"จ่าพิชิต" หนุนแพทยสภา แก้ไขปัญหาการสื่อสารระหว่างบุคลากรทางการแพทย์ กับ คนไข้ หลังโซเชียลสะท้อนปัญหา ย้ำ ไม่ต้องพูดจาภาษาพิกุลแช่น้ำผึ้ง แต่ขอให้แคร์ความรู้สึกกันหน่อยก็พอ...

จากกรณีโลกออนไลน์แชร์คลิปพยาบาลปาผ้าใส่คนไข้ ซึ่งช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ พร้อมกระชากคนไข้จนเกือบตกเตียง ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก ซึ่งภายหลังทางโรงพยาบาลได้แถลงการณ์ขอโทษแล้วนั้น

ทั้งนี้ นพ.วิทวัส ศิริประชัย อดีต ผอ.โรงพยาบาลเกาะลันตา หรือ จ่าพิชิต เจ้าของแฟนเพจ Drama-addict ได้โพสต์ภาพคอมเมนต์ของผู้ใช้เฟซบุ๊ก Tamer Moonlord ที่ระบุว่า อยากให้บุคลากรทางการแพทย์ มีการอบรมทักษะการสื่อสาร เพราะปัญหาหมอกับคนไข้มากกว่าครึ่งมาจากการสื่อสารที่ไม่แคร์ความรู้สึกคนไข้กับญาติ ซึ่งตนเองโดนมากับตัว อย่างเช่น ตนท้องเสียแล้วหมอถามว่าไปกินอะไรผิดสำแดงมา ตนก็ตอบไปว่า กินข้าวร้านข้างทางมา แต่หมอกลับพูดว่า "มีงานมีเงินแล้วกินข้าวข้างทางไม่ได้แล้วสินะ" ซึ่งตนไม่รู้ว่าหมอพูดจริงหรือเอาขำ

หรือตอนที่ตนพาหลาน 3-4 ขวบ ถูกแมลงกัดแขนจนบวม หมอได้บอกว่า ต้องดูอาการ 1 คืน ถ้าไม่ยุบต้องตัดแขนตัดขาทิ้ง ซึ่งพูดต่อหน้าเด็ก หลานฟังแล้วก็ร้องไห้ และตอนนี้ญาติป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ไม่ตอบสนองต่อการรักษา หมอได้พูดว่า ถ้ากลับบ้านไปไม่ถึงเดือนตายแน่นอน จากที่กล่าวมา ตนขอย้ำว่าไม่ต้องการบริการสิบดาวพูดภาษาพิกุลแช่น้ำผึ้ง เข้าใจว่าหมอห้ามโกหก แต่อยากให้ช่วยแคร์ความรู้สึกและคิดก่อนพูดหน่อย

โดยทางเพจ ระบุต่อว่า ความเห็นน่าสนใจ สืบเนื่องจากประเด็นดราม่าพยาบาลใน ICU ที่กำลังเป็นข่าวกัน อันนี้เห็นด้วยอย่างยิ่ง อิงจากสมัยเรียน เราไม่มีการสอนเรื่องแนวๆ นี้ในหลักสูตรจริงๆ นะ รวมไปถึงเรื่องการสอนว่าเวลาอยู่ในสถานการณ์ที่ตึงเครียด หมอพยาบาลจะใช้คำพูดในลักษณะไหนให้สถานการณ์มันผ่อนคลายลงและแก้ไขปัญหาได้แบบสมูธๆ

...

ส่วนมากคือจบมาแล้วก็ครูพักลักจำกันเอาหรืออิมโพรไวส์กันเอาเอง ถ้าได้ตัวอย่างที่ดีมาก็ดีไป ถ้าได้ตัวอย่างที่แย่มาก็ แหม่..... ซึ่งเรียกพวกนี้มันเป็นศิลปะในการสื่อสาร สื่อสารดี ต่อให้สถานการณ์มันแย่ก็อาจหาทางออกได้ แต่บางรายรักษาดีเต็มที่สุดๆ แต่การสื่อสารแย่ แบบนั้นก็มีปัญหาฟ้องร้องตามมาได้

"วันก่อนไปคุยกับผู้หลักผู้ใหญ่ในแพทยสภามา ท่านก็บอกว่า เรื่องนี้เป็นปัญหาจริงๆ แล้วการฟ้องร้องกันในบ้านเราส่วนมาก มักเกิดจากเรื่องแบบนี้ละ ซึ่งเขาก็กำลังหาทางปรับปรุงแก้ไขกันอยู่ อันนี้พ่อแม่พี่น้องที่ไปใช้บริการที่ รพ. มาแล้วเจอปัญหาอะไรทำนองนี้มาเล่าสู่กันฟังได้ จะได้เอาไปเป็นข้อมูลประกอบตอนคุยกับคนที่เขาออกนโยบายแก้ไขหลักสูตรพวกนี้ได้"

(ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Drama-addict, Tamer Moonlord)