ตำรวจอุตรดิตถ์ มั่นใจหลักฐานแน่น เก็บข้อมูลรอบด้าน ส่งตัว "สาวใหญ่ถูกร่างทรงหลอกไปสวิงกิ้ง" ไปตรวจร่างกายที่รพ. เผยสาวใหญ่จิตใจเข้มแข็ง อยากเอาผิดร่างทรงและพวก ไม่อยากให้คนตกเป็นเหยื่ออีก

จากกรณี ร่างทรงวัย 57 ปี อวดอ้างเป็น "นารายณ์อวตาร" ลงจากสวรรค์มาช่วยเหลือมนุษย์ หลอกสาวใหญ่วัย 50 ปีพาไปสวิงกิ้ง หญิง 4 ชาย 1 อ้างเป็นการแก้เคล็ดแม่จะหายป่วยตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ (ร่างทรงหลอกสาวใหญ่พาไปสวิงกิ้ง หญิง 4 ชาย 1 อ้างแก้เคล็ดแม่จะหายป่วย)

ล่าสุด เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.61 พ.ต.อ.ดิษยเดช พัชรภูวดล ผกก.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า ชุดสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานให้มากที่สุด โดยได้นำตัวผู้เสียหายไปชี้จุดเกิดเหตุ

ทั้งนี้ พบว่ามีการเข้าพักจริง ที่ห้องพักหมายเลข 657 เช็กอินเวลา 11.36 น. และเช็กเอาต์เวลา 15.01 น. แต่ไม่สามารถตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงแรมได้ เนื่องจากเกิน 7 วัน ข้อมูลจะถูกลบ แต่ได้นัดสอบพยานบุคคลซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่โรงแรมที่น่าจะเห็นหน้าผู้เสียหายและกลุ่มผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 คน ในวันจันทร์ที่ 17 ธ.ค.นี้

...

อย่างไรก็ตาม หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหา 1 ใน 4 คน ได้โทรศัพท์มาหาตนเพื่อชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยปฏิเสธข้อกล่าวหาแต่ยอมรับว่าได้เข้าพักในโรงแรมในวันเวลาที่เกิดเหตุจริง และเราได้ส่งตัวผู้เสียหายไปโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ เพื่อตรวจร่างกาย แม้เวลาผ่านไปนานกว่า 1 เดือนแล้ว แต่ก็ต้องการรวบรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุด ซึ่งแพทย์ให้นอนพักที่โรงพยาบาล 1 คืน หลังจากออกจากโรงพยาบาล ได้นัดสอบปากคำผู้เสียหายโดยละเอียดอีกครั้ง

ทั้งนี้ สภาพจิตใจของผู้เสียหายไม่น่าเป็นห่วง และเข้มแข็ง เนื่องจากผู้เสียหายต้องการดำเนินคดีกับร่างทรง และผู้หญิงอีก 3 คน เพราะต้องการยับยั้งพฤติการณ์ของผู้ถูกกล่าวหาไม่ให้ไปก่อเหตุกับผู้อื่นอีก ขณะเดียวกัน ชุดสืบสวนจะลงพื้นที่ไปแม่ฮ่องสอน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานพฤติการณ์ของร่างทรงดังกล่าวและพวก หากการรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว พบว่า ผู้ถูกกล่าวหา มีพฤติการณ์ตามที่ผู้เสียหายแจ้งความจริง ก็จะตั้งข้อกล่าวหาร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น

ส่วนตัวของ ร่างทรง 1 คน กับพวก อีก 3 คน รวม 4 คนยังเป็นผู้ต้องสงสัยมิใช่ผู้ต้องหาแต่อย่างใด เพราะอยู่ระหว่างสอบสวนผู้เสียหาย และกำลังรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุเพื่อดำเนินคดีต่อไป