ตัวแทนทีมท่อสูบน้ำพญานาค ยกย่อง "จ่าแซม" เป็นวีรบุรุษ พร้อมเล่าความรู้สึกขณะปฏิบัติภารกิจช่วยทีมหมูป่าอะคาเดมี 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง เดินเครื่องสูบน้ำตลอด 24 ชม.
วันที่ 13 ก.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากทีมสูบน้ำท่อซิ่งพญานาค ที่เดินทางกลับจากปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือ 13 ชีวิต หมูป่าอะคาเดมี จากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ที่ติดอยู่ในถ้ำตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย 61 จนถึงวันที่ 10 ก.ค.61 รวมระยะเวลา 18 วัน ได้กลับสู่ภูมิลำเนาจังหวัดนครปฐม ท่ามกลางการต้อนรับอบอุ่นนั้น
ทั้งนี้ นายชวินชยาทิต ภาณุหสตังไทรแก้ว อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลนิลเพชร หนึ่งในคณะหัวหน้าทีมงาน เป็นตัวแทนของทีมงานท่อสูบน้ำซิ่ง เปิดเผยว่า ทุกๆคนรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ชาวจังหวัดนครปฐมได้ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น เราไม่คาดคิดว่าจะมีชาวบ้านออกมาต้อนรับเรามากขนาดนี้ รู้สึกดีใจและขนลุกมาก โดยตลอดเส้นทางในการเดินทางกลับบ้าน ชาวบ้านต่างส่งแรงกำลังใจมาให้ตลอดเส้นทางที่รถวิ่งผ่าน พร้อมกับเล่าถึงความรู้สึกในขณะที่เข้าไปช่วยเหลือคนที่ติดถ้ำว่า ในช่วงแรกที่ยังไม่เจอน้องทั้ง 13 คน ทุกคนจะมีความกังวลและเครียดมาก เพราะไม่มีใครคาดคิดว่าจะเจอหรือไม่เจอ แต่พอเจอแล้วทุกคนก็ทำงานได้อย่างสบายใจมากขึ้น และมาลุ้นกันอีกทีในตอนที่น้องๆ ทุกคนได้ออกมาจากถ้ำ

...
ในระหว่างการทำงานเราก็ได้เดินเครื่อง 24 ชั่วโมง ไม่มีการหยุดพัก ทุกคนผลัดเวรกัน ทั้งเหนื่อยและดีใจ เมื่อเด็กปลอดภัยกันทั้งหมด แต่ทีมงานเราก็ยังต้องอยู่ช่วยเหลือต่อจนกว่าภารกิจเสร็จสิ้นและได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับได้ แต่พอกลับมาก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งและยิ่งได้เห็นรอยยิ้มของทุกๆ คน กับความสำเร็จครั้งนี้ เราดีใจ ภูมิใจมาก ภารกิจนี้เราเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือคน 13 คน ทั้งนี้เรายังได้เห็นความสามัคคีร่วมแรงร่วมใจทุกคนของทุกภาคส่วน ไม่ใช่แค่ทีมงาน ยังมีแม่ครัว ทหาร ตำรวจ ทุกหน่วยงาน ทุกภาคส่วน ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ และประชาชนในพื้นที่ จิตอาสาจากหลายจังหวัด เข้ามาร่วมทุกคนรวมเป็นหนึ่งเดียว ถึงทำให้ภารกิจครั้งนี้สำเร็จ เราเป็นเพียงแค่ฟันเฟืองเล็กๆ ของจังหวัดนครปฐมที่เข้าไปช่วยขับเคลื่อนภารกิจนี้เท่านั้น
นายชวินชยาทิค กล่าวถึง จ่าแซมซึ่งเสียชีวิตในภารกิจครั้งนี้ว่า ในช่วงที่ช่วยเหลือเด็กออกมาจากถ้ำได้บางส่วน ทุกคนต่างดีใจเฮกันลั่นสุดๆ ทีมงานเราก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยครั้งนี้ แต่ต่อมาก็มารับข่าวร้ายเมื่อทราบข่าวว่า จ่าแซม อดีตหน่วยซีลที่เข้าไปช่วยเหลือน้องได้เสียชีวิตในภารกิจนี้ ทุกคนรู้สึกเครียดมากที่ได้ทราบข่าวนี้ เพราะยังมีการทักทายกันก่อนเข้าถ้ำ ตัวเองก็เชื่อว่าคนไทยทั่วประเทศที่ติดตามข่าวขาดความสุขไปในชั่วระยะเวลาหนึ่งเช่นเดียวกัน แต่อย่างน้อยภารกิจการช่วยเหลือชีวิตน้องที่เหลืออยู่ติดในถ้ำครั้งนี้จะต้องสำเร็จเสร็จสิ้น ถึงแม้จะมีผู้เสียชีวิตก็ตาม แต่พวกเราต่างก็ยกย่องจ่าแซมให้เป็นวีรบุรุษในการปฏิบัติภารกิจครั้งนี้

ด้านนายกองโทพเยาว์ เนียะแก้ว อดีตนายก อบจ.นครปฐม เผยว่า ข่าวเด็ก 13 คน ติดถ้ำ ตนเองได้ติดตามความเคลื่อนไหวมาตั้งแต่ต้น ทางด้านเจ้าของท่อสูบน้ำซิ่งหัวพญานาค ได้มาปรึกษาก่อนที่จะเดินทางไปทำภารกิจนี้ จึงบอกไปว่าให้รีบเดินทางไป ตนเองพร้อมที่จะสนับสนุนให้เต็มกำลังเพื่อช่วยเด็กออกจากถ้ำให้ได้ โดยบอกว่าหากเดินทางไปขาดเหลือสิ่งใดก็ให้ติดต่อประสานงานมาได้ทุกวัน เพราะต้องการทราบความคืบหน้า พร้อมกับสนับสนุนเงินเป็นค่าน้ำมันและค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดในการปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ นอกเหนือจากนายพเยาว์แล้วยังมีอีกหลายหน่วยงาน เช่น มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์ วัดกลางบางพระ หลวงพ่อสมหวัง และภาคเอกชนอีกหลายคนที่เข้ามาช่วย รวมถึงพ่อค้าประชาชน รวบรวมนำผักสด เนื้อหมู ผลไม้และอื่นๆ นำส่งมอบให้กับครัวพระราชทานที่ไปช่วยทำครัวอาหารให้กับเจ้าหน้าที่หลายรอบด้วย นอกจากนี้จะจัดงานเลี้ยงใหญ่ให้กับทีมท่อสูบน้ำในอีก 2-3 วันข้างหน้า.