แม่ "พลทหารตี๋" บน "หลวงพ่อช้าง" สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่ชาวบ้านตำบลเขาท่าพระ ช่วยตามหาลูกชาย ซึ่งเป็นแก้วตาดวงใจ หลังหายตัวไปครึ่งเดือน บอกทรมานเหลือเกิน วอนคนเจอช่วยแจ้งเบาะแส ไกลแค่ไหนก็พร้อมจะไปหา
จากกรณีที่ นางชไมพร โนรี อายุ 55 ปี นางสาวสุพรรษา สุดสาคร อายุ 36 ปี แม่และพี่สาวของ นายทัศพล โนรี หรือ ตี๋ อายุ 21 ปี หายไปอย่างไร้ร่องรอย ตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2562 ที่ผ่านมา หลังจากการฝึกทหารเกณฑ์ที่ กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ จ.ลพบุรี ครบ 3 เดือน แล้วลาพักร้อนกลับมาบ้าน 10 วัน พอเดินทางกลับเข้าประจำการแล้วหายตัวไปทันทีอย่างผิดสังเกต โทรมาครั้งสุดท้ายตอนอยู่ที่ ลพบุรี บอกว่ากินข้าวแล้วช่วงเที่ยงคืน ซึ่งตอนนี้ติดต่อไม่ได้ ทางกองร้อยก็บอกว่าหาตัวไม่เจอ ซึ่งได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลพบุรี แล้ว แต่คดีไม่คืบ ครั้นจะไปหาทุกวันอย่างที่ทำก่อนหน้านี้ก็ไม่ไหว ทางบ้านเป็นห่วงไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร ติดต่อก็ไม่ได้ วอนสื่อช่วยตามหาลูก ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าว
ล่าสุด เวลา 09.00 น. วันที่ 31 ม.ค. 2562 นางชไมพร เดินทางมายังวัดท่าช้าง ม.4 ต.เขาท่าพระ อ.เมืองชัยนาท เพื่อบนบานศาลกล่าว ต่อ "หลวงพ่อช้าง" ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าวัด เพื่อให้หลวงพ่อช้าง ช่วยดลบันดาลให้หาลูกเจอเร็ววันเร็วคืน เนื่องจาก "หลวงพ่อช้าง" เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่ชาวบ้านตำบลเขาท่าพระมาช้านาน มีคนแวะมาขอโชค ขอลาภ ขอพร ขอให้ช่วยเหลือแล้วประสบความสำเร็จจนมีคนมาแก้บนกันไม่เว้นวัน
นางชไมพร แม่พลทหารตี๋ เปิดเผยว่า วันนี้มาบนบานกับหลวงพ่อช้าง เพราะตั้งแต่เกิดมาก็นับถือหลวงพ่อช้างมาตั้งแต่เด็ก เคยบนของหายแล้วเจอมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้เป็นลูกของตัวเอง เปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจ จึงอยากให้หลวงพ่อช่วยดลบันดาลให้พบลูกไวๆ จะได้ไม่อยู่อย่างทรมานอย่างนี้ ร่างกายก็ป่วย ทั้งโรคตับ โรคความดันสูง เมื่อคืนต้องไปโรงพยาบาลวัดความดันขึ้นสูงถึง 220 ตื่นเช้ามาก็รีบออกตามหาตามสถานที่ต่างๆ ต่อ
...
ตอนนี้คิดเสมอว่าลูกมีลมหายใจอยู่ อยากให้คนที่เห็นลูกช่วยแจ้งเบาะแสมาได้ตลอด 24 ชั่วโมง จะรีบไปทันทีไม่ว่าไกลแค่ไหนก็ไม่ท้อ แม้ว่าตอนนี้เงินทุกบาททุกสตางค์เริ่มหมดแล้ว ก็จะไปหยิบยืมคนอื่นเติมน้ำมันขี่จักรยานยนต์ไปหาทันที.