คนโสดฟังทางนี้! รวมสถานที่น่าเช็กอินคลายร้อน พร้อมศาลเจ้ายอดฮิตที่คนญี่ปุ่นนิยมขอพรเรื่องความรักใน จ.ฟุกุโอกะ และใกล้เคียง ไปที่เดียวคุ้ม...
อากาศเมืองไทยช่างร้อนเสียเหลือเกิน สำหรับใครที่อยากหนีร้อนไปพักผ่อนต่างประเทศ ซึมซับบรรยากาศแสนสงบ อาหารอร่อย แต่สำหรับใครที่ยังไร้คู่พาเที่ยว ก็อย่าเพิ่งเสียใจไป เพราะวันนี้ไทยรัฐออนไลน์เอาใจคนที่หัวใจยังเปล่าเปลี่ยวด้วยการนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวขอพรเรื่องความรักในประเทศญี่ปุ่น เมืองฟุกุโอกะ (Fukuoka) และ จ.ซากะ
1. สถานที่แรกที่ขอแนะนำก็คือจุดชมวิวที่ ภูเขาคางามิ (Kagami Yama) เมืองคาราซึ จ.ซากะ ตรงจุดนี้จะสามารถชมความงามของสถานที่ชื่อดังต่างๆ และด้านหลังยังเป็นที่ตั้งของ รูปปั้นเจ้าหญิงซาโยะฮิเมะ มีตำนานเล่าว่า ซาโยะฮิเมะได้วิ่งไปบนยอดเขาเพื่อส่งคนรักที่ออกเรือไป และได้ร้องไห้ถึง 3 วัน 3 คืน
...
นอกจากนี้ยังมี ศาลเจ้าคางามิ ยามา นิยมขอพรด้านความรัก ภายในศาลเจ้าจะมีแท่นสำหรับขอพรความรัก เป็นแท่นรูปหัวใจคู่อีกด้วย
2. ซากุราอิ ฟุตามิงะอุระ (Futamigaura) โทริอิสีขาวในน้ำทะเล ตั้งอยู่ที่ฮิโตชิมะ จ.ฟุกุโอกะ โดยด้านหลังของโทริอิจะมีหินคู่เมโทอิวะ โดยจะเป็นโขดหิน 2 อันตั้งเคียงข้างกันและถูกโยงด้วยเชือก เรียกว่า โขดหินสามี-ภรรยา มีความเชื่อว่า เป็นสถานที่แห่งการเชื่อมสัมพันธ์
3. ศาลเจ้ายูโตกุอินาริ (Yutoku Inari Shrine) เมืองคาชิมะ จ.ซากะ เป็นศาลเจ้านิกายชินโต ประจำตระกูลนาเบะชิมะ ซึ่งเป็นตระกูลผู้ปกครองเมือง ในสมัยเอโดะ ถือว่าเป็นศาลเจ้าที่ใหญ่และสำคัญเป็นอันดับ 3 ในประเทศญี่ปุ่น บริเวด้านหน้าศาลเจ้าจะมีสะพานสีแดง ซึ่งเป็นจุดถ่ายภาพที่สวยงาม สามารถมองเห็นตัวศาลเจ้าด้านหลังได้ นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวอยู่ด้านบนของตัวศาลเจ้า และโทริอิสีแดงเรียงเป็นแถวยาว นิยมขอพรให้ประสบความสำเร็จ
ทั้งนี้ยังพบว่า ศาลเจ้ายูโตกุอินาริมีคนไทยไปเที่ยวจำนวนมาก สังเกตจากป้ายต่างๆ ที่มีคำอธิบายเป็นภาษาไทย และภายในศาลเจ้าจะมีศาลเจ้าเล็กๆ ด้านหน้ามีรูปหัวใจ สำหรับให้นักท่องเที่ยวเขียนขอพรเรื่องความรัก นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถเช่าชุดกิโมโนใส่ภายในวัดได้อีกด้วย
4. ศาลเจ้ามิสึตะเท็นมังกุ จ.ฟุกุโอกะ เป็นศาลเจ้าขนาดใหญ่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ชาวญี่ปุ่นนิยมขอพรเรื่องการศึกษา และยังเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าโคอิโนคิ (ศาลเจ้าแห่งความรัก) เป็นศาลเจ้าขนาดเล็กที่ชาวญี่ปุ่นนิมยมมาขอพรให้สมหวังเรื่องความรัก โดยตรงกลางของศาลเจ้าจะมีเชือกขนาดใหญ่สลักชื่อคู่รักที่แต่งงานกันมา 70 ปี และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ คู่รักคู่นี้เคยมาขอพรเรื่องความรักที่ศาลเจ้าแห่งนี้ เมื่อสมหวังจึงมาสลักชื่อไว้
นอกจากนี้ ป้ายขอพรยังพิเศษกว่าที่อื่นคือ คนที่เขียนข้อความขอพรแล้วจะต้องพับกระดาษเป็นรูปหัวใจติดกับเชือกที่เตรียมไว้ และใกล้กับศาลเจ้าจะมีต้นไม้ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ มีความเชื่อว่าคนที่มาขอพรต้องเดินวนต้นไม้แล้วจะสมหวังในความรักอีกด้วย
5. ที่เช็กอินที่พลาดไม่ได้เมื่อไปถึงเมืองฟุกุโอกะ นั่นก็คือ ฟาร์มสตรอเบอร์รี่ลาฟุเรสึ (La furezu) ซึ่งมีบริการกินสตรอเบอร์รี่ไม่อั้น สำหรับผู้ใหญ่ราคา 1,800 เยน และเด็ก 1,200 เยน ระยะเวลา 60 นาที ตั้งแต่ 10.00-16.00 น. เอาใจคนรักสตรอเบอร์รี่ โดยจะมีสตรอเบอร์รี่ลูกแดงหวานฉ่ำในช่วงประมาณปลายปีไปจนถึงต้นปี
อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่สนใจอยากไปสัมผัสบรรยากาศของเมืองฟุกุโอกะ ในปัจจุบันมีสายการบินไทยเปิดบริการบินตรงจากกรุงเทพฯ ถึง ฟุกุโอกะ โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชม.กว่า
ทั้งนี้ Mr.swasdiart panikabutr ผู้จัดการทั่วไป บริษัท การบินไทยฯ ประจำประเทศญี่ปุ่นภาคใต้ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากตลาดทางใต้ของญี่ปุ่นได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะที่ จ.ฟุกุโอกะ 80% เนื่องจากฟุกุโอกะยังเป็นเหมือน Gateway ที่จะไปเที่ยวสถานที่อื่นๆ ได้หลายที่ ทางการบินไทยจึงจะเพิ่มที่นั่งมากกว่าเดิม
ขณะเดียวกันญี่ปุ่นก็ให้ความสนใจบินมายังประเทศไทยมากขึ้น เช่น ทีมฟุตบอลของญี่ปุ่นที่เดินทางไปซ้อมฟุตบอลที่ประเทศไทย และกลุ่มนักเรียนไปแคมปิ้งที่ประเทศไทย โดยส่วนใหญ่คนไทยบินไปญี่ปุ่นเพื่อต้องการพักผ่อน ด้วยเหตุนี้การบินไทยจึงมีเป้าหมายว่าจะเพิ่มไฟลต์จากประเทศไทยเป็น 10 ไฟลต์/สัปดาห์ เพื่อรองรับลูกค้า โดยเฉพาะ กลุ่มบริษัท หรือกลุ่มลูกค้าองค์กร ที่จะได้ราคาพิเศษ นอกจากนี้ยังพบว่า คนไทยติดอันดับ 1 ใน 5 นักท่องเที่ยวทั่วโลกที่เดินทางไปประเทศญี่ปุ่น โดยอันดับ 1 ได้แก่ คนจีน 2. เกาหลี 3. ไต้หวัน 4. ฮ่องกง และไทย เป็นต้น.