บุรุษพยาบาลย่องเงียบ แจงญาติผู้ป่วยกรณีลูกสาวแจ้งความพ่อเลี้ยงถูกทำร้ายขณะเข้ารับการรักษา ยันไม่ได้ทำร้ายผู้ป่วย สุดท้ายจบสวย ด้านญาติผู้ป่วยขอให้เป็นอุทาหรณ์ทั้งเรื่องความสุภาพในการบริการ และการชี้แจงด้วยความจริงตั้งแต่ต้น...
จากกรณีนางสาวศรินทิพย์ อิ่มใจ อายุ 45 ปี ลูกบุญธรรมของนายพินันท์ ประเคนทอง อายุ 65 ปี ปัจจุบันเสียชีวิตแล้วด้วยอาการของโรคเนื้องอกในสมอง ได้เข้าร้องเรียนเจ้าหน้าที่ตรำวจ สภ.เมืองขอนแก่น ตรวจสอบพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลรัฐชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น ได้ทำร้ายพ่อบุญธรรมขณะเข้ารับการรักษาภายในห้องฉุกเฉิน
ต่อมาได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ปรากฏภาพบุรุษพยาบาลเดินเข้ามาหาผู้ป่วยและใช้มือยื่นมาที่ใบหน้าลักษณะเหมือนทำร้ายร่างกายผู้ป่วย ก่อนจะบังคับให้ผู้ป่วยนอนลงและชี้หน้าผู้ป่วยลักษณะเหมือนด่าทอทำให้ญาติๆ เห็นคลิปต่างก็ไม่พอและเรียกร้องให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น เอาผิดกับบุรุษพยาบาลรายดังกล่าวนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 8 ธ.ค.61 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.ศรินทิพย์ อิ่มใจ ลูกสาวบุญธรรมของผู้ป่วยในคลิป ได้ส่งคลิปบุรุษพยาบาลที่อยู่ในคลิป ชี้แจงว่า "รู้สึกเสียใจที่ทำให้ญาติรู้สึกแบบนั้น แต่วัตถุประสงค์ทั้งหมดคือต้องการย้ำให้ผู้ป่วยนอนอยู่นิ่งๆ เดี๋ยวจะตกเตียง" ไม่ได้ทำร้ายผู้ป่วย แต่พบเห็นผู้ป่วยใช้แขนข้างซ้ายดิ้นจนเชือกที่ผูกเอาไว้หลุดออก ก่อนจะลุกขึ้นมานั่งพร้อมกับเอามือไปแกะผ้าพันแผลที่ศีรษะออก จึงเดินเข้าไปเพื่อจะคว้ามือผู้ป่วยไม่ให้แกะ แต่จังหวะที่กำลังคว้านั้น ผู้ป่วยเอามือออกก่อน ทำให้จับมือไม่โดน และผู้ป่วยก็นอนลงเอง ก่อนที่จะบอกกับผู้ป่วยว่า นอนนิ่งๆ เดี๋ยวจะตกเตียง พร้อมทั้งผูกเชือกมัดมือผู้ป่วยไว้กับเตียงให้แน่นอีกครั้ง หากกิริยาที่กระทำลงไปไม่เหมาะสมตนเองก็รู้สึกเสียใจที่ทำให้ญาติรู้สึกไม่ดีกับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมกับแสดงท่าทางที่กระทำในวันนั้นให้ญาติดู ซึ่งยืนยันว่าจับมือผู้ป่วยไม่โดน
...
น.ส.ศรินทิพย์ กล่าวว่า หลังจากที่มีการร่วมกันตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดร่วมกันทุกฝ่าย แต่บุรุษพยาบาลในคลิปไม่ได้เดินทางมาร่วมด้วย แต่เดินทางมาพบญาติภายหลังจากที่สื่อมวลชนไป ซึ่งทางบุรุษพยาบาลได้เข้ามาเจรจากับญาติ ยอมรับและขอโทษ ว่าปฏิบัติต่อผู้ป่วยด้วยท่าทางไม่เหมาะสม และค่อนข้างรุนแรง ซึ่งหลังจากที่ได้มีการพูดคุยกับตัวบุรุษพยาบาลแล้ว ทำให้ญาติรู้สึกพอใจ รวมทั้งได้ดูคลิปวงจรปิดอย่างละเอียดหลายรอบ ทำให้ญาติเชื่อได้ว่า พ่อไม่ได้ถูกทำร้าย เพราะก่อนหน้านี้ได้ดูเพียงแค่รอบเดียว และไม่สามารถบันทึกภาพกลับไปได้เนื่องจากทางโรงพยาบาลไม่อนุญาตให้ถ่ายบันทึกภาพไป พร้อมทั้งคำพูดของทางโรงพยาบาลทุกครั้งที่โทรมาชี้แจงพูดไม่เหมือนกันสักครั้งทำให้ตนเองรู้สึกสับสนว่าสิ่งใดคือความจริง
จนตัดสินใจเข้าแจ้งความเพื่อให้เกิดความถูกต้องและเป็นธรรม หลังจากเมื่อวานที่ผ่านมาก็ถือว่าสบายใจ ที่ทางโรงพยาบาลยอมรับว่าเกิดจากความบกพร่องในการดูแลผู้ป่วย ปล่อยให้ผู้ป่วยตกเตียง แต่ญาติยังไม่สบายใจต่อการกระทำของพยาบาลที่บอกว่าดึงมือพ่อ ซึ่งมีลักษณะเหมือนใช้ความรุนแรง และมีท่าทีเหมือนต่อว่าพ่อ ญาติยืนยันตั้งแต่แรกว่าไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต และได้ฌาปนกิจแล้ว แต่ต้องการความชัดเจนเพราะศพมีรอยเย็บที่คิ้วและรอยช้ำที่ดวงตา ซึ่งไม่ใช่สาเหตุที่เข้ารักษา รวมทั้งไม่ได้รับคำชี้แจงที่ชัดเจนจากแพทย์ตั้งแต่แรก เพราะครั้งแรกบอกว่าเป็นมาตั้งแต่เข้ารับการรักษา พอทักท้วงจึงยอมรับในภายหลังว่าผู้ป่วยตกเตียง การตรวจสอบภาพวงจรปิดครั้งแรกได้ดูเพียงรอบเดียวและมีคำชี้แจงไม่ชัดเจนและกลับคำ ทำให้ญาติเกิดความสับสนและเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงต้องเข้าแจ้งความกับตำรวจ
แต่ภายหลังได้รับการชี้แจงจาก โรงพยาบาลและบุรุษพยาบาลได้เข้ามาพูดคุยกับญาติก็คลายความกังวลแล้ว และไม่ติดใจสงสัย โดย รพ.ยอมรับบกพร่องในการดูแลทำให้ผู้ป่วยตกเตียง และบุรุษพยาบาลยอมรับใช้ท่าทางไม่เหมาะสมและค่อนข้างรุนแรง ทำให้ญาติเชื่อว่าถูกทำร้าย ตนเองขอฝากในเรื่องการปฏิบัติต่อผู้ป่วยที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง เข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ต้องทำงานหนัก แต่ก็ควรทำความเข้าใจกับผู้ป่วยและญาติให้ชัดเจน และอยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์กับทุกฝ่ายต่อไป และการดำเนินการตามกฎหมายก็สิ้นสุดจบลงด้วยการพูดคุยกันจนเข้าใจ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง