เมื่อคนหนึ่งเข้าหาด้วยความรัก แต่อีกคนกลับเข้าหาเพราะความใคร่ เมื่อรักเพียงครึ่งเดียว ไม่อาจเติมเต็มหัวใจให้เต็มดวงได้ จะก้าวต่อไปหรือหันหลังกลับ ล้วนเจ็บปวดทั้งสองทาง 
เหมือนกับเรื่องราวของเขาคนนี้

แม้ว่า เขาจะถูกมองว่าเป็นตัวเลือกสักกี่ครั้ง ขอเพียงมีโอกาส ก็พร้อมยินดีที่จะทำทุกอย่าง ถึงแม้จะรู้ว่าสำหรับเขาเราป็นเพียงแค่ตัวปลอม ที่ไม่มีวันได้ใจของเขามา 'ทีมงานมุมระบาย' มีโอกาสพูดคุยกับเขาคนนี้ พร้อมกับจะมาแชร์เรื่องราวของความรักข้างเดียวที่เป็นได้เพียงแค่ 'คนคุย'

'อาคิน' อายุ 22 ปี เขามีประสบการณ์แอบรักคนคนหนึ่ง นานถึง 8 ปี จนอาจเรียกได้ว่าเป็นรักแบบเด็กๆ (Puppy love) ของเขาเลยก็ว่าได้ มันเป็นรักแรกที่ฝังใจตั้งแต่ยังเด็ก รักที่ไม่ได้หวังเพื่อครอบครองเขา หรือรักที่ไม่ได้ต้องการความรักตอบจากเขา

ขอเพียงแค่ได้มอง พูดคุย ได้เห็นเขามีความสุขก็เพียงพอแล้ว แต่เมื่อเขาโตขึ้นความคิดก็เริ่มเปลี่ยน จากได้เพียงแค่มอง จนเกิดความอยากมีตัวตนขึ้นมาสำหรับเขา มันมากขึ้นเรื่อยๆ จนอยากบอกให้เขาได้รับรู้ ว่ายังมีเขาอยู่ตรงนี้ ถ้านายยังไม่มีใคร ยังมีเราอยู่เสมอนะ 'ปิง'

เขาใช้เวลาเกือบทั้งหมด 8 ปี ในการเฝ้าติดตามคนที่เขาแอบชอบ จากเด็กอ้วนผิวกร้านแดด แปรเปลี่ยนเป็นหนุ่มร่างผอมผิวขาวสุขภาพดี เรียกได้ว่าตอนนั้นกับตอนนี้ หากนำรูปมาเปรียบเทียบกัน คงไม่มีใครจดจำได้อย่างแน่นอน

ในที่สุด...วันที่ 'อาคิน' รอคอยก็มาถึง วันที่สถานะบนเฟซบุ๊กของ 'ปิง' เปลี่ยนจากที่ข้อความคบหา...เป็นคำว่า...โสด เขาตัดสินใจทักไปหาปิง ด้วยประโยคของการแนะนำตัว "สวัสดีครับ เราอาคิน จำเราได้ไหม" หลังจากประโยคนี้ อาคิน ไม่คิดเลยว่า เขาจะตอบกลับมาและยอมคุย ตอนนี้จำได้ว่ารู้สึกตื่นเต้นและดีใจมาก เหมือนทุกอย่างเป็นสีชมพู

...

แต่ความสุขของเราก็อยู่ได้ไม่นาน เมื่ออาคินรู้ว่า ปิงไม่ได้คุยกับเขาเพียงแค่คนเดียว ตอนนั้นทั้งเศร้าและเสียใจ โลกมันรู้สึกหดหู่ไปหมด จนเกิดความคิดที่ว่า เราควรกลับไปเป็นแค่เงา เฝ้าดูเขาห่างๆ เหมือนเดิมดีหรือเปล่า เราไม่น่าสารภาพรักกับปิงเลย ตลอดเวลา 8 ปี ที่เฝ้าติดตามเขา อาคินรู้มาตลอดว่า ปิงเป็นผู้ชายเจ้าชู้ คบกับใครได้ไม่นาน จนคิดว่าเราคงเป็นหนึ่งของคนที่เขาคุยแก้เหงา ไม่ได้จริงจังอะไรกับเราตั้งแต่แรก

อาคิน เริ่มถอยห่างตัวเองออกมาจากความรู้สึกที่ผิดหวัง และเสียใจกับการกระทำของตัวเองลง เขาพยายามตัดใจ และกลับไปอยู่ในจุดๆเดิมที่เขาควรอยู่ แต่เมื่อวันที่เขากลับมาเป็นเงาเหมือนเดิม ปิงก็กลับทักมาหาเขา

พร้อมกับประโยคที่ว่า "รอหน่อย ใกล้แล้ว เรากำลังจะเลิกกับแฟน" ความรู้สึกมันแทบจุกในอก เกิดความคิดที่ว่า เราควรทำอย่างไรดี ควรกลับไปหาเขาอีกดีไหม ที่เขาทักเรามาเพราะเขาก็มีใจให้เรา หรือเขาแค่เหงาที่เกิดจากอารมณ์ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น

พอเราไม่ตอบ ไม่อยากคุยกับเขา เขาก็พยามยามส่งข้อความหาเราตลอด ทั้งอยากเจอ อยากอยู่ด้วย คิดถึง บางครั้งก็มีข้อความที่ชวนเราไปมีอะไรด้วย ตอนนั้นเราตกใจมาก เพราะไม่คิดว่าเขาจะชวนอะไรแบบนี้ แต่เราก็ยังคุยกับเขา พยายามหลีกเลี่ยงการนัดเจอเสมอมา เพราะเราคิดว่า เขาคงไม่ได้รักเราเหมือนเรารักเขา มันคงเป็นแค่อารมณ์เปลี่ยวของเขา ที่เพียงต้องการใครสักคนมาระบายความเหงา จะก้าวต่อไปหรือหันหลังกลับ ล้วนเจ็บปวดทั้งสองทาง

ทุกวันนั้นถ้าถามว่าเรายังรักเขาอยู่ เราคงตอบได้ว่า คงไม่ได้รักหรือรู้สึกชอบแล้ว เพราะความรักที่มี ถูกการกระทำของเขาย่ำยีจนมันไม่เหลืออะไรอีกแล้ว ชีวิตของเราต้องเดินต่อไป ยังมีคนอีกมากมายที่รอเราอยู่ สักวันเราคงได้พบเจอคนคนนั้น คนที่รักเราและเรารักเขาด้วยใจจริง