นับเป็นอีกคดีที่สะเทือนวงการสงฆ์ของไทย เริ่มต้นเมื่อปี 2556 จุดที่ทำให้ 'เณรคำ' เป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศ หลังมีการเผยแพร่คลิปพระสงฆ์ 3 รูป นั่งเครื่องบินส่วนตัว พกกระเป๋าแบรนด์เนม พร้อมใช้แว่นตาราคาแพง จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในโลกออนไลน์ถึงความไม่เหมาะสม...

สำหรับประวัติ อดีตพระเณรคำ ฉัตติโก หรือ นายวิรพล สุขผล เกิดเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2522 ที่จังหวัดอุบลราชธานี อยู่ที่วัดป่าขันติธรรม จังหวัดศรีสะเกษ ทั้งยังเป็นผู้เขียนหนังสือ 'ชาติหน้าไม่ขอเกิด' และ 'นิพพานมีจริง' ขณะที่ ทีมข่าวเจาะประเด็น จะพาย้อนกลับไปถึงเรื่องราวและคดีของอดีตพระเณรคำ

หลังจากเรื่องราวสุดฉาวของ 'อดีตพระเณรคำ' ถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความชื่อดัง ได้เดินหน้านำข้อมูลที่เกี่ยวข้องไปร้องทุกข์ต่อกองปราบปรามให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงของพระเณรคำ DSI จึงสืบหาข้อมูล จนทราบว่ามีการทำผิดวินัยสงฆ์อย่างร้ายแรง ถึงขั้นต้องอาบัติปาราชิก จึงอายัดบัญชีเงินฝากกว่า 21 บัญชี วงเงินกว่า 200 ล้านบาท

...

นอกจากนี้ 'อดีตเณรคำ' ยังถูกสื่อและคนที่เคยศรัทธา เปิดเผยถึงพฤติกรรมอื้อฉาวมากมาย พร้อมทั้งถูกดีเอสไอออกหมายจับ 5 ข้อหา คือ 1. พรากผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 15 ปี 2. กระทำชำเราเด็กหญิง 3. ฉ้อโกงประชาชน 4. ความผิดฐานฟอกเงิน 5. ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฐานอวดอุตริมนุสธรรมผ่านเว็บไซต์

หลังจากนั้น อดีตเณรคำ ได้หลบหนีไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น 'พระวิมุติญาณ' แห่งวัดป่าขันติบารมี ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง มีเนื้อที่ประมาณ 2 เอเคอร์ เมืองซานติเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยมีสถานภาพเป็นผู้ลี้ภัย ซึ่งก็ยังมีภาพทำกิจนิมนต์อย่างพระสงฆ์ ถูกเผยแพร่ออกมาอย่างต่อเนื่อง

กระทั่งวันที่ 22 กรกฎาคม 2559 เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ จับกุม 'อดีตเณรคำ' ได้บริเวณย่านริเวอร์ไซด์ อิส ลอสแอนเจลิส จากนั้นวันที่ 15 กรกฎาคม 2560 ศาลชั้นต้นแคลิฟอร์เนีย มีคำสั่งให้ส่งตัว นายวิรพล เป็นผู้ร้ายข้ามแดน ตาม พ.ร.บ.ความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา พ.ศ.2535 เพื่อขอตัวกลับมาดำเนินคดีในไทย

ต่อมาวันที่ 18 กรกฎาคม 2560 อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เผยว่า อดีตพระเณรคำ กำลังถูกควบคุมตัว และจะถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย ในวันที่ 19 ก.ค.60 ด้วยสายการบินไทย จากนั้นจะควบคุมตัวไปที่กรมสอบสวนคดีพิเศษทันที คาดใช้เวลาไม่เกิน 1-2 วัน จะสรุปสำนวน ส่งตัวให้อัยการส่งฟ้องศาลได้ แต่ อดีตพระเณรคำ ยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมขอไปให้สู้คดีในชั้นศาล

จนวันที่ 9 สิงหาคม 2561 ศาลได้นัดอ่านคำพิพากษา ตัดสินให้จำเลยมีความผิด ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป รวมจำคุกจำเลยทั้งสิ้น 114 ปี แต่ตามกฎหมาย เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว จำคุกสูงสุดตาม ม.91(2) ได้ 20 ปี และให้ชดใช้เงินกับผู้เสียหายกับ 29 ราย ตามจำนวนที่ได้ฉ้อโกง

ล่าสุด 17 ตุลาคม 2561 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดี 'อดีตหลวงปู่เณรคำ' ที่พนักงานอัยการคดีอาญายื่นฟ้อง ความผิดฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี และกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งไม่ใช่ภริยาตนฯ จึงเห็นควรให้ลงโทษสถานหนักจำคุกจำเลยเป็นเวลา 16 ปี และให้นับโทษจำเลยในคดีฉ้อโกงประชาชน รวมด้วยอีก 20 ปี จึงรวมจำคุกทั้งหมด 36 ปี.