นำมาแช่แข็งแล้วเขย่าให้แตกแทนการเผา คพ.ประสาน พศ.เปลี่ยนเตา
นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยกรณีมี 310 วัดในกรุงเทพฯ มีเตาเผาศพระดับ 3.0 ซึ่งก่อให้เกิดมลพิษจากการเผา แถมยังมีฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญทั้งยังมีผลกระทบต่อสุขภาพจิตของประชาชน พร้อมเตรียมนำร่อง 20 วัดให้เป็นเตาเผาศพ 4.0 เพื่อแก้ปัญหา ว่า คพ.กำลังประสานกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เพื่อให้เปลี่ยนเตาเผาศพให้มาใช้แบบไฟฟ้าในการเผา รวมทั้งให้คัดแยกวัสดุที่ไม่ควรเผาออก เช่น พวงหรีด โฟมพลาสติกที่ไม่จำเป็น กระดาษเงินกระดาษทองวัสดุตกแต่งโลง เช่น เทพพนม ถ่านไฟฉาย หลอดไฟ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ให้ตรวจสอบสภาพผนังเตา หัวเผา พัดลม ประตูเตาให้พร้อมสำหรับการเผา ตรวจสอบปริมาณเชื้อเพลิงให้เพียงพอ อุ่นห้องเผาควันให้ได้อุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 900 องศาเซลเซียส เป็นต้น
ด้านพระครูวิมลสุตวัฒน์ (ณรงค์) ผช.เจ้าอาวาสวัดมกุฏกษัตริยาราม กล่าวว่า ไม่ขัดข้องที่ คพ.จะยกระดับเตาเผาศพให้เป็น 4.0 ปัจจุบันมีวัดที่มีเตาเผาดีๆ ไม่ส่งผลกระทบด้านมลพิษ อาทิ วัดมกุฏฯ มี 2 เตา สั่งมาจากประเทศเยอรมนี มีทั้งเตาเผาศพกับเผาควัน วัดเทพศิรินทราวาส วัดโสมนัส วัดตรีทศเทพ วัดธาตุทอง เป็นต้น ใช้เวลาเผาประมาณ 1-1 ชั่วโมงครึ่ง ส่วนวัดอื่นๆอาจจะมีปัญหาเรื่องมลพิษ เพราะความร้อนไม่ถึง มีเผาห้องเดียว หรืออาจจะต้องประหยัดน้ำมัน เป็นต้น ถ้า คพ.ทำได้จะถือว่าดีมาก
นายโกนิฏฐ์ ศรีทอง ผู้ช่วยอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้วิจัยในเรื่องนี้มาโดยตลอด เพราะไม่ว่าจะมีการใช้เตาเผาที่ทันสมัยเพียงใด หากมีกระบวนการเผาไหม้แล้ว ย่อมเกิดมลพิษแน่นอน ดังนั้นตนจึงทำวิจัยเพื่อหาวิธีในการเผาศพ โดยที่ไม่ต้องใช้วิธีการเผา ล่าสุด กำลังอยู่ระหว่างการทำวิจัยในการนำสารไนโตรเจนเหลวมาใช้ในการจัดการศพ โดยจะนำศพมาแช่ในสารไนโตรเจนเหลวที่อุณหภูมิติดลบประมาณ 100-200 องศาเซลเซียส ซึ่งจะทำให้ร่างกายแข็งคล้ายแก้ว และจะนำไปเข้าเครื่องเขย่าทำให้ร่างกายแตกละเอียดกลายเป็นอัฐิ สามารถนำไปประกอบพิธีลอยอังคารได้เลย โดยที่จะไม่มีขั้นตอนการเผาแม้แต่ในขั้นตอนเดียว อย่างไรก็ตาม การเผาศพในสังคมไทยยังมีมิติในเรื่องของความเชื่อ ประกอบกับสารไนโตรเจนเหลวมีราคาที่ค่อนข้างสูง.
...