เภสัชกรสาว เปิดใจบอกลาอาชีพที่รัก เพราะหมดแรงบันดาลใจ หรือ passion ก่อนจากกันฝากวิธีใช้ยาไว้เป็นของขวัญ
แฟนเพจเฟซบุ๊ก ใบเฟิร์นเภสัช & drug-a-holic เช่าเสื้อโค้ท by เภสัช โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า วันนี้ (30 พ.ย.) ขายยาวันสุดท้าย (ในชีวิต?) ตลอดระยะเวลาการทำงานมา 3 ปี เภสัช รู้สึกว่าความสุขในชีวิตมันลดลงทุกปี เจอเรื่องราว หรือเคสบั่นทอนจิตใจ สะสมเรื่อยๆ มานานทุกวันมาหลายปี ก่อนจากกันขอฝากอะไรสั้นๆ ที่เจอทุกวันในร้านยา เรื่องใกล้ตัวเล็กๆ น้อยๆ แต่เจอทุกวัน
- ยาแก้อักเสบ ไม่ใช่ยาฆ่าเชื้อ
- เจ็บคออย่างเดียวไม่ต้องกินยาฆ่าเชื้อ
- เจ็บคอ เจ็บข้างๆ คอซ้ายขวา(ต่อมทอนซิล) น้ำมูก/เสมหะ เขียวเหลือง 3 วันอาการไม่ดีขึ้น ส่องคอ คอแดง มีจุดหนอง ค่อยกินยาฆ่าเชื้อ ทุกครั้งที่กินยาฆ่าเชื้อต้องกินจนหมด ดีขึ้นแล้วก็ห้ามหยุด ตอนนี้อาจจะไม่เป็นอะไร แต่ต่อไปจะดื้อยาในอนาคต
- ไอแห้งกับไอมีเสมหะ ตัวยารักษาคนละตัวกัน
- ยาเลื่อนประจำเดือนกินตามน้ำหนัก กินก่อนวันที่คิดว่าจะมาหรือวันที่จะทำธุระ 2-3 วัน ถ้าประจำเดือนมาแล้ว กินไปไม่ได้เกิดประโยชน์
- ยาคุมฉุกเฉิน ห้ามกินเกิน "2 กล่องต่อเดือน" ไม่ใช่ 2 กล่องต่อชีวิต เรื่องนี้เข้าใจผิดกันแทบทุกคน แต่ถามว่ากินได้เดือนละ 2 กล่อง แล้วกินบ่อยดีไหม คำตอบคือไม่ดี กินเท่าที่จำเป็น เพราะถ้าวันใดวันนึง อยากมีลูกจริงๆ จะเพิ่มโอกาสท้องนอกมดลูก ถ้าคิดว่าตัวเองจะต้องกินยาคุมฉุกเฉินบ่อยๆ ให้เปลี่ยนเป็นยาคุมแบบรายเดือน
- ยาโรคเรื้อรัง เบาหวาน หัวใจ ความดัน ห้ามหยุดยาเอง ห้ามปรับขนาดยาเอง
...
- เกลือแร่ท้องเสีย กับเกลือแร่ออกกำลังกาย ไม่เหมือนกัน
- เกลือแร่สำหรับท้องเสีย "ไม่ได้รักษาท้องเสีย" แต่กินเพื่อชดเชยแร่ธาตุต่างๆ ที่สูญเสียไป เพื่อที่จะได้ไม่อ่อนเพลีย เป็นลม และห้ามดื่มทีเดียวหมด แต่ใช้วิธีจิบบ่อยๆ ซึ่งการดื่มทีเดียวหมดจะยิ่งทำให้ท้องเสีย เพราะเกลือแร่มีคุณสมบัติดูดน้ำเข้าหาตัว จึงเป็นเหตุผลที่หลายคนชอบบอกว่ากินเกลือแร่แล้วไม่เห็นจะดีขึ้นเลย
- ยาคลายกล้ามเนื้อบางยี่ห้อมีตัวยาพาราผสมอยู่แล้ว ห้ามกินพาราเพิ่มเข้าไปอีก เพราะโดสพาราจะเกิน ก่อนจะหยิบพารากินเพิ่ม ดูส่วนประกอบของยาคลายกล้ามเนื้อด้วยว่ามีพาราอยู่แล้วหรือยัง
- ยาหยอดตาทุกชนิดเปิดฝาแล้วใช้ได้ 1 เดือน และห้ามใช้ร่วมกับคนอื่นเด็ดขาด
- ยาที่คนเรียกกันว่า ยาล้างไต ไม่ได้รักษาโรคไต ถ้ารักษาได้จริงโลกนี้จะไม่มีผู้ป่วยโรคไต
- เวลาเจ็บปวดอะไรสักอย่าง ยาแก้อักเสบ เช่น ibuprofen, diclofenac, naproxen,mefenamic acid, piroxicam, celecoxib กินยาแก้อักเสบตัวเดียวชนิดเดียวพอ อาจกินเสริมกับยาคลายกล้ามเนื้อได้ แต่ไม่ควรกินยาแก้อักเสบ 2 ชนิดร่วมกัน เพราะจะยิ่งระคายเคืองกระเพาะ และยิ่งมีผลต่อไต
- ยาแก้อักเสบ ที่เขาพูดกันว่ากัดกระเพาะ ฟังดูแรง แต่มันก็ไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้น แค่กินหลังอาหารทันที เพื่อจะได้ไม่ระคายเคืองกระเพาะ
- ยาทาสเตียรอยด์ ทาบางๆ และทาเฉพาะเมื่อมีอาการ ความแรงสเตียรอยด์มีหลายระดับ ไม่ใช่ว่ามี 1 หลอด สามารถทาได้ทุกส่วนในร่างกาย ถ้าทาหน้าหรือผิวหนังอ่อนๆ หรือเด็กเล็กมากๆ ให้ใช้ระดับอ่อนสุด-กลางๆ เท่านั้น ห้ามใช้ระดับแรงๆ
- ยาลดน้ำมูกมีแบบง่วงกับไม่ง่วง แบบง่วง ฤทธิ์แรงกว่า ลดน้ำมูก คัดจมูก ได้หมด แต่ออกฤทธิ์สั้น เลยต้องกินบ่อย เช้า กลางวัน เย็น แบบไม่ง่วง ลดน้ำมูกได้ในระดับนึง (คัดจมูกไม่ได้) แต่ออกฤทธิ์ยาว กินแค่วันละครั้ง (ฤทธิ์ยาวแต่อ่อนๆ)
ถ้าทั้งน้ำมูกทั้งคัดจมูกมากๆ แต่ทำงาน ขับรถ ใช้เครื่องจักร ที่ง่วงนอนไม่ได้ ให้ใช้วิธี กลางวันกินแบบไม่ง่วง ก่อนนอนกินแบบง่วงหรืออาจเปลี่ยนไปกินยาลดน้ำมูกแบบไม่ง่วงรุ่นใหม่ล่าสุด ที่เป็นการเอารุ่นเก่าไปพัฒนาชื่อตัวยาจะขึ้นต้นด้วย Des... Levo... รุ่นใหม่หน่อย ราคาแพงหน่อย แต่ประสิทธิภาพดี
- ยาสตรีทั้งหลาย ไม่ได้มีไว้ทำแท้ง นอกจากทำแท้งไม่ได้ยังเสี่ยงลูกออกมาพิการเคยมีเด็กวัยรุ่นมาซื้อยาสตรีทุก 30 นาที ซื้อจนเราพอจะเดาออกว่าซื้อไปทำอะไรเราต้องรีบตัดสินใจปิดร้าน เพราะกลัวว่าถ้าไม่ขายให้จะโดนทำร้าย
"ที่เจอบ่อยๆ ทุกวันก็จะประมาณนี้ค่า วันนี้เปิดวันสุดท้าย แวะมาลาเภสัชกันได้น๊าาา
หมด passion การเป็นเภสัชกรแล้วค่ะ"
(ขอบคุณข้อมูลจาก Puntharee Limkarnjanachot และ ใบเฟิร์นเภสัช & drug-a-holic เช่าเสื้อโค้ท by เภสัช)