อัจฉริยะ ประกาศชัด ถ้าหมอเลียจิ๋ม..เขาเสร็จผม ลั่น ผมจะไปจับหมอ ไม่ได้ไปช่วย พบคนไข้สาวส่อให้ข้อมูลไม่ตรงกัน พบบันทึกประจำวันลงไว้ว่าเลียหู แต่ไปออกรายการบอก เลียอวัยะเพศ
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ไลฟ์สดผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ตอน ถามงงๆ กับอัจฉริยะ เรคคอร์ด ซึ่งพูดถึงคดีหมอสูติฯ ข่มขืนว่า ที่ลงพื้นที่ไปนครสวรรค์นั้น เพราะเราอยากเห็นความจริง ซึ่งตนได้บอกท่าน ผกก.ว่า อยากคุยกับหมอ และขอไปดูสถานที่เกิดเหตุ ซึ่งมีความเป็นไปได้ไหมที่จะมีการละเมิดทางเพศภายในคลินิก
ทั้งนี้ ตนไม่ได้ยุ่งในคดีเลย ซึ่งเราไม่สามารถไปยุ่งในคดีความได้อยู่แล้ว ตนก็ต้องขอบคุณนักข่าวทุกช่องที่ไปทำข่าวเมื่อวาน ตนก็อยากไปเห็นความจริง อยากเห็นว่าเป็นอย่างไร โดยก่อนลงพื้นที่ก็ศึกษาข้อมูลมาก่อน โดยทีมงานทราบว่ามีบันทึกลงประจำวันไว้ปี 2560 และทีมงานก็ไปสอบประวัติหมอมาก่อนหน้านี้แล้วประมาณ 1 อาทิตย์
อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้ประชาชนทั้งประเทศรับรู้ ตนเชิญคุณหมอที่เป็นที่ปรึกษาของชมรมฯ ไปด้วยอีกหนึ่งท่าน โดยตนอยากรู้ว่า ผู้เสียหายที่เคยไปออกรายการพูดผ่านสื่อนั้น เขาพูดจริงไหม และพูดตรงกับที่เคยไปลงบันทึกประจำวันหรือไม่
จากการพูดคุยกับตำรวจ ทำให้ทราบว่า เคยมีคนมาลงบันทึกประจำวัน 3 เคสเมื่อปี 60 โดยอ้างว่าเกิดเหตุเมื่อปี 58 และ 59 โดยผู้หญิง 2 คนที่อ้างว่า ถูกลูบคลำอวัยวะเพศ เนื่องจากมากตรวจภายใน ซึ่งมีการพูดคุยกันแล้วว่า เป็นการรักษาทางการแพทย์ จึงไม่ติดใจเอาความ
...
แต่คนที่ 3 อ้างว่า หมอจับอวัยวะเพศ และหน้าอก เลียใบหู ซึ่งคนที่ 3 ไปออกรายการทีวี บอกว่าเลียอวัยวะเพศ แต่ในคำบันทึกยืนยันว่า เลียใบหู ไม่ใช่อวัยวะเพศ ซึ่งคนนี้ได้เงินไป 3 หมื่น มีจุดที่น่าสงสัยคือ คนที่พูดเขาเป็นฝีที่อวัยวะเพศ ตนขอถามหน่อย ใครจะไปเลีย มันมีหนอง มีเชื้อโรคอยู่ จุดนี้ต้องมองด้วยความเป็นธรรม และคุณเป็นคนพูดฝ่ายเดียว สิ่งที่คุณควรจะบอกตอนไปออกรายการคือ เขาเลียหู ไม่ใช่อวัยวะเพศ
"บอกเลยเมื่อวานที่ไป ผมจะไปจับหมอ ไม่ได้ไปช่วยหมอ ไม่ได้ไปจับผู้เสียหาย ถ้าหมอเลียจิ๋มจริง เขาเสร็จผมแน่นอน คนที่ไปออกรายการกล้ามาดีเบตกับผมไหม ว่าคุณไปลงบันทึกประจำวันไหมว่า เลียจิ๋ม เอาคุณนิด้า หรือ คุณบุ๋มมาเป็นพยานได้เลย ว่าที่ไปลงบันทึกประจำวันกับที่ไปออกรายการว่าเลียอะไร"
อย่างไรก็ตาม ตนและทีมงาน ได้สอบหมอคนดังกล่าว ต่อหน้าพยานที่เป็นหมออีกคนว่า ทำไมถึงยอมจ่าย 3 แสนบาทถ้าคุณไม่ได้ทำผิด คุณจะจ่ายทำไม เขาตอบกลับมาว่า "คนนี้สเปกผมเลย ผมชอบมาก ที่ผมจ่ายคิดว่ามันจะจบ ไม่คิดว่าจะบานปลาย"
ขณะเดียวกัน มีการจำลองวันที่เกิดเหตุในคลินิก พร้อมให้หมอมาสาธิตให้ดู ซึ่งจากคลิปจะเห็นว่า ให้หมอลองยืนโดยไม่มีเก้าอี้ หมอจะไม่สามารถปล้ำจูบได้ แต่ถ้าหมอยืนบนเก้าอี้ ก็สามารถปล้ำจูบ ถ้าเหยื่อยอายุ 29 ปี น้ำหนัก 90 กก. สูง 150 ซม. มือไม่ได้ถูกล็อก ถ้าหมอ ทำจริง ขาใหญ่ อ้วน ถ้ามีการขืนใจ ถ้าถูกละเมิดทางเพศ สามารถต่อยได้ ตีได้ บีบคอหมอยังได้ ขาก็ไม่ได้ถูกล็อก ถีบหน้าหมอยังได้เลย ถ้าไม่ยินยอมหมอจะสอดใส่ได้อย่างไร ถ้าทำได้ผู้หญิงต้องยินยอม ซึ่งสามีเขานั่งข้างนอก เขาร้องได้ หมอไม่ได้วางยาสลบ นี่คือความจริง
อย่างไรก็ตาม ในมุมมองผมหมอคนนี้ผิดจรรยาบรรณแพทย์ ขาดศีลธรรมอันดีงาม การที่ไม่มีบุคคลที่ 3 ก็ถือว่าผิดแล้ว หมอคนนี้เป็นคนเจ้าชู้ มือไว ซึ่งการที่คุณจะดำเนินคดีกับหมอ ต้องมีหลักฐาน พยานแน่น ตนไม่เข้าข้างใคร
(คลิก ชมคลิป ที่นี่)