คนไข้ฉุกเฉินต้องรู้! โรงพยาบาลปฏิเสธการรักษา เข้าข่ายผิดกฎหมาย หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่น
จากกรณีสาวถูกสาดน้ำกรดกับลูกวัย 12 ปี พากันขึ้นรถแท็กซี่ไปโรงพยาบาล แต่กลับถูกปฏิเสธการรักษา สุดท้ายทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตกลางทางนั้น
ทนายรัชพล ศิริสาคร แอดมินเพจ สายตรงกฎหมาย ระบุว่า การที่โรงพยาบาลปฏิเสธการรักษาคนไข้ ถือเป็นเรื่องไร้จรรยาบรรณอย่างร้ายแรงมาก และยังผิดกฎหมายด้วย ทั้งนี้ตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 มาตรา 36 และมาตรา 66 มีหลักดังนี้
ทั้งนี้ สถานพยาบาลต้องควบคุมและดูแลให้มีการช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ป่วย ซึ่งอยู่ในสภาพอันตรายและจำเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลโดยฉุกเฉิน เพื่อให้ผู้ป่วยพ้นจากอันตรายตามมาตรฐานวิชาชีพและประเภทของสถานพยาบาลนั้นๆ หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนั้น ผู้เสียหายยังเรียกค่าเสียหายได้อีก
อย่างไรก็ตาม เคยมีคำพิพากษาของศาลฎีกา ที่ 11332/2555 พิพากษาว่า มีผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ มีอาการเจ็บปวด มีภาวะการบอบช้ำของสมองและโลหิตออกในสมอง จะต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
ทั้งนี้ พยาบาลเวรกลับสอบถามเรื่องใครจะรับผิดชอบค่าใช้จ่าย เมื่อไม่มีคำตอบ จึงปฏิเสธที่จะรับผู้ป่วย และแนะนำให้ไปรักษายังโรงพยาบาลของรัฐ ซึ่งการปฏิเสธดังกล่าว ถือได้ว่าเป็นผลโดยตรงที่ทำให้ผู้ป่วยตาย สถานพยาบาลต้องชดใช้ค่าเสียหายให้ญาติผู้เสียชีวิต
ดังนั้น สถานพยาบาล ไม่สามารถปฏิเสธผู้ป่วยฉุกเฉินได้ เพราะหากฝ่าฝืนจะมีโทษตามกฎหมายและต้องชดใช้ค่าเสียหาย ซึ่งผู้เสียหายควรเข้าแจ้งความดำเนินคดีไว้ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
การรับโทษทางทางอาญา ใครเป็นคนออกคำสั่งไม่รับผู้ป่วย คนนั้นอาจติดคุกได้ ส่วนโรงพยาบาล อาจต้องเสียค่าปรับ นอกจากนั้น ในเรื่องค่าเสียหาย คนที่ออกคำสั่งไม่รับผู้ป่วย และโรงพยาบาล อาจต้องร่วมกันรับผิดชอบ
...