เรื่องหลอนที่โรงพักบางขุนนนท์ กระเป๋าผีสิง ของกลางคดีฆ่าหั่นศพ เมื่อปี 55 ซึ่งถูกเก็บไว้ที่ชั้น 4 ตำรวจเข้าเวร ได้ยินเสียงลากกระเป๋า คนเดินตาม ทำเอาผวา แม้คดีสิ้นสุด แต่กระเป๋าก็ยังไม่มีการนำไปทำลาย ...
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดกระแสข่าวลือว่า บนโรงพักบางขุนนนท์ มีกระเป๋าผีสิง ซึ่งเป็นกระเป๋าของกลางคดีหั่นศพ ซึ่งถูกเก็บไว้บนชั้น 4 ของโรงพัก หลอกหลอนตำรวจ จนไม่มีใครกล้าขึ้นไปที่ชั้น 4 เพราะกลัวผีหลอก
จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบ พบ ด.ต.สมพงษ์ ศรีงาม ผบ.หมู่งานสืบสวน สน.บางขุนนนท์ ผู้ที่ได้ร่วมกันทำคดีหั่นศพเมื่อปี 55 โดย ด.ต.สมพงษ์ เล่าว่า เมื่อวันที่ 7 ต.ค.55 เกิดคดีสาวคลั่งฆ่าหั่นศพสามีตัวเอง ในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ริมคลองบางกอกน้อย แล้วแยกชิ้นส่วนใส่กระเป๋าเดินทาง ทิ้งไว้ใกล้ลิฟต์ชั้น 2 ส่วนหัวและข้อมือ ข้อเท้า ใส่ถุงโยนลงคลองบางกอกน้อย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้
ซึ่งแม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวสาวคลั่งรายนี้เข้าเรือนจำไปแล้ว แต่กระเป๋าเจ้าปัญหาก็ยังอยู่ในห้องขัง กระทั่งผู้ต้องหาคดีอื่นๆ ที่ทราบเรื่อง และเห็นกระเป๋าใส่ศพ ต่างพากันขอย้ายห้องขัง
ด.ต.สมพงษ์ เล่าต่อว่า มีวันหนึ่งช่วงกลางดึก ขณะที่ ด.ต.วิโรจน์ พวกอิ่ม เจ้าหน้าที่สิบเวร กำลังเข้าเวรอยู่หน้าห้องขังเพียงลำพัง ประตูที่เปิดเข้าห้องขังยังเป็นกระจกใส ไม่มีสติกเกอร์บังเหมือนทุกวันนี้ ได้ยินเสียงเหมือนคนลากกระเป๋า พอเหลือบไปมอง ก็เห็นกระเป๋าที่มีล้อหมุนรอบตัวเองหลายรอบ ด.ต.วิโรจน์ จึงออกไปนั่งอยู่หน้าโรงพักทั้งคืน
ส่วนสิบเวรคู่กะอีกคน ก็โดนเหมือนกัน ขณะนั่งอยู่หน้าห้องขัง วันนั้นลูกชายมานั่งดูทีวีเป็นเพื่อนพ่อด้วย ซึ่งทีวีที่ดูเป็นทีวีรุ่นเก่า ไม่มีรีโมต ถ้าจะเปลี่ยนช่องต้องไปกดที่ตัวเครื่อง แต่วันนั้นช่องทีวีเปลี่ยนได้เองเหมือนมีคนกด เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาหลายช่อง จนเป็นที่ผวาแก่ตำรวจที่เข้าเวรทุกคน บางครั้งได้ยินเสียงผู้หญิงคุยกันกลางดึก แต่ก็ไม่เห็นใคร บางครั้งก็ได้ยินเสียงหมาหอน
...
เมื่อเรื่องถูกเล่าต่อๆ กันไปทั่ว จึงจัดทำบุญโรงพัก จากนั้นได้ย้ายกระเป๋า ขึ้นไปอยู่ในห้องเก็บของกลาง ที่อยู่ในห้องน้ำชั้น 4 ของโรงพัก ตนเชื่อว่าวิญญาณที่สิงอยู่ที่กระเป๋าใบนี้ยังไม่ไปไหน ทุกปีที่มีการทำบุญโรงพัก ตนก็จะให้พระเอาน้ำมนต์ขึ้นไปประพรมกระเป๋าใบนี้
ด.ต.สมพงษ์ เล่าต่อไปว่า เป็นเรื่องน่าแปลกที่เกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่สายสืบเกือบทุกคน ที่เดินขึ้นไปที่ห้องสืบสวน บริเวณชั้น 3 หากใจลอย หรือเดินดูโทรศัพท์มือถือ ก็จะเลยขึ้นไปถึงชั้น 4 ใกล้จุดที่เก็บกระเป๋าใบนี้ทุกที
ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ตำรวจหน่วยสวาทจากภูธรภาค 7 มาพักที่ สน.บางขุนนนท์ เพื่อที่จะรอไปปฏิบัติหน้าที่ช่วงค่ำ มีตำรวจอยู่นายหนึ่งขึ้นไปอาบน้ำบนชั้น 4 ซึ่งเป็นที่เก็บกระเป๋าผีสิง หลังจากอาบน้ำเสร็จกำลังเดินลงมาชั้นล่าง ปรากฏว่าได้ยินเหมือนเสียงคนใส่รองเท้าแตะ เดินตามมาด้วย แต่พอหันไปมองก็ไม่เห็นใคร จึงเกิดความสงสัย เอาเรื่องมาเล่าให้ตำรวจ สน.บางขุนนนท์ ที่เข้าเวรฟัง จึงได้กระจ่าง และไม่กล้าขึ้นไปอาบน้ำที่ชั้น 4 อีกเลย
ตนก็สงสัยว่า คดีนี้สิ้นสุดไปนานแล้ว ผู้ต้องหาก็ออกมาจากเรือนจำแล้ว แต่ทำไมกระเป๋าเจ้าปัญหานี้ยังไม่นำไปเผาทำลาย เจ้าของคดีก็ย้ายไปอยู่ที่อื่นนานแล้วด้วยเช่นกัน อยากให้เอาไปทำลายเสีย เพราะทุกวันนี้ห้องฝ่ายสืบสวนอยู่ใกล้กับห้องที่เก็บกระเป๋าใบนี้ ทำให้ตำรวจสืบสวนหลายนายไม่กล้าอยู่เวรในห้องคนเดียวช่วงกลางดึก.