หนุ่มวัย 40 ต้นๆ แข็งแรงมาโดยตลอด เกิดหน้ามืดล้มลงในงานเลี้ยง พบเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายที่ตับและลำไส้

สมาชิกพันทิป หมายเลข 4940498 โพสต์ข้อความ ระบุว่า วันนี้มีเรื่องราวมาแบ่งปันให้กับทุกๆ คนกันอีกครั้ง อยากให้เรื่องนี้ได้เป็นอุทาหรณ์สำหรับใครหลายๆ คนที่ได้อ่าน และได้นำเรื่องราวเหล่านี้ไปเล่าสู่กันฟังให้กับคนที่รักกัน

ทั้งนี้ ต้องบอกก่อนว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับญาติเจ้าของกระทู้เองค่ะ ขออนุญาตเรียกญาติคนนี้ว่า ลุงรอ อายุประมาน 40 ต้นๆ มีภรรยาและลูกสาวที่กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.1 อาศัยกันอยู่ 3 คน พ่อแม่ลูก

โดย ลุงรอ ทำงานในบริษัทหนึ่งที่ทำเกี่ยวกับอุปกรณ์สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ และรถยนต์ ซึ่งแน่นอนว่าการทำงานจะต้องเจอสารเคมีต่างๆ มากมาย หลายๆ คนอาจจะมองข้ามไป บางคนก็คิดว่าก็แค่สาร มันไม่ได้น่ากลัวอะไร คงไม่โชคร้ายขนาดนั้นหรอก ไม่ใช่ทุกคนที่โชคร้าย แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะโชคดีเสมอไป

ทั้งนี้ ลุงรอ เป็นคนดื่มเหล้า สูบบุหรี่ แต่ไม่ได้จัด คือจะดื่มเหล้าเวลาสังสรรค์กับเพื่อน ช่วงวันหยุด ไม่ได้บ่อยอะไรมาก แต่ก็มีดื่มกัน จนอยู่มาวันหนึ่งที่แผนกที่โรงงานมีนัดกินเลี้ยงสังสรรค์ แต่อยู่ๆ เรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น คือ ลุงรอหน้ามืด และล้มลงไปที่พื้น ทุกคนตกใจกันมาก เรียกรถพยาบาลมารับ

ในวันนั้นลุงรอหมดสติลง เพื่อนก็โทรหาภรรยาลุงรอ และเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง ในระหว่างที่ลุงรออยู่ห้อง ICU นั้น ทุกคนก็ถามว่าลุงรอมีโรคประจำตัวอะไรไหม ทำไมอยู่ๆ ก็หมดสติ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ปกติมากๆ ยังคุยเฮฮากับเพื่อนอยู่เลย ปกติแล้วลุงรอแข็งแรงมากๆ ไม่เคยเข้าโรงพยาบาลเลย ทุกคนก็แปลกใจ ต่างก็คิดว่าทำงานหนัก พักผ่อนน้อย ลุงรอไม่มีอาการใดๆ ก่อนหน้านี้เลย ไม่เจ็บ ไม่ป่วย ใช้ชีวิตปกติมากๆ

...

ตอนนั้นก็ถึงมือหมอแล้วทุกคนก็เลยไม่ได้เครียดอะไร คุณหมอก็หาสาเหตุว่าลุงรอเป็นอะไร เรียกได้ว่าตรวจอย่างละเอียดเลยก็ว่าได้ค่ะ จนรู้สาเหตุที่แน่ชัดว่า "ลุงรอเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย" ตอนนี้มะเร็งได้ลามไปที่ตับและลำไส้ คือเรียกได้ว่าโอกาสรอดแทบไม่มีเลยค่ะ

คุณหมอบอกให้เรียกญาติมาดูใจ มาให้ลุงรอได้เห็นหน้า เพราะหมอไม่รู้ว่าลุงรอจะอยู่ได้นานแค่ไหน เลยอยากให้ญาติๆ มาให้กำลังใจลุงรอ ซึ่งจขกทก็เป็นหนึ่งในนั้น เจ้าของกระทู้ได้ฟังก็น้ำตาไหลเลย ขนาดไม่ได้เจอลุงรอมานานมากเป็น 10 กว่าปี มาเจอลุงรออีกครั้งก็ในสถานการณ์แบบนี้แล้ว ทุกคนร้องไห้และพยายามจะกลั้นไว้ไม่ให้ลุงรอเห็น เพราะลุงรอยังไม่รู้นะคะว่าตัวเองเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เพราะคุณหมอบอกว่าลุงรอจะอยู่ได้นานแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับกำลังใจอย่างเดียวเท่านั้น

ดังนั้นหมอจึงแนะนำว่าไม่ให้บอกและไม่ควรคุยเรื่องนี้  ปล.หมอบอกกับลุงรอว่าลุงรอเป็นเนื้องอกในลำไส้ ต้องผ่าตัด ลุงรอก็คิดว่าผ่าตัดแล้วจะหาย แต่จริงๆ แล้วคือโอกาสหายไม่มีแล้ว เพราะมันสายเกินกว่าจะแก้ไขได้แล้ว

ทั้งนี้ เจ้าของกระทู้จึงอยากเตือนหลายๆ คนที่สูบบุหรี่ กินเหล้า หรือเจอสภาวะแวดล้อมที่มีสารเคมีที่ก่อให้เป็นมะเร็งได้ เราไม่รู้หรอกว่าเราจะโชคดีหรือโชคร้าย ชีวิตเราเกิดมาครั้งเดียว อะไรที่ไม่ดีก็อยากให้เลิก ไม่งั้นจะมีการรณรงค์ให้เลิกเหล้า เลิกบุหรี่กันไปทำไม ถ้ามันดีจริงไหม ถ้าไม่เกิดขึ้นกับตัวเอง เราคงไม่ตระหนักเหมือนกัน ก็ยังคงมองข้ามสิ่งเหล่านี้ไป แต่จริงๆ แล้วสิ่งเหล่านี้นี่แหละค่ะที่เป็นตัวต้นเหตุทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ อยากให้ทุกคนรักตัวเอง ดูแลสุขภาพตัวเอง หมั่นตรวจสุขภาพบ่อยๆ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

"สุขภาพเปรียบเสมือนรถยนต์ ที่จะต้องเข้าศูนย์บริการเมื่อครบกำหนด เพื่อปรับแต่งและตรวจเช็กสภาพรถ ว่ามีสิ่งใดชำรุดสึกหรอ ต้องซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอะไหล่ ร่างกายคนเราก็เช่นเดียวกัน ควรจะพบแพทย์เพื่อตรวจสภาพของร่างกายเป็นระยะ ก่อนที่จะเจ็บป่วยเกินกว่าจะแก้ไข เชื่อเถอะ เสียเงินค่าตรวจสุขภาพเพียงเล็กน้อย ยังดีกว่าต้องมานั่งทุกข์ทรมานกับสถานการณ์แบบเจ้าของกระทู้ เสียเงินมากกว่าค่าตรวจสุขภาพหลายร้อยเท่า แต่อยากจะบอกว่าเงินยังไม่สำคัญเท่ากับสุขภาพที่ดี เพราะเหตุการณ์บางเรื่องเงินก็ไม่สามารถซื้ออะไรกลับมาได้".

(คลิกอ่านต้นฉบับทั้งหมด ที่นี่)