นิยายรักโรแมนติกมักจะจบเรื่องราวความรักของพระเอก นางเอกที่ฝ่าฟันอุปสรรคนานับปการระหว่างที่เป็นแฟนกัน ด้วยการให้ทั้ง 2 คนแต่งงานกัน หลังจากนั้นก็ให้คนอ่านไปคิดเอาเองว่า ชีวิตของทั้งคู่จะเป็นอย่างไร แน่นอนทุกคนจะจินตนาการว่า ทั้งคู่น่าจะรักกันจนวันตาย มีลูกเต็มบ้าน มีหลานเต็มเมือง ดั่งคำอวยพรของแขกในวันแต่งงาน

แต่ในความเป็นจริง...คนที่มองอีกมุมมักจะพูดว่า 'การแต่งงานเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของชีวิตคู่' เท่านั้น โดยบททดสอบสำคัญของชีวิตคู่นอกเหนือจากความรัก ความสัมพันธ์ ความผูกพันดั่งสามีภรรยาจะมอบให้กันแล้ว สิ่งที่เรียกว่า 'ครอบครัว' ที่ประกอบไปด้วย พ่อตา แม่ยาย พ่อผัว แม่ผัว ถือเป็นตัวแปรสำคัญที่สั่นคลอนคำว่า 'ชีวิตหลังการแต่งงาน' ได้เป็นอย่างดี

'ทีมงานมุมระบาย โดย ไทยรัฐออนไลน์' มีโอกาสได้พูดคุยกับ เอก (นามสมมติ) หนุ่มวัย 40 ปี ที่ผ่านชีวิตการแต่งงานมาแล้ว เขาเริ่มต้นให้เล่าฟังว่า ผมกับอดีตภรรยารู้จักกันมาหลายปีแล้ว ช่วงนั้นเขาไม่สบายและอยู่ในช่วงเลิกรากับแฟนที่คบอยู่ ผมก็เลยมีโอกาสได้เข้าไปดูแล ผมก็ห่วงใยเขาเรื่อยมา เป็นแบบนี้มาหลายปี ต้องเรียกว่ามันเป็นความรัก ความห่วงใยที่ผมมีให้เขา

จากนั้นไม่นาน อดีตแม่ยายของผมก็เร่งรัดเรื่องแต่งงาน เห็นว่าผมคบกับเขามานาน ผมก็โอเค หาเงินมาแต่ง และจดทะเบียนสมรสให้เป็นเรื่องเป็นราว และขายบ้านที่ผมอยู่มาอยู่บ้านเขา และลงทุนทำธุรกิจเล็กๆ ที่บ้านเขา ด้วยอาชีพของผม เป็นธรรมดาที่จะพบปะผู้คนบ่อยๆ ก็มีบ้างที่เขาหึงหวงผม ซึ่งผมก็ไม่อยากให้เขาคิดมาก ตัวผมเองก็ไม่ได้หวั่นไหวไปกับสิ่งยั่วยุใดๆ ผมเชื่อมั่นในความรักของผมและเขา

...

"ความสัมพันธ์ชีวิตคู่ผมก็เริ่มสั่นคลอน รักกันมาด้วยกัน อยู่ด้วยกันมา 8 ปี ผมดูแลห่วงใยเขาทุกอย่าง แต่เขากลับเชื่อแม่ยาย ซึ่งแม่ยายก็ไม่ชอบผมตั้งแต่แรกอยู่แล้ว รวมถึงเพื่อนๆ ของเขา หาว่าผมมีใจให้คนอื่น ผมก็ถามกลับว่า ไม่เชื่อใจกันเหรอ คุณก็เห็นว่าแท้จริงนิสัยผมเป็นยังไง ฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ผมกับเขาต้องหย่ากัน คือ ความไม่ไว้ใจหาว่าผมมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่น ผมก็บอกถ้าคิดแบบนั้น ก็หย่ากัน"

ทั้งนี้ แม้จะหย่ากันผมก็ต้องอยู่บ้านของเขา เนื่องจากลงทุนทำธุรกิจไปแล้ว ตอนนี้ที่บ้านก็มีผม อดีตภรรยา และแม่ยาย แม้จะหย่ากันแต่กิจวัตรต่างๆ ก็ยังเหมือนเดิม แต่สิ่งที่อดีตภรรยาผมอาจจะเห็น คือ วันที่เราเลิกสถานะสามี ภรรยา บรรดากองเชียร์และคนที่ใส่ไฟผมหายกันไปหมด และที่ผ่านมาก็พิสูจน์แล้วว่า ผมไม่ได้นอกใจ และมีคนอื่นแบบที่เขากล่าวหา อย่างไรก็ตาม แม้เราเลิกรากันไปแล้ว แต่เรายังคงสถานะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เช่น ไปรับไปส่งที่ทำงาน ดูแลเรื่องอาหารการกินกันและกัน เป็นต้น

'ทีมงานมุมระบาย' ถามอีกว่า ถ้ามองในมุมคนนอก แม้สถานะคุณและภรรยาจะเปลี่ยนไป แต่สิ่งที่คุณปฏิบัติกับเธอยังเต็มไปด้วยความรัก และความห่วงใยที่คุณมีให้เธอ เอกตอบกลับทีมงานว่า "ผมก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร แต่ความห่วงใย และความรู้สึกดีๆ ผมก็ยังมีให้เธออยู่ ผมก็ยังดูแลเธอเหมือนเดิม อยากให้เธอได้ทำในสิ่งที่เธออยากทำ อยากให้เธอมีความสุขในทุกๆ วัน นึกถึงตัวเองมากกว่านึกถึงคนอื่นๆ ผมว่าแค่นี้ก็โอเคแล้ว"   

อย่างไรก็ตาม บทสรุปของเรื่องนี้แม้พระเอก กับ นางเอก จะตัดสินใจหย่าด้วยเหตุผลจากคนรอบข้าง โดยเฉพาะคนใกล้ตัวอย่างแม่ยาย ซึ่งทั้งสองคนเลือกที่จะคงสถานะเพื่อนที่ดีต่อกันเอาไว้ ห่วงใย ดูแลกันตลอดไป ซึ่งหลายๆ คนอาจจะมองว่า สถานะเป็นเพียงการบอกให้สังคมได้รับรู้ว่า เขาสองคนเป็นอะไรกัน...แต่ถ้ามองให้ลึกแล้วจะพบว่า 'ดวงใจของเขาทั้งคู่ยังแนบแน่นไปด้วยความรัก'