หัวหน้าวิเชียร แจงกรณีครูใหญ่ ร.ร.ตชด. จวกเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ห้ามเข้าพื้นที่ นำอาหารให้เด็ก พบไม่มีหนังสืออนุญาตให้เข้าพื้นที่ ย้ำเจ้าหน้าที่ไม่เคยกีดกัน หากปฏิบัติตามระเบียบ...

จากกรณี ครูใหญ่ประจำโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านทิไล่ป้า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก ม.5 ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า ไม่สามารถนำรถอาหารกลางวันของนักเรียนเข้าไปให้นักเรียนได้ เพราะเจ้าหน้าที่ป่าไม้ไม่ให้วิ่งรถเข้าป่านั้น (อ่านข่าว สุดอั้น ครูใหญ่ ร.ร.ตชด. จวกเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ห้ามเข้าพื้นที่ นำอาหารให้เด็ก)

ล่าสุด วันที่ 11 ธ.ค. 61 นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตฯ ขอนำเรียนข้อเท็จจริงต่อสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) กรมอุทยานฯ ต่อกรณีดังกล่าว ว่า 1.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก มีชุมชนชาวกะเหรี่ยงอยู่อาศัยจำนวน 6 หมู่บ้าน โดยโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ทิไล่ป้า ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์ทุ่งใหญ่ฯ ท้องที่บ้านทิไล่ป้า ตำบลไล่โว่ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

2.การเข้าไปบริจาคสิ่งของ เลี้ยงอาหารกลางวัน หรือทำกิจกรรม เพื่อสนับสนุนสถานการศึกษาที่ตั้งอยู่ในเขตฯทุ่งใหญ่ฯ นั้น สถานศึกษาในพื้นที่เขตฯทุ่งใหญ่ฯ ได้ทำความตกลงกับเขตฯทุ่งใหญ่ฯ ว่า สถานศึกษานั้นจะพิจารณากลั่นกรองและทำเอกสารขออนุญาตผ่านหัวหน้าเขตฯ ทุ่งใหญ่ฯ เป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อป้องกันการแอบอ้างจากกลุ่มนักท่องเที่ยว โดยหลังจากนั้นเขตฯทุ่งใหญ่ฯ จะได้ทำความเห็นและส่งเรื่องไปยัง สบอ.3 (บ้านโป่ง) เพื่อโปรดพิจารณาให้เข้าทำกิจกรรมตามความประสงค์ต่อไป

3.ในแต่ละปี ชาวกะเหรี่ยงตำบลไล่โว่ จะจัดงานประเพณีงานฟาดข้าว ซึ่งเป็นวิถีวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวกะเหรี่ยง โดยในปี 2561 ได้กำหนดจัดงานดังกล่าวในวันที่ 9 ธ.ค.61 ณ หมู่บ้านทิไล่ป้า ทางเขตฯทุ่งใหญ่ฯ ไม่เคยขัดข้อง หากจะมีนักท่องเที่ยวหรือกลุ่มจิตอาสาขอเข้าไปร่วมงานประเพณี โดยทางเขตฯทุ่งใหญ่ฯ ได้แจ้งแนวทางปฏิบัติในการประชุมอำเภอสังขละบุรี เพื่อให้หน่วยงานราชการ ผู้นำชุมชน และประชาชนทราบ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2561 ตลอดมา

...

โดยให้นักท่องเที่ยว หรือบุคคลภายนอกที่ประสงค์จะร่วมงานฟาดข้าว ดำเนินการขออนุญาตเข้าไปในเขตฯทุ่งใหญ่ฯ ให้ถูกต้องตามกฎหมาย ระเบียบ และแนวทางปฏิบัติ ที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งทุกฝ่ายทราบดีอยู่แล้วและสำหรับประชาชนสามารถเข้าไปร่วมงานประเพณีฟาดข้าวได้ มิได้ปิดกั้นแต่อย่างใด

4.ในห้วงวันที่ 8-9 ธ.ค.61 ได้มีคณะท่องเที่ยวกลุ่มจิตอาสา หรือกลุ่มบริจาคสิ่งของโดยใช้รถยนต์ออฟโรดจำนวน 43 คัน เดินทางโดยใช้เส้นทางด่านเจดีย์สามองค์ ประเทศเมียนมา-ช่องสามัคคี-บ้านปางสนุก เมื่อเดินทางมาถึงจุดตรวจหน่วยพิทักษ์ป่าลังกา แต่ละกลุ่มแจ้งว่าจะขอไปร่วมงานฟาดข้าวที่หมู่บ้านทิไล่ป้า

จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ฯ พบว่ามีหนังสืออนุญาตให้เข้าพื้นที่เขตฯทุ่งใหญ่ฯ เพียง 1 คณะ รถยนต์จำนวน 1 คัน ส่วนคณะที่เหลือไม่มีหนังสืออนุญาตแต่อย่างใด พนักงานเจ้าหน้าที่จึงไม่อนุญาตให้ผ่าน แต่ผ่อนปรนให้พักแรมบริเวณหน่วยพิทักษ์ป่าลังกา จึงเป็นเหตุให้ ร.ต.อ.เอนก คำภิมูล ครูใหญ่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนทิไล่ป้า ซึ่งเป็นคนนำคณะออฟโรดจำนวน 6 คันเข้ามา เกิดความไม่พอใจ ว่า เจ้าหน้าที่ป่าไม้ขัดขวางคณะพวกตนที่จะนำอาหารกลางวันไปเลี้ยงนักเรียน รวมทั้งตำหนิ ด่าทอ และข่มขู่เจ้าหน้าที่ฯ

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ฯ อนุญาตให้เฉพาะ ร.ต.อ.เอนก และหน่วยงานราชการที่เข้าไปปฏิบัติงาน และประชาชนในพื้นที่ ผ่านเข้าไปได้ แต่ไม่ยินยอมให้นักท่องเที่ยวที่อ้างว่าติดตาม ร.ต.อ.เอนก ผ่านเข้าไปได้ เนื่องจากหากผ่อนปรนให้เข้าไปได้ นักท่องเที่ยวรายอื่นก็จะโต้แย้งว่าเลือกปฏิบัติ จึงเป็นเหตุให้เกิดความไม่พอใจ และเกิดข่าวลงในสื่อต่างๆ ขึ้น

ต่อมา เวลา 14.00 น. พ.ต.อ.ทศพร ปทุมยา ผกก.ตชด.ที่ 13 (ค่ายพระพุทธยอดฟ้าฯ) จ.กาญจนบุรี เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์มาที่โรงเรียนบ้านทิไล่ป้า หมู่ 5 ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี หลังจากผู้ใต้บังคับบัญชา ร.ต.อ.เอนก คำภิมูล ครูใหญ่โรงเรียนบ้านทิไล่ป้า ลงโซเชียลไปเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ครูจะนำอาหารไปให้นักเรียนรับประทาน เจ้าหน้าที่ไม่ให้เข้าไปในพื้นที่ 

โดย พ.ต.อ.ทศพร ได้ร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย พ.ต.อ.ทศพร พ.ต.ท.วรากร วิทยาบำรุง ผบ.ร้อย ตชด.134 ร.ต.อ.เอนก คำภิมูล ครูใหญ่ ร.ร.ตชด.บ้านทิไล่ป้า นายรัตนชัย เขยชัย หน.ศูนย์พิทักษ์ป่าที่ 4 (บ้านเสน่ห์พ่อง) นายภากร เคียวเซ็ง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 บ้านทิไล่ป้า นายแดน เนตรสน ครู คศ.2 เจ้าหน้าที่ อบต.ไล่โว่ เพื่อร่วมหารือหาแนวแนวแก้ไขข้อขัดแย้ง และร่วมวางแผนมาตรการการปฏิบัติเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวอีก โดยวางแนวทางในการประสานการปฏิบัติงานร่วมกันในระยะยาวระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ 

โดยการประชุมใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง ได้ข้อสรุปร่วมกันว่า แนวคิดที่ออกมาทางโซเชียลเป็นการเข้าใจผิดซึ่งกันและกัน และมีมติสรุปแนวทางการปฏิบัติหน้าที่แต่ละฝ่ายร่วมกัน 3 ข้อ ประกอบด้วย

1. ข้อมูลที่เผยแพร่ตามสื่อเกี่ยวกับการแสดงความคิดเห็นของทุกฝ่ายที่เผยแพร่ไปหลังจากรอให้เกิดความเสียหายความขัดแย้งไปสู่การชี้แจงให้ทุกฝ่ายงดการดำเนินการดังกล่าว

2. ข้อมูลที่เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ดำเนินการช่วยลบออกให้หมดทุกก่อนนี้

3. ขอความร่วมมือทุกฝ่ายให้ความสำคัญกับการร่วมงานโดยยึดถือประโยชน์ของส่วนรวมเป็นที่ตั้ง หากมีปัญหาให้นัดหมายประชุมพูดคุยในระดับพื้นที่ หากไม่สามารถได้ข้อสรุปให้มีการทำรายงานขึ้นไปตามสายบังคับบัญชา 

หลังจากนั้น ร.ต.อ.เอนก คำภิมูล กับ นายแดน เนตรสน หน.ศูนย์พิทักษ์ป่าที่สี่ ได้พูดคุยปรับความเข้าใจและจับมือร่วมกัน เป็นการยอมรับในการปฏิบัติหน้าที่ของแต่ละฝ่ายที่ต่างฝ่ายต่างมีความเข้าใจที่เป็นไปด้วยดีและเข้าใจกัน.

โดย พ.ต.อ.ทศพร ปทุมยา ผกก.ตชด.ที่ 13 เปิดเผยว่า หลังจากที่เป็นข่าวทำให้เกิดความไม่สบายใจทุกฝ่าย ทางผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้สั่งการให้ตนลงพื้นที่ร่วมพูดคุยและเข้ามาตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ที่สำคัญคือหารือร่วมกันเพื่อปรับความเข้าใจกันร่วมกันระหว่างหน่วยปฏิบัติงานในพื้นที่โดยเร่งด่วน ลงพื้นที่มาตรวจสอบเรื่องราวความเป็นมา ทางผู้บังคับบัญชาสั่งการมาให้หาข้อยุติมีอะไรมาพูดคุยกัน สำหรับในพื้นที่แก้ปัญหาไม่ได้ให้รายงานกับผู้บังคับบัญชาตามสายงาน ลงนามร่วมกันทุกฝ่ายปรับความเข้าใจกันจากนั้นได้มอบของอุปโภคบริโภคให้กับหน่วยงานที่มาร่วมประชุมกัน

ส่วน นายแดน เนตรสน หน.ศูนย์พิทักษ์ป่าที่ 4 (บ้านเสน่ห์พ่อง) เปิดเผยว่า ตนเองได้ขอโทษ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ที่ได้เกิดความเข้าใจผิด ซึ่งทุกอย่างเราปฏิบัติตามระเบียบเพื่อประโยชน์ส่วนร่วม ซึ่งตนเองรับราชการอยู่ในพื้นที่นี้มาหลาย 10 ปี รักที่นี่เหมือนกัน.