กระทรวงทรัพยากรฯ รวมพลังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฟื้นฟูพื้นที่สีเขียวเขตเมืองทั่วประเทศ ประเดิมประชุมอบรม-ชี้แจงเกณฑ์ประเมินพื้นที่สีเขียว เสริมความรู้ ลุยรับสมัครท้องถิ่นร่วมโครงการ ภายในก.พ.นี้...

นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า การขยายตัวอย่างรวดเร็วของชุมชนเมืองโดยเฉพาะในเมืองขนาดใหญ่ ส่งผลให้พื้นที่สีเขียวในเขตเมืองลดลงอย่างต่อเนื่อง เกิดภาวะความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม ปัญหามลพิษ และกระทบถึงคุณภาพชีวิตของประชาชน จึงมีความจำเป็นต้องเร่งฟื้นฟูพื้นที่สีเขียวในเขตเมืองทั่วประเทศให้กลับคืนมาโดยเร็ว ซึ่งตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ได้มอบให้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) รับผิดชอบการส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืน มีเป้าหมายเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 55 ของพื้นที่ประเทศ แบ่งเป็นพื้นที่ป่าธรรมชาติ ร้อยละ 35 สวนป่าใช้ประโยชน์ ร้อยละ 15 และสวนสาธารณะ ร้อยละ 5

สำหรับการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในชุมชน มุ่งเพิ่มให้ได้ร้อยละ 20 ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และมีการปลูกต้นไม้ในชุมชนไม่น้อยกว่า 40 ล้านต้น หรือ 0.2 ล้านไร่ ซึ่ง กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) ได้กำหนดแนวทางสนับสนุนการขับเคลื่อนงานตามยุทธศาสตร์ดังกล่าวไว้ในการประเมิน “เมืองสิ่งแวดล้อมยั่งยืน” ที่ต้องประกอบไปด้วยองค์ประกอบ 4 ด้าน คือ “เมืองอยู่ดี คนมีสุข สิ่งแวดล้อมยั่งยืน และเทศบาลแห่งการเรียนรู้และการบริหารจัดการที่ดี” จึงได้ดำเนินโครงการประเมินพื้นที่สีเขียวในเมืองและชุมชน โดยเปิดรับสมัครองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดต่างๆ 3 ระดับ คือ ชุมชนเมืองขนาดใหญ่ ชุมชนเมืองขนาดกลาง และชุมชนเมืองขนาดเล็ก เพื่อเข้าร่วมรับการประเมินผลการดำเนินงานการเพิ่มพื้นที่สีเขียวขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยจะทำการเปิดรับสมัครในระหว่างเดือนม.ค.-ก.พ. นี้

...

นอกจากนี้ได้จัดการประชุมอบรมการส่งเสริมพื้นที่สีเขียว เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ และชี้แจงเกณฑ์การประเมินพื้นที่สีเขียวในเมืองและชุมชน โดยมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคีความร่วมมือจากทั่วประเทศให้ความสนใจ ซึ่งได้มีการกำหนดพื้นที่สีเขียวเป็น 5 ประเภท 1.พื้นที่สีเขียวธรรมชาติ ที่มีอยู่เดิม เช่น ภูเขา ป่าไม้ แหล่งน้ำ คู คลอง ทะเลสาบ พรุ มีความสำคัญต่อระบบนิเวศของพื้นที่ ให้ประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อชุมชน ต้องอนุรักษ์ให้คงอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ด้วยการจัดการที่เหมาะสม 2.พื้นที่สีเขียวเพื่อบริการ เช่น สวนสาธารณะ สวนหย่อม สวนพฤกษศาสตร์ สวนรุกขชาติ สนามกีฬากลางแจ้ง สนามเด็กเล่น ลานกลางเมือง เป็นพื้นที่สีเขียวและที่โล่งที่ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าไปใช้บริการทั้งการพักผ่อนและเสริมสร้างทัศนียภาพให้กับเมือง

3.พื้นที่สีเขียวเฉพาะ ในพื้นที่ส่วนบุคคล เช่น พื้นที่สีเขียวในหน่วยงานราชการ วัด โรงพยาบาล บ้านเรือน โรงเรียน สถานที่เอกชน ซึ่งบางแห่งประชาชนอาจไม่สามารถไปใช้บริการได้โดยตรง แต่มีผลในการสร้างคุณค่าด้านสิ่งแวดล้อมให้ชุมชน 4.พื้นที่สีเขียวริมเส้นทางสัญจร ถนน แหล่งน้ำ คู คลอง ทางรถไฟ มีบทบาททั้งการพักผ่อนและสร้างทัศนียภาพ 5.พื้นที่สีเขียวเพื่อเศรษฐกิจชุมชน เช่น สวนผลไม้ ที่นา สวนป่า พืชไร่ ที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับเจ้าของ และเสริมสร้างคุณค่าสิ่งแวดล้อมให้ชุมชน

ขณะที่ในการประเมิน จะพิจารณามาตรฐานของพื้นที่สีเขียวใน 3 ด้าน ได้แก่ 1.เกณฑ์มาตรฐานเชิงปริมาณ กำหนดสัดส่วนพื้นที่สีเขียวต่อมาตรฐานตัวชี้วัดต่างๆ 2 ระดับคือ มาตรฐานพื้นที่สีเขียวในภาพรวมหรือระดับมหภาค และมาตรฐานพื้นที่สีเขียวที่จำแนกตามประเภทของพื้นที่สีเขียว 2.เกณฑ์มาตรฐานเชิงคุณภาพ กำหนดตามกรอบแนวคิดในการออกแบบ พัฒนา และการจัดการพื้นที่สีเขียวเพื่อให้เกิดประโยชน์หรือเกิดคุณค่าต่อมิติต่างๆ ได้แก่ ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ 3.เกณฑ์มาตรฐานเชิงการบริหารและการจัดการ เพื่อให้การขับเคลื่อนและพัฒนาพื้นที่สีเขียวเกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล รวมทั้งก่อให้เกิดระบบการบริหารจัดการพื้นที่สีเขียวในเขตเมืองและชุมชนของประเทศไทยต่อไปในอนาคต.