จิตแพทย์ ยกเคส "บอย สกล" เปรียบเทียบชัดๆ เข้าข่ายผู้ป่วยโรคจิตเภท (schizophrenia) หรือ มิจฉาชีพ ฉลาดแกมโกง ชี้คนส่วนใหญ่ตกเป็นเหยื่อจากความขี้สงสาร ความลุ่มหลง...
จากกรณีหนุ่มคนดังที่ถูกชาวทวิตเตอร์ออกมาแฉว่า แอบอ้างสวมชุดเข้าเรียน มธ.-จุฬาฯ ถือป้ายงานบอล ทั้งที่ไม่ได้เป็นนิสิต ทั้งยังมีข้อครหาเรื่องเงินกิจกรรมคณะ และพบพฤติกรรมเนียนโกหกมาตั้งแต่มัธยมนั้น
ล่าสุด (11 ก.ย.61) มีรายงานว่า นพ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล จิตแพทย์ชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความยกตัวอย่างเหตุการณ์ 2 กรณี เพื่อให้เห็นความต่างของผู้ป่วยโรคจิตเภท กับมิจฉาชีพ โดยเล่าว่า
สมัยเรียน ม.ปลาย มีผู้ชายคนหนึ่งมานั่งอยู่แถวใต้ต้นไม้เหมือนกำลังนั่งติวอ่านหนังสือ พวกเราก็นั่งอ่านหนังสือกันอยู่ ผู้ชายคนนี้ก็เดินเข้ามาคุยทำทีว่าจะแนะแนววิชาการต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องของการสอบเอนทรานซ์ พร้อมกับเล่าว่าเขาได้ทุนไปเรียนต่อเมืองนอก แล้วก็พูดเกี่ยวกับเรื่องของวิชาคณิตศาสตร์วิชาฟิสิกส์เคมี ตอนหลังมาทราบว่า เขาหลอกคุยกับนักเรียนในโรงเรียนอีกหลายคน พูดไปพูดมาฟังไม่รู้เรื่อง แต่ไม่ได้หลอกลวงเพื่อเอาผลประโยชน์ เอาเงินเป็นทองจากใคร ทราบทีหลังว่าได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคจิตเภท หรือ schizophrenia
ส่วนอีกกรณี ย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีก่อน ตนบังเอิญไปรู้จักกับเพื่อนของเพื่อนอีกที เป็นผู้ชาย หน้าตาผิวพรรณเหมือนคนทั่วไปไม่ได้ดูเป็นลูกผู้ลากมากดีอะไรเลย แต่ว่ามีบัตรเครดิตถึง 30 ใบ ใช้ของแบรนด์เนม จากการใช้บัตรต่างๆ สลับกันรูด อ้างว่าอยู่บ้านหลายสิบล้าน แต่ก็ไม่เคยชวนใครไปบ้านเลย และชอบยืมเงินเพื่อน นอกจากนี้ยังเขาชวนกลุ่มเพื่อนๆ ไปเที่ยวต่างประเทศ และให้เพื่อนจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินให้ก่อน จากนั้นก็หายเข้ากลีบเมฆไปเลย
ในตอนนั้นมีผู้เสียหายรวมกันเกือบ 2 ล้านบาท เมื่อสืบประวัติก็พบว่า ชายคนนี้เป็นเด็กกำพร้าอาศัยอยู่กับคุณป้า ไม่ได้เป็นไฮโซ และทราบว่าหนีไปอยู่แถวพัทยา อันนี้วินิจฉัยว่าเป็น 18 มงกุฎ หรือพวกสันดานโจร (Antisocial Personality Disorder)
...
"คุณจะเห็นว่าทั้งสองเคสนี้มีความแตกต่างกัน เคสแรก ไม่ได้มีผลประโยชน์อะไรที่เป็นเงินเป็นทองเลย อย่างมากก็ได้แค่พูดเรื่อยเปื่อยโม้โน่นโม้นี่ไปเรื่อย เพราะจริงๆ แล้วตัวเองก็มีปมด้อยจากความเจ็บป่วยที่ทำให้ไม่สามารถเรียนหนังสือได้อีกแต่ก็ไม่ได้เป็นพิษเป็นภัยอะไรกับใคร ดูแล้วน่าสงสาร น่าเห็นใจเสียมากกว่า
ส่วนรายที่ 2 อันนี้ก็ชัดเจน ว่ามีความฉลาดแกมโกงทำอะไรต่างๆ ได้แยบยลใช้เวลาหลายปีในการตีสนิทกับเพื่อนแล้วหลังจากนั้นก็เชิดเงินหนีไปคนที่มีการเตรียมการไว้เป็นอย่างดีตลบตะแลงแบบนี้เราก็ถือว่าเป็นพวกสันดานโจรนะครับ"
(อ่านต้นฉบับ คลิกที่นี่)
ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก นพ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล (Kampanart Tansithabudhkun, M.D.)