กองปราบลั่น หากคดี 5 ทรชนข่มขืนเด็ก 12 ไม่ได้รับความเป็นธรรม มาร้องเรียนกองปราบได้ ขณะที่ ยธ. ให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายตามสิทธิ...
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพและคลิปวิดีโอ ซึ่งตัวเองเข้าไปทำร้ายกลุ่มวัยรุ่น พร้อมระบุว่า อยากเตือนภัยชาวสระบุรี เนื่องจากลูกสาวตนเองถูกวัยรุ่น 5 คนนี้ ฉุดไปรุมโทรมข่มขืนในร้าน 20 บาททุกอย่าง แต่ทางญาติของผู้ก่อเหตุอ้างตัวว่าเป็น อบต. เจรจาต่อรองจ่ายค่าเสียหาย 10,000 บาท เพื่อแลกกับการไม่ต้องดำเนินคดี อีกทั้งตำรวจโทรมาเกลี้ยกล่อมไม่ให้เอาความ และได้ปล่อยตัวทั้ง 5 คนไปก่อน เนื่องจากเป็นเยาวชนอายุ 15-18 ปี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าว
ต่อมา เฟซบุ๊ก กองปราบปราม ได้โพสต์ข้อความระบุว่า "เป็นอีกคดีที่สะเทือนใจ... 5 เยาวชน รุมข่มขืนเด็กหญิง หากฝ่ายเหยื่อหรือผู้เสียหายเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็สามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจกองปราบปรามได้"
...
ด้าน นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "ธวัชชัย ไทยเขียว" ระบุว่า กระทรวงยุติธรรมให้ความช่วยเหลือกรณีเด็กหญิง 12 ขวบ ถูกกลุ่มเด็กหรือเยาวชน 5 คนรุมโทรม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคสาม และวรรคสี่ บัญญัติว่า ผู้ใดกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี อันมีลักษณะเป็นการโทรมเด็กหญิง และเด็กนั้นไม่ยินยอม ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต
แต่เนื่องจากกลุ่มผู้ถูกกล่าวหาเป็นเด็กหรือเยาวชน จึงต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553 คือ พนักงานสอบสวนต้องนำตัวเด็กหรือเยาวชนไปศาลเยาวชนฯ ในเขตอำนาจ เพื่อตรวจสอบการจับกุมทันที ทั้งนี้ ภายในเวลา 24 ชั่วโมงนับแต่เวลาที่เด็กหรือเยาวชนไปถึงที่ทำการของพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบตามมาตรา 72
ซึ่งหากในกรณีที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าการกระทำของเด็กหรือเยาวชนมีลักษณะหรือพฤติการณ์ที่อาจเป็นภัยต่อบุคคลอื่นอย่างร้ายแรง หรือมีเหตุสมควรประการอื่น ศาลอาจมีคำสั่งให้ควบคุมเด็กหรือเยาวชนซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดไว้ในสถานพินิจ หรือในสถานที่อื่นที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายและตามที่ศาลเห็นสมควรได้
แต่อย่างไรก็ตาม กฎหมายให้ศาลคำนึงถึงการคุ้มครองสิทธิและประโยชน์สูงสุดของเด็กหรือเยาวชนเป็นสำคัญ และการควบคุมหรือคุมขังเด็กหรือเยาวชนให้กระทำเป็นทางเลือกสุดท้ายตามมาตรา 74 วรรคท้าย
ส่วนคดีที่ผู้ปกครองเด็กหญิงที่ถูกข่มขืนไปทำร้ายกลุ่มเด็กหรือเยาวชนที่เป็นผู้ถูกกล่าวหาและญาตินั้น ก็เป็นอีกคดีที่ผู้ปกครองเด็กหญิงดังกล่าวต้องถูกดำเนินคดีและรับโทษตามกฎหมายต่อไป ส่วนจะได้รับการบรรเทาโทษหรือไม่ก็อยู่ที่เหตุและศาลเห็นสมควร
อนึ่ง สำหรับเด็กหญิงที่ตกเป็นเหยื่อ สามารถได้รับเงินค่าตอบแทนความเสียหายที่เกิดข้ึนจาก หรือเนื่องจากมีการกระทำความผิดอาญาของผู้อื่นตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม รับคำขอต่อไป รวมถึงการให้คำแนะนำการขอรับความช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีจากกองทุนยุติธรรมด้วย โดยสำนักงานยุติธรรมจังหวัดสระบุรีจะได้เข้าไปแจ้งสิทธิรับคำขอ ให้คำปรึกษาข้อกฎหมายและให้ความช่วยเหลืออื่นที่เกี่ยวข้องต่อไป.