เปิดอีกมุม เจ้าหน้าที่สรรพสามิต จับยายอาชีพขายข้าวหมากที่ตลาดนัด เหตุพบจำหน่ายเหล้าแช่ เจอในถังรวม 11 ลิตร ดำเนินการปรับ 1 หมื่นบาท...

กรณีที่มีชาวบ้านตำบลบ้านบัว อำเภอเมืองจังหวัดบุรีรัมย์ ร้องเรียนผู้สื่อข่าวกรณีที่สรรพสามิตรังแกชาวบ้าน จับแม่ค้าขายข้าวหมากภูมิปัญญา หลังมีการจับกุม นางเสน่ห์ บ่วงรัมย์ เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ที่ผ่านมา

ล่าสุดผู้สื่อข่าวไทยรัฐได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่สรรพสามิตพื้นที่บุรีรัมย์ ได้รับการยืนยันพร้อมนำรูปถ่ายออกมาโชว์ว่า การจับกุมดังกล่าวดำเนินกระบวนการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งผู้กระทำความผิดได้มีการลักลอบจำหน่ายสุราที่มีการปรุงแต่งขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยผู้ถูกจับกุมยอมรับสารภาพว่าได้กระทำความผิดจริง แต่ก็ไม่ทราบด้วยเหตุผลใดจึงมาร้องเรียนผู้สื่อข่าวโดยปิดบังข้อเท็จจริง

ซึ่งนายทองเลื่อน เสาร์ทอง นักวิชาการสรรพสามิตชำนาญการ ให้ข้อมูลว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว ตนได้รับแจ้งจากราษฎรว่ามีการนำสุราที่ทำขึ้นโดยมิชอบด้วยกฎหมาย มาจำหน่ายบริเวณตลาดนัดคลองถมที่เกิดเหตุ จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สรรพสามิตเข้าทำการตรวจสอบ ผลปรากฏว่าพบ นางเสน่ห์ นำสินค้ามาวางจำหน่ายร่วมกับพ่อค้าและแม่ค้าในบริเวณตลาดนัดดังกล่าว

...

ตรวจสอบสิ่งของที่นำมาขาย พบสุราแช่บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส มัดยาง วางอยู่ในถังพลาสติกใบใหญ่ วางอยู่ที่พื้นดินข้างโต๊ะที่ใช้วางขายข้าวหมาก จึงทำการแจ้งข้อกล่าวหากับนางเสน่ห์ว่า “มีไว้ในครอบครองซึ่งสุราที่ทำขึ้นโดยฝ่าฝืนมาตรา 153 วรรคหนึ่ง” ซึ่งบัญญัติว่า “ผู้ใดประสงค์จะผลิตสุราหรือมีเครื่องกลั่นสำหรับผลิตสุราไว้ในครอบครอง ให้ยื่นคำขอต่ออธิบดี และต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศ กำหนด วรรคหนึ่ง การขออนุญาต และการออกใบอนุญาตตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

จากกรณีที่มีกระแสในโลกโซเชียลทำให้เจ้าหน้าที่สรรพสามิตที่เป็นผู้ปฏิบัติงานได้รับผลกระทบ ถูกมองในแง่ลบ และถูกผู้ที่ไม่ทราบข้อเท็จจริงว่ากล่าวในทางที่เสียหาย  ซึ่งความจริงแล้วพวกตนปฏิบัติหน้าที่ตามข้อกฎหมายโดยเคร่งครัด ซึ่งในบางครั้งได้มีการลดหย่อนให้กับผู้กระทำความผิด ไม่ได้ยึดถือแต่เพียงหลักกฎหมายมาในการปฏิบัติเท่านั้น ทุกอย่างดำเนินไปภายใต้หลักมนุษยธรรมและความเป็นธรรม โดยพวกตนก็ไม่ทราบว่าผู้ร้องเรียนมีเจตนาในเรื่องใด.