อ.อ๊อด เฉลยที่มา 'ทำไมศพพลทหารถูกซ้อมถึงกลายเป็นหิน' ระบุ เพราะการย่อยของแบคทีเรียและจุลินทรีย์ต่างๆ ไม่สมบูรณ์ เนื่องจากศพอยู่ในระบบปิด อากาศภายนอกเข้าไม่ได้

จากกรณี พลทหาร ยุทธกินันท์ บุญเนียม อายุ 22 ปี ทหารกองประจำการสังกัด กองร้อย มณฑลทหารบกที่ 45 สุราษฎร์ธานี ได้เสียชีวิตในระหว่างถูกขังที่ เรือนจำ มทบ.45 เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 60 นั้น ล่าสุดทางญาติได้เปิดดูศพ และพบว่ากลายเป็นหิน ไม่เน่า ไม่เปื่อย มีเส้นผมงอก มีคิ้ว มีเครา และส่วนอื่นแข็งเหมือนหินทุกส่วน

ล่าสุด รศ.ดร. วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อ.อ๊อด อาจารย์ภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวโดยระบุว่า จะเห็นว่าจากภาพของศพที่อยู่ในโรงปูนนั้นมีการเน่าเปื่อยอยู่นะครับ แต่เป็นการเน่าเปื่อยที่ไม่สมบูรณ์ ด้วยปัจจัยหลายอย่าง

เมื่อคนตาย สรีระจะเกิดการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติโดยลำดับ หลังสุดก็จะเป็นการเน่าเปื่อย โดยตอนเริ่มต้นนั้นศพจะมีรอยช้ำ มีสภาพแข็งทื่อ และอุณหภูมิในศพลดลง

...

ส่วนลำดับสุดท้าย คือ การย่อยสลาย ซึ่งเป็นการทำงานของของจุลินทรีย์ และแบคทีเรียที่อยู่ในศพ และอยู่ข้างนอกศพนั้น มีปัจจัยการทำงานหลายอย่าง เช่น สภาพอุณหภูมิที่เหมาะสม อากาศที่ถ่ายเท หรือต้องเป็นระบบเปิด

ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่า สรีระในข่าวนั้น อยู่ในโรงปูนซึ่งปิดทับแน่นหนา อากาศภายนอกเข้าไม่ได้ และก๊าซที่เกิดจากกระบวนการย่อยสลาย (คาร์บอนไดออกไซด์ ไฮโดรเจนซัลไฟด์ ไนโตรเจน) ได้ถูกสร้างขึ้นมา

ในช่วงเริ่มต้นของการย่อยสลาย มาแทนที่อากาศในโลงปูน สภาวะที่ไม่เหมาะสมนี้ จะหยุดยั้งการทำงาน ของแบคทีเรียและจุลินทรีย์ต่างๆ ทำให้การทำงานของแบคทีเรียและจุลินทรีย์ ทำงานได้ไม่เต็มที่กระบวนการเน่าสลายก็ไม่สมบูรณ์

ขณะเดียวกัน ความชื้นที่ออกจากร่างกายได้บางส่วน ก็ทำให้สภาพศพ แห้ง และเริ่มแข็งทื่อๆ เห็นเส้นผมหรือหนวดที่โผล่ขึ้นมาจากสรีระมีการหดตัว ซึ่งปรากฏการณ์เหล่านี้เห็นได้ทั่วไปในศพ หรือสรีระที่เก็บในภาชนะปิด ยกตัวอย่าง เช่น สรีระของเกจิอาจารย์ชื่อดังที่อยู่ในโลงแก้วก็จะมีสภาพอย่างนี้เช่นกัน