พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ ว่า ที่ผ่านมาคณะกรรมการ ได้เพิ่มการเข้าถึงยาจำเป็น ด้วยการปรับปรุงบัญชียาหลักแห่งชาติเพิ่มเติม ซึ่งมียาที่สำคัญ ได้แก่ วัคซีนฮิบป้องกันได้ 5 โรคเพื่อลดการป่วยและเสียชีวิตจากโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบในเด็ก ยาสำหรับป้องกันการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ทารกในครรภ์ และยาโรคหลอดเลือดดำในจอตาอุดตัน เป็นต้น ควบคู่ไปกับการปรับปรุงราคากลางยาให้ทันสมัยเพิ่มเติม 179 รายการภายในปี 2562 รวมทั้งผลักดันให้มียาสามัญทดแทนยาต้นแบบทำให้เพิ่มการเข้าถึงยาใน 6 กลุ่มโรคสำคัญ ทั้งยังเร่งผลักดันนโยบายการใช้ยาอย่างสมเหตุผลและลดปัญหาเชื้อดื้อยา ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อมุ่งสู่การประกาศเป็นประเทศใช้ยาอย่างสมเหตุผลในปี 2565

รองนายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า เพื่อขับเคลื่อนให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งส่งเสริมผู้ผลิตยาในประเทศผ่านบัญชีนวัตกรรมไทย คณะกรรมการจึงมีมติปรับปรุงแนวทางการจัดซื้อยาของรัฐ เพื่อสนับสนุนยาในบัญชีนวัตกรรมไทย โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ ยาทั่วไป ยาชีววัตถุและเวชภัณฑ์ที่ไม่ใช่ยา โดยใช้งบประมาณไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 เพื่อมุ่งหวังให้ประชาชนสามารถเข้าถึงยาคุณภาพดีในราคาเหมาะสม ทั้งยังให้มีการพัฒนาความร่วมมือระหว่างองค์การเภสัชกรรมและผู้ผลิตภาคเอกชน เพื่อให้ประเทศเกิดความมั่นคงทางยา สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ซึ่งจะเร่งผลักดันแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบยาแห่งชาติ 2560-2564 เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อประกาศใช้ให้ทันภายในเดือน ก.ย.นี้ พร้อมมอบหน่วยงานที่รับผิดชอบจัดทำแผนปฏิบัติการ เพื่อขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบยาแห่งชาติในปีงบประมาณ 2562 ต่อไป.