมาตรวจแกบอกหมอเลยว่า มีอะไรบอกมาให้หมด บอกให้ชัดเจน ห้ามปิดบัง แกจะได้เตรียมตัวถูก

สรุปหมอก็บอก ปู่อยู่ได้อีกแค่ 6-7 เดือนนะเต็มที่ ปู่ก็ถามตายจริงไหม หมอก็บอกตายจริงๆ แกก็หัวเราะแล้วบอกก็แค่นี้ มีเวลาอีกหลายเดือน จะได้วางแผนถูก หลังจากนั้นแกก็จัดแจงบอกเลยจะไปไหนบ้าง ทำอะไรบ้าง ไปหาเพื่อนที่ไหน พวกผมก็ช่วยกันทำในสิ่งที่ปู่อยากทำ ลูกหลานตกลง นัดกันกินข้าวที่บ้านใหญ่ 1 เดือน 2 ครั้ง ทุกคนต้องมาให้ครบ ลูกหลานที่อยู่ใกล้ไกลจากแทบไม่เคยเอาใจใส่เลย ทุกคนดูแลท่านอย่างดี

จนท่านบอกเลย รู้งี้ปู่ป่วยนานแล้ว ช่วงเวลาไม่กี่เดือนที่เหลือเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมาก พากันไปเที่ยว ไปวัด ไปเยี่ยมเพื่อนท่านตามที่ต่างๆ จนถึงวาระสุดท้ายที่ท่านจากไป คำสั่งเสียคือ ขอให้ลูกหลานทุกคนจงเจริญๆ ไปข้างหน้า เพราะท่านจะจากไปด้วยความสงบไม่มีห่วงใดๆ แล้ว จากวันนั้นถึงวันนี้ ท่านอยู่ในความทรงจำของทุกคนตลอดไป ทุกครั้งที่เล่าเรื่องปู่ ทุกคนมีความสุขเพราะได้ทำหน้าที่ลูกหลานเต็มที่

เฟซบุ๊ก Athit Manmungsilp : เท่าที่ดูคลิป เหมือนญาติคนไข้จะทำหมอสติแตกนะ รู้มากกว่าหมอ คงไปรับฟังข้อมูลมาหลายแห่ง แล้วมาบอกให้หมอรักษาอย่างนั้นอย่างนี้ ด้วยความที่อยากให้แม่หาย อย่างเราเป็นช่างทำผม มาเจอลูกค้าสั่งทำอย่างนั้นอย่างนี้ เราก็เคยยื่นหวียื่นกรรไกรให้ลูกค้าตัดเองทำเองเหมือนกัน

เฟซบุ๊ก Thanachat Sanchang : ผมว่าหมอพูดตรงนะ น้ำเสียงไม่ได้ดุหรืออะไร แต่คงผิดที่คุยกับคนไข้แค่นั้น ถ้าเป็นผม ผมป่วยก็ต้องการข้อมูลแบบนี้มากกว่า แต่คนส่วนใหญ่ขอแบบให้โกหกว่าเดี๋ยวหายเดี่ยวดีขึ้น ผมว่าถ้าเขาไม่สนใจไม่รักคนไข้เขาไม่มาอธิบายคำที่คนธรรมดาฟังยังงงให้ฟังละเอียดแบบนี้หรอก

เฟซบุ๊ก Koi Dungcomta  : มีเคสนึงผูกคอตายเพราะหมอบอกเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายหมอบอกว่าอยู่ได้ไม่ถึงสองอาทิตย์ เป็นพ่อของเพื่อนค่ะ สงสารมากค่ะ ทำไมหมอสมัยนี้ถึงพูดจาไม่ดีเยอะมากเลย จะว่าทำงานเหนื่อยก็เข้าใจอยู่แต่ปากแบบนี้หมามากเลยค่ะ