นักสืบหญิงชื่อดัง แอดมินเพจเฟซบุ๊ก นักสืบคลายทุกข์ ตั้งข้อสังเกต 9 ปมประเด็น "หมอสูติฯข่มขืนคนไข้"
แฟนเพจเฟซบุ๊ก นักสืบ คลายทุกข์ หรือ กุ้ง-อำนวยพร มณีวรรณ์ นักสืบหญิงชื่อดัง โพสต์ข้อความระบุว่า คดีหมอสูติฯ ที่กำลังดังในโซเชียลตอนนี้ มีสิ่งที่น่าสนใจหลายประเด็น ทนายดังออกมาตอบโต้กัน แต่ขอแสดงความคิดเห็นในสิ่งที่เกิดขึ้น ดังนี้
- ประเด็นแรก ครั้งแรกที่กล่าวอ้างว่าหมอสูติฯ ลวนลาม แล้วทำไมกลับไปหาหมออีกเพื่อให้หมอกระทำชำเราอีกเป็นครั้ง 2 ถ้าเป็นบุคคลทั่วไปเขาจะกลับไปอีกไหม ไม่กลัว ไม่เข็ดหรือ?
- ประเด็นที่สอง ถ้าต้องการเก็บหลักฐานต้องทำถึงขนาดให้หมอกระทำชำเราเลยหรือ? ลงทุนขนาดเอาตัวเข้าแลกกับหลักฐาน มันคุ้มไหม
- ประเด็นที่สาม คลินิกสูตินารีในจังหวัดนี้มีที่เดียวหรือ? เลือกไปใช้บริการคลินิกสูตินรีเวช มีหมอเป็นหญิงก็ได้ ถ้าคลินิกหรือโรงพยาบาลไหนไม่มีหมอผู้หญิง ก็ไปที่อื่นได้
- ประเด็นที่สี่ ขาหยั่งตรวจภายในมันสูงพอควร สัญชาตญาณ ถ้ามีสิ่งแปลกๆ เข้าภายใน น่าจะไม่ใช่อุปกรณ์ทางการแพทย์ บอกหมอขอหยุดการตรวจรักษาทันทีได้ ถ้าหมอไม่หยุดถีบเลย เขาไม่ได้มัดขาเราไว้
- ประเด็นที่ห้า ถ้าถูกกระทำต้องรีบไปแจ้งความทันที ตำรวจจะได้ส่งตัวไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจหาสาร ตรวจหาร่องรอย บาดแผล หรือฟกช้ำดำเขียวที่ถูกกระทำ ปล่อยไว้หลายวัน ไม่เหลือร่องรอยการต่อสู้คดีก็ลำบาก
...
- ประเด็นที่หก ผู้เสียหายยอมรับเงินจากหมอไปแล้ว แสดงว่ายอมความไม่ติดใจเอาความหมออีกต่อไป การที่หมอให้เงินก็อาจจะมีประเด็นการต่อสู้อีกให้เพื่ออะไร ทำไมยอมให้
- ประเด็นที่เจ็ด การที่ยอมความไปแล้ว กลับมาดำเนินคดีกับหมออีก และออกสื่อเจตนาอะไร ต้องการให้เสียชื่อหรือไม่?
- ประเด็นที่แปด การได้มาของพยานหลักฐานโดยไม่ชอบ ซึ่งผู้เสียหายร่วมกับความผิดด้วย จึงไม่อาจอ้างเป็นพยานหลักฐานได้
- ประเด็นที่เก้า มีผู้เสียหายอีกจำนวนมากที่อ้างว่าถูกหมอคนดังกล่าวลวนลาม, กระทำชำเรา ผ่านมาเป็นระยะเวลานาน 15 ปีที่แล้ว แต่เพิ่งออกมาพูดตอนนี้ต้องคิดให้รอบคอบ
ทั้งนี้ จะส่งผลกระทบถึงครอบครัว อาจได้รับความอับอาย เพราะเป็นการประจานตัวเองหรือไม่? หญิงบางคนอาจจะไปแต่งงานมีครอบครัว มีลูก มีสามีที่ดี ซึ่งอาจได้รับผลกระทบทำให้ครอบครัวมีปัญหา