ศ.จุมพล รอดคำดี ผู้ก่อตั้งชมรมวิทยุเด็ก เยาวชน และครอบครัว เปิดเผยในการสัมมนาของสมาคมวิทยุและสื่อเพื่อเด็กและเยาวชน เรื่อง เปิด 3 งานวิจัย รู้ทัน ป้องกันเด็กและเยาวชนผ่านโลกสื่อออนไลน์ว่า ปัจจุบันเรามีสื่อหลากหลายรวมทั้งสื่อออนไลน์ มีทั้งคุณและโทษ จึงจำเป็นต้องให้เด็กและเยาวชนเรารู้เท่าทันสื่อ ขณะเดียวกัน ต้องมีการทำวิจัยเรื่องสื่อให้มากขึ้นเพราะเป็นสิ่งจำเป็นต่อแวดวงสื่อและผู้เกี่ยวข้อง

ขณะที่นางปาจารีย์ ปุรินทวรกุล ภาควิชานิเทศศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ม.บูรพา กล่าวถึงงานวิจัยเรื่อง บทบาทหน้าที่ของปฏิกิริยาตอบกลับของผู้ใช้เฟซบุ๊กต่อการนำเสนอข่าวที่เกี่ยวข้องกับสิทธิเด็กผ่านสื่อเฟซบุ๊กของสำนักข่าวออนไลน์ กล่าวว่า จากการเก็บข้อมูลข่าวจากสำนักข่าวออนไลน์ยอดนิยมสูงสุด 3 อันดับแรกของประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.-31 ธ.ค.2560 มีการนำเสนอข่าวเด็ก 1,617 ข่าว พบว่า อันดับ 1 มีการนำเสนอข่าวที่ไม่พึงประสงค์ ทารุณกรรมต่อเด็ก ร้อยละ 48.24 รองลงมา เสนอข่าวโดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ของเด็ก ร้อยละ 43.97 และเผยแพร่ข้อมูลที่สร้างความเสียหายต่อจิตใจ ชื่อเสียงของเด็ก ร้อยละ 3.40 และจากข่าวเด็กทั้งหมด มีการแบ่งปัน หรือ share ในเฟซบุ๊ก เฉลี่ย 382.05 รายการต่อข่าว 1 ข่าว สูงสุดอยู่ที่ 61,000 ราย, การแสดงความคิดเห็น เฉลี่ย 204 รายการต่อข่าว 1 ข่าว สูงสุด 17,000 รายการ, การแสดงความรู้สึกหรือการกด Like เฉลี่ย 10,261.27 รายการต่อข่าว 1 ข่าว สูงสุด 433,000 รายการ

นางปาจารีย์ กล่าวด้วยว่า สื่อมวลชนที่นำข่าวจากสื่อใหม่หรือสื่อออนไลน์ ควรตระหนักถึงการปกป้องสิทธิเด็กและผลกระทบต่อเด็ก ขณะที่ผู้รับข่าวสารในสื่อออนไลน์ก็ควรตระหนักถึงสิทธิเด็กและผลกระทบต่อเด็กจากการแสดงปฏิกิริยาตอบกลับต่อข่าวเด็กด้วยเช่นกัน.

...