หนุ่มโวยลงโซเชียล ถูกจับเมาแล้วขับ ช่วงพาตัวมาโรงพัก ถูกกระชากลงรถ จนหัวโขกป้าย คิ้วแตก ทั้งที่ไม่มีแรงขัดขืน เนื่องจากถูกใส่กุญแจมือ ด้านตำรวจแจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมเปิดวงจรปิดให้ญาติดู ยันทำตามหน้าที่ และไม่ได้ซ้อมผู้ต้องหา...
จากผู้ใช้เฟซบุ๊ก 'โฉมงาม กับ อสูร' ได้โพสต์ภาพพร้อมกับข้อความว่า 'จรรยาบรรณตำรวจอยู่ไหน คือว่าเพื่อนผมโดนเป่าแอลกอฮอล์ โดนตรงด่านแยกข่วงสิงห์ อ.เมืองเชียงใหม่ เวลา 02.30 น.ที่ผ่านมา พอนำตัวขึ้นรถไปถึงโรงพักช้างเผือก พอลงรถเพื่อนผมปวดฉี่ เพื่อนผมบอกจะลงเอง ตำรวจก็ถือคอเสื้อเพื่อนผมกระชาก จากนั้นคิ้วของเพื่อนผมก้อไปโดนกำแพง คิ้วแตก แผลลึก แผลฉกรรจ์ ถึงขั้นตาเกือบบอด (อยากให้พี่ๆน้องช่วยแชร์ให้ได้รับความเป็นธรรมหน่อยครับ เพราะเหตุเกิดที่โรงพักช้างเผือก ในบริเวณโรงพัก (ขอความเมตตาให้เรื่องนี้ถึงนักข่าวทีครับ)" ซึ่งก็มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็น พร้อมกับแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก
ต่อมา เวลา 15.00 น. วันที่ 9 ก.ย. สถานีตำรวจภูธรช้างเผือก เมืองเชียงใหม่ เพื่อนผู้บาดเจ็บพร้อมกับพ่อแม่ ได้เดินทางทางมาพบ พ.ต.ท.ชาญชัย จังวัง พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก เพื่อขอยื่นประกันตัว เนื่องจากคนเจ็บซึ่งยังนอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลนครพิงค์ ถูกตำรวจอายัดตัวไว้ดำเนินคดีในข้อหาเมาสุราแล้วขับยานพาหนะ และต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยทางพนักงานสอบสวนได้ให้ญาติใช้เงินสด 1 หมื่นบาท ประกันตัวออกไปชั่วคราว
...
ต่อมาทาง พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5 ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังโลกโซเชียลมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าใช้กำลังเกินเหตุ พร้อมทั้งให้ ร.ต.อ.ชัชวาลย์ ศรีเจริญตา รอง สวป.หัวหน้าชุดจับกุม ที่ตั้งด่านตรวจจับเมาแล้วขับ มาพบเพื่อขอทราบข้อเท็จจริง
ทราบเมื่อเวลา 02.30 น. คืนวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ชัชวาลย์ ได้นำกำลังตำรวจสายตรวจตั้งด่านกวดขันวินัยจจราจรผู้ที่เมาสุราแล้วขับรถ พบนายพงศธรขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมา โดยก่อนถึงด่านได้เปลี่ยนให้เพื่อนผู้หญิงขี่แทน ทางตำรวจจึงเรียกตรวจ และให้เป่าตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ วัดได้ 129 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จึงควบคุมตัวไว้ แต่ผู้ต้องหาเมา ขัดขืน โวยวาย และไปยืนฉี่หน้าบ้านคนอื่น
พอคุมตัวขึ้นรถมาถึงโรงพัก ยังขัดขืนต่อสู้ ไม่ยอมลงจากรถ จนต้องกระชากคอเสื้อลงมา จนหน้าไปโดนป้ายตัวหนังสือ กก.ตร.ข้างตึกโรงพัก
ต่อมาทางตำรวจได้เปิดกล้องวงจรปิดรอบโรงพักให้ทางญาติร่วมกันพิสูจน์ว่า ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายผู้ต้องหา แต่กล้องวงจรปิดเห็นเพียงระยะไกล ช่วงที่รถสายตรวจขับมาจอดที่หน้าห้อง กก.ตร. แล้วก็พาผู้ต้องหาลงมาจากรถ แต่ในกล้องจุดเกิดเหตุมองเห็นไม่ชัด เนื่องจากมืด
ด้านเพื่อนหญิงของผู้เสียหายเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาตนและคนเจ็บไปกินเลี้ยงวันเกิดที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ หลังร้านปิด คนเจ็บก็พาตนขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านที่แม่โจ้ สันทราย และมาเจอด่านตรวจแอลกอฮอล์ที่แยกข่วงสิงห์ เพื่อนได้เปลี่ยนให้ตนขับขี่แทน แต่มาถึงด่านตำรวจบอกว่า เห็นเพื่อนเป็นคนขับขี่ จึงขอตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์โดยการเป่า ตนก็บอกให้เพื่อนไปเป่า อย่าขัดขืน จากนั้นเพื่อนได้เดินไปปัสสาวะข้างทาง จึงถูกตำรวจจับใส่กุญแจมือไพล่หลัง และนำตัวขึ้นรถมาบันทึกจับกุมที่โรงพัก
ซึ่งเมื่อตนตามมา เพื่อนก็ได้รับบาดเจ็บแล้ว โดยเพื่อนเล่าให้ตนฟังว่า ระหว่างที่ตำรวจพานั่งรถมาถึงโรงพักแล้วเขาลงช้า จึงถูกตำรวจลากลงจนใบหน้าขวาไปชนกับป้ายตัวหนังสือได้รับบาดเจ็บ แต่ขณะเกิดเหตุตนก็ไม่ได้เห็นเหตุการณ์ เพียงแต่เพื่อนเล่าให้ฟังเท่านั้น ขณะนี้เพื่อนชายยังนอนเจ็บอยู่ที่ รพ. ยังไม่ได้ผ่าตัด ยืนยันว่าเพื่อนไม่ได้ตาบอดตามที่แชร์กันในโซเชียล ส่วนวันนี้มาขอยื่นประกันตัวเพื่อน เพราะกลัวจะถูกตำรวจล่ามโซ่ติดกับเตียง ส่วนรูปคดีจะขอปรึกษาน้องชายที่เป็นทนายความก่อน
ด้าน พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เผยว่า จากการสอบถามตำรวจผู้ปฏิบัติงานพบว่าตำรวจได้ทำตามหน้าที่ และผู้ต้องหาได้เมาสุรา และขัดขืนการจับกุม จึงถูกจับใส่กุญแจมือและพามาโรงพัก ก็ต่อสู้ขัดขวางอีก จึงดึงลงจากรถ และศีรษะด้านขวาไปชนกับตัวหนังสือจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเรื่องนี้ก็จะสอบสวนไปตามข้อเท็จจริง และจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ยืนยันว่าตำรวจไม่ได้ซ้อมผู้ต้องหา หากโซเชียลนำไปเสนอข่าวบิดเบือนให้ร้ายตำรวจ ก็จะพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุผู้บาดเจ็บได้โพสต์ข้อความลงโซเชียล แต่ล่าสุดพบว่าได้มีการลบเฟซบุ๊กไปแล้ว.