สวยสั่งได้! ศัลยแพทย์ชื่อดัง เผยปัจจุบันคนเริ่มทำศัลยกรรมตั้งแต่อายุ 15 ปี พร้อมฮิตทำ 'จมูก-ตา' เชื่อเสริมเติมแต่งกับ 'หมอไทย-หมอเกาหลี' ไม่ต่างเพราะทำงานร่วมกันเป็นประจำ...
ในปัจจุบันมีคนจำนวนไม่น้อย เลือกเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ตัวเองด้วยการ 'ศัลยกรรม' เพื่อช่วยเสริมความงามพร้อมเพิ่มความมั่นใจ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตอนนี้กลายเป็นเรื่องธรรมดาของผู้คนทุกเพศทุกวัยในทั่วโลก
ทางด้าน นายแพทย์สมศักดิ์ คุณจักร ศัลยแพทย์ชื่อดัง เปิดเผยกับ ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ว่าปัจจุบันปี 2018 คนเริ่มทำศัลยกรรมตั้งแต่อายุ 15 ปี จนถึง 60 ปี ขณะที่ผู้หญิงยังคงนิยมทำศัลยกรรม จมูก, ตา เป็นหลัก ส่วนผู้ชายก็นิยมทำจมูกกับตาเหมือนกัน แค่ผู้หญิงจะทำเยอะกว่าเพราะเมื่อเริ่มครั้งแรก ก็จะต่อด้วยการทำส่วนอื่นเพิ่มอีก ขณะที่ปัจจุบันวัยรุ่นนิยมทำหน้าวีเชฟ, หน้าเรียว ตามเทรนด์ที่เปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา
สำหรับเงื่อนไขการศัลยกรรมนั้น คนไข้ต้องสมัครใจทำเอง ไม่ใช่ถูกคนอื่นบังคับ ซึ่งจะมีอายุเท่าไรก็ได้ แต่ถ้าเป็นการทำจมูกต้องอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป ยอมรับว่ามีคนไข้อายุต่ำกว่า 15 ปี มาขอทำ แต่ก็ไม่ทำให้เพราะถือว่ายังเด็กเกินไป ซึ่งตอนนี้นอกจากการทำตา, จมูก, ปาก, หน้าเรียว ยังมีการทำให้คางแหลม ทุบโหนกแก้ม และเน้นหน้าผากให้โหนก
...
"คนส่วนใหญ่หลังจากทำศัลยกรรมเสร็จ ก็ยังไม่พึงพอใจในใบหน้าตนเองต้องกลับมาแก้ใหม่ บางเคสไปถึงเกาหลีกลับมาหน้าก็ยังเพี้ยนอยู่ เนื่องจากตอนที่พวกเขาทำไม่ได้พิจารณาว่าทำแค่ไหนถึงจะเหมาะสม กลายเป็นทำเพราะคนขายแพ็กเกจการศัลยกรรม เชียร์ให้ทำพร้อมกันหลายอย่างทั้ง ยกคิ้ว, ฉีดหน้าผาก, ทำตา, ทำคาง, ดูดไขมัน ฉะนั้นเมื่อทำเสร็จ สัดส่วนของกรอบหน้าก็จะเปลี่ยนหมด ไปคนละทิศละทาง บางคนหน้าประหลาดไปเลยเพราะทำเยอะเกินไป"
ทั้งนี้ ปัจจุบันคนก็ยังนิยมไปทำศัลยกรรมที่ประเทศเกาหลีอยู่เยอะ เพราะบ้านเมืองเขาเป็นเหมือนการตลาด จะมีคนที่มีรายได้จากจุดนี้มาก รวมทั้งคนในวงการบันเทิง เมื่อแนะนำใครไปก็จะได้เงิน บางทีก็จะได้สูงถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ก็แนะนำว่ามาทำกับหมอไทยก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไร เพราะทุกวันนี้หมอเกาหลีและหมอไทยก็ทำงานร่วมกัน ซึ่งมีหลายสมาคมที่ประชุมร่วมกันเป็นประจำ
อย่างไรก็ตาม หากถามว่าทำไมคนยังนิยมไปทำที่เกาหลีมากกว่า คงเป็นเพราะประเทศเรานั้นมีกฎห้ามโฆษณา ที่ถือเป็นสิ่งต้องห้ามในทางกฎหมายต่อธุรกิจด้านนี้ เรียกง่ายๆ คือถูกควบคุม ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็จะถูกแชร์และประจาน แต่หารู้ไม่ว่าคนไข้ไปเสียชีวิตที่เกาหลีก็เยอะ แต่ก็เงียบไม่มีข่าว ซึ่งทั้งหมดเป็นความนิยมของคนไทยที่แห่กันไปทำเอง.