แนะสังคมสร้าง “คนดี” นำ “คนเก่ง” ปรับ 5 กระบวนทัศน์ฟื้นคุณธรรม
เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “หลักคิดที่เหมาะสมสำหรับคนไทย” ในงาน “การสร้างกระบวนทัศน์และหลักคิดที่เหมาะสมสำหรับคนไทย” ว่า สังคมไทยในอดีตได้รับการยกย่องจากต่างชาติในเรื่องความอ่อนโยน มนุษยธรรม กตัญญู แต่ปัจจุบันเผชิญกับวิกฤติคุณธรรม จึงถึงเวลาแล้วที่จะต้องตั้งโจทย์ อย่าปล่อยให้กระแสโลกาภิวัตน์พาเราลงเหว ปัญหาคือประเทศไทยเปลี่ยนแปลงรัฐบาลบ่อย ตั้งคณะกรรมการบ่อย แต่ปัญหาที่ใหญ่มากคือ การคอร์รัปชันเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า ต้องช่วยกันลด และต้องทำให้คุณธรรมกลับมา ต้องปรับกระบวนทัศน์ทั้ง 5 ข้อ คือ พอเพียง วินัย สุจริต จิตสาธารณะ และรับผิดชอบ ซึ่งโครงการโรงเรียนคุณธรรม ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงริเริ่มไว้เป็นต้นแบบสำคัญของการปรับใช้เป็นกระบวนทัศน์ 5 ข้อ ซึ่งทรงตรัสว่า “การสร้างคนดีให้แก่บ้านเมืองเป็นเรื่องที่ยากและยาวแต่ก็ต้องทำ” ดังนั้น การเรียนการสอนจะไม่ได้เน้นให้เด็กเก่ง แต่ทำให้เด็กมีน้ำใจ มีจิตอาสา สามัคคี หันมาช่วยเหลือกัน ซึ่งพบว่าการที่เด็กมีน้ำใจ มีคุณธรรม ส่งผลให้เด็กเรียนดีขึ้นกว่าเดิม วัดได้จากสถิติการสอบโอเน็ตอยู่ในลำดับที่ดีขึ้นเรื่อยๆ
“ปัจจุบันต้องให้ความสำคัญในประเด็นการสร้างคนดี มากกว่าคนเรียนเก่ง ต้องปรับความคิด มีจิตอาสา เด็กช่วยกันติว เน้นเรื่องระบบธรรมาภิบาล ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้องค์กรหรือโรงเรียนมีคุณภาพ คุณธรรม จัดสิ่งแวดล้อม เชื่อว่า 5-10 ปีนี้ ประเทศจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น” องคมนตรีกล่าว
...
ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม กล่าวอีกว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงเห็นความสำคัญด้านการศึกษา ทรงอยากให้การศึกษาต้องมุ่งสร้างพื้นฐานให้แก่ผู้เรียน คือ 1.ทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง เข้าใจในพื้นฐานของบ้านเมือง ยึดมั่นในศาสนา มั่นคงในสถาบันพระมหากษัตริย์ และเอื้ออาทรต่อครอบครัวชุมชน 2.พื้นฐานชีวิตที่มั่นคงเข้มแข็ง รู้จักแยกแยะผิดชอบชั่วดี ปฏิบัติแต่สิ่งที่ชอบ สิ่งที่ดี ปฏิเสธสิ่งที่ผิด สิ่งที่ชั่ว ช่วยกันสร้างคนดีแก่บ้านเมือง 3.มีอาชีพ มีงานทำ ไม่ใช่เรียนอย่างเดียวแต่ไม่สามารถนำมาปฏิบัติใช้ได้ และ 4. เป็นพลเมืองดี เห็นอะไรที่ดีต่อชาติบ้านเมืองก็ต้องทำ โดยสิ่งสำคัญที่ทรงเน้นย้ำคือ การทำเพื่อชาติบ้านเมือง.