กรมควบคุมมลพิษ ชี้ บริเวณ 4 สถานีในกรุงเทพมหานคร ปริมาณฝุ่นละอองมีแนวโน้มลดลงทุกพื้นที่แต่ยังเกินมาตรฐาน ส่วนคุณภาพอากาศพบ 2 เขต อยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ แนะผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจสวมหน้ากากอนามัย...

แฟนเพจเฟซบุ๊ก กรมควบคุมมลพิษ โพสต์ภาพพร้อมข้อความ ระบุว่า สถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ประจำวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2561 ณ เวลา 08.00 น. ดังนี้

1. ปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 ตรวจวัดได้ระหว่าง 47-70 มคก./ลบ.ม. เกินเกณฑ์มาตรฐาน (50 มคก./ลบ.ม.) 4 สถานี ได้แก่ บริเวณเขตวังทองหลาง ริมถนนอินทรพิทักษ์ ริมถนนพระราม 4 และริมถนนลาดพร้าว โดยปริมาณฝุ่นละอองมีแนวโน้มลดลงทุกพื้นที่

2. กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์สภาพอากาศในพื้นที่ กทม. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ความชื้น 88% ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ฝุ่นละอองในบรรยากาศลดลงได้

3. ประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ และผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด หากจำเป็นต้องออกจากอาคาร ควรใส่หน้ากากอนามัย และหากมีอาการผิดปกติควรรีบพบแพทย์

ทั้งนี้ กรมควบคุมมลพิษยังคงขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการกำกับดูแลกิจกรรมต่างๆ ที่อาจก่อให้เกิดฝุ่นละอองในพื้นที่ โดยเฉพาะการใช้ยานพาหนะ การเผา และการก่อสร้าง เพื่อที่จะช่วยลดปริมาณฝุ่นละอองลงได้

...

ขณะที่ เว็บไซต์ สำนักจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ รายงานคุณภาพอากาศบริเวณกรุงเทพฯ จากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศใน พื้นที่แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ พบปริมาณก๊าซโอโซน (O3) มีค่า 129 ส่วนในพันล้านส่วน (ppb) และ พื้นที่แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ พบปริมาณก๊าซโอโซน (O3) มีค่า 126 ส่วนในพันล้านส่วน (ppb) ซึ่งทั้ง 2 พื้นที่ อยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ

อย่างไรก็ตาม ข้อแนะนำด้านสุขภาพ สำหรับเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมในพื้นที่ที่มีหมอกควันปกคลุม หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรสวมหน้ากากหรือใช้ผ้าปิดจมูก ประชาชนทั่วไปขอให้ติดตามข่าวสารและปฏิบัติตามข้อแนะนำจากภาคราชการ และหากเกิดอาการเจ็บป่วยควรปรึกษาแพทย์.