“ทนายรัชพล” เผยกรณีขอทานโซเชียล ยกกฎหมายแจงเข้าข่าย ม.13 และ ม.19 มีโทษสูงสุด คุก 1 เดือน ปรับ 1 หมื่น ซ้ำหากเอาเงินไปทำอย่างอื่นเข้าข่ายฉ้อโกง...
นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความประธานชมรมสนับสนุนการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม และหัวหน้าสำนักงานทนายความสายตรงกฎหมาย โพสต์ให้ความรู้ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊กถึงกรณีการโพสต์ขอเงินในโลกออนไลน์ที่อาจเข้าข่ายขอทานและกำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้ โดยหลายคนเรียกว่าขอทานโซเชียล หรือขอทานออนไลน์ ว่า
“ยุคโซเชียล คนก็ใช้โซเชียลได้เป็นประโยชน์จริงๆ แม้กระทั่งการขอทาน ยังมาอยู่บนโลกโซเชียลได้ อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยเรามีกฎหมายห้ามขอทานแล้ว โดยเป็นพระราชบัญญัติควบคุมขอทาน พ.ศ.2559 ซึ่งในมาตรา 13 ระบุว่า ห้ามบุคคลใดทำการขอทาน การกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ ให้ถือว่าเป็นการขอทาน
(1) การขอเงินหรือทรัพย์สินจากผู้อื่นเพื่อเลี้ยงชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการขอด้วยวาจา ข้อความ หรือการแสดงกิริยาอาการใด
(2) การกระทำด้วยวิธีการใดให้ผู้อื่นเกิดความสงสารและส่งมอบเงินหรือทรัพย์สินให้
มาตรา 19 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 13 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทีนี้ก็ต้องมาดูว่า การขอทานในโซเชียล เป็นการขอเงินเพื่อเลี้ยงชีวิตหรือเปล่า ถ้าไม่เอามาเลี้ยงชีวิต ก็ต้องดูว่าเป็นการทำให้คนอื่นเกิดความสงสารเลยโอนเงินให้หรือไม่ นอกจากนั้น การขอเงินที่บอกว่าจะเอาไปซื้อข้าวกินแล้วไม่ทำตาม หรือหลอกลวง ก็อาจจะเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนได้ อ้อ อีกอย่างหนึ่ง รายได้ที่มาจากการขอทาน อาจต้องเสียภาษีด้วยนะ ซึ่งต้องดูเป็นกรณีไป สรุปว่า ผู้ใดขอทานมีโทษสูงสุด คุก 1 เดือน ปรับ 1 หมื่น”
...
อ่านเพิ่มเติม พระราชบัญญัติควบคุมขอทาน พ.ศ. 2559
(ขอบคุณเฟซบุ๊ก สายตรงกฎหมาย, เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา)