หนุนสภาชุมชน-กองทุนพัฒนาผู้นำรุ่นใหม่ ผุด พมอ.เสริมกลไกประชารัฐ
พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยภายหลังประชุมหารือเรื่องการปฏิรูป พม.สภาชุมชน และกองทุนพัฒนาผู้นำชุมชนร่วมกับนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า เป็นการหารือเพื่อให้สอดคล้องกับบริบทและยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ในการขับเคลื่อนให้ พม.เป็นผู้นำด้านสังคมที่แท้จริง สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่ประสบภาวะยากลำบาก รวมทั้งทำงานได้ตามความคาดหวังของสังคม ซึ่งรัฐบาลมุ่งหวังให้ พม.ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์อย่างมีผลสัมฤทธิ์ เป็นองค์กรที่คล่องตัว มีขนาดที่เหมาะสม ทำงานเชิงรุก ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง มีขีดสมรรถนะสูง ทันสมัย มีกรอบแนวคิดการปฏิรูป
รมว.พม.กล่าวอีกว่า ที่ประชุมได้รับทราบร่างข้อเสนอการเปลี่ยนแปลง เพื่อปฏิรูประบบราชการ พม. ประกอบด้วย 1.ด้านโครงสร้างและบทบาท ได้แก่ กระจายบทบาทในการกำหนดและตัดสินใจ รวมถึงการร่วมแก้ไขปัญหาทางด้านสังคมให้กับภาคส่วนอื่นให้มากขึ้น อาทิ การถ่ายโอนภารกิจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) โอนอำนาจหน้าที่ให้กระทรวงมหาดไทย การสนับสนุนให้ภาคเอกชนดำเนินการทั้งในงานสนับสนุน จัดตั้งพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์อำเภอ (พมอ.) พัฒนากลไกประชารัฐ 2.ด้านกระบวนการการทำงาน ได้แก่ มีการบริหารจัดการข้อมูลที่ดี และปรับปรุงขั้นตอนกระบวนการการทำงานให้สะดวก รวดเร็ว และโปร่งใส ตอบโจทย์ประชาชน โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล 3.ด้านกฎหมาย ได้แก่ การพัฒนากฎหมายให้ทันสมัย และ 4. ด้านบุคลากร ได้แก่ การสร้างทักษะด้านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล สร้างความเชี่ยวชาญในสายอาชีพ รวมทั้งวิเคราะห์อัตรากำลังที่เหมาะสม
พล.อ.อนันตพร กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมยังได้เสนอให้จัดตั้งสภาชุมชน มีรูปแบบเป็นเวทีการปรึกษาหารือของประชาชนในชุมชน เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการให้ความคิดเห็นต่อการดำเนินโครงการหรือกิจกรรมของหน่วยงานราชการหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในตำบล เพื่อพัฒนาชุมชนให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืน นอกจากนี้ยังเสนอให้มีกองทุนพัฒนาผู้นำชุมชนเน้นการสร้างผู้นำชุมชนรุ่นใหม่เข้ามามีบทบาท เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนฐานรากในการพัฒนาอย่างยั่งยืนและลดความเหลื่อมล้ำ อย่างไรก็ตาม จะนำข้อเสนอจากการประชุมครั้งนี้เสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบในหลักการ เพื่อให้มีการส่งร่างกฎหมายไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาต่อไป.
...