แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนัง ระบุชัด โรคสะเก็ดเงินไม่ใช่โรคติดต่อ และไม่ใช่โรคร้ายแรง แนะดูแลให้ถูกวิธี ต้องระวังโรคแทรกซ้อนทั้งหัวใจ และ ข้อเสื่อม อาจทำให้พิการได้

จากกรณี บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เข้าช่วยเหลือหมอนวดแผนโบราณป่วยโรคสะเก็ดเงิน ซึ่งลูกค้า และคนรอบข้างเข้าใจผิดคิดว่าเป็นโรคเอดส์ จนถูกพักงาน ไม่นานสามีก็ขอแยกทาง ซึ่งต้องเป็นแม่ม่าย เลี้ยงลูก 2 คน เพียงลำพัง

ล่าสุด ดร.นพ.เวสารัช เวสสโกวิท แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนัง สถาบันโรคผิวหนัง กล่าวว่า โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) เป็นโรคเรื้อรังทางผิวหนังชนิดหนึ่งไม่ใช่โรคติดต่อแต่อย่างใด ซึ่งไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ส่วนใหญ่พบว่าผู้ที่ป่วยเป็นโรคสะเก็ดเงินนั้นมีจะมีโรคแทรกซ้อนด้วย เช่น โรคหัวใจ โรคข้อเสื่อม อาจก่อให้เกิดความพิการ หากไม่ได้รับการดูแลและรักษาอย่างถูกต้อง

สำหรับอาการของโรคสะเก็ดเงินที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน คือ มีผื่นบริเวณหนังศีรษะลอกแห้ง ผิวหน้า หรือบริเวณนอกร่มผ้า หรือบางกรณีผู้ป่วยมักมีอาการปวดข้อ รูปลักษณะข้อเกิดการผิดรูปหรือเสียรูปถาวร จนส่งผลให้ไม่สามารถทำงาน หรือดำเนินชีวิตประจำวันได้เท่าคนปกติ

ดร.นพ.เวสารัช กล่าวอีกว่า ปัจจุบันเราพบว่าประชาชากรไทยร้อยละ 2 เป็นโรคสะเก็ดเงิน พบได้ทั้งเพศหญิงและเพศชายในจำนวนเท่าๆ กัน โดยโรคสะเก็ดเงินจัดอยู่ในกลุ่มโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ มีอาการเป็นช่วงๆ แต่สามารถควบคุมอาการได้

โดยแพทย์ จะต้องวินิจฉัยจากชนิดของอาการของผู้ป่วย ความรุนแรง ซึ่งผู้ที่มีอาการป่วยเป็นโรคสะเก็ดเงินเกินร้อยละ 5 ของพื้นที่ผิวจะถือได้ว่าเป็นผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง จำเป็นต้องได้รับยาที่นอกเหนือจากยาทา ได้แก่ การฉายแสงหรือการอาบแสงแดดเทียม และการรับประทานยาหรือฉีดยาสำหรับโรคดังกล่าว

...

สำหรับข้อปฏิบัติตนเพื่อควบคุมอาการไม่ให้รุนแรงมากยิ่งขึ้นถือได้ว่าเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมากที่จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติได้รวดเร็วมากขึ้น ซึ่งมีเคล็ดลับ 4 ประการในการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินมีดังนี้

1. เข้าใจโรคสะเก็ดเงิน ผู้ป่วยจำเป็นต้องเข้าใจเกี่ยวกับโรคสะเก็ดเงินอย่างชัดเจน เพื่อสามารถดูแลและรักษาตนเองได้อย่างเหมาะสมต่อไป

2. ดูแลร่างกายและจิตใจอย่างเคร่งครัด ด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงความเครียดทั้งทางร่างกายและจิตใจ

3. หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น ได้แก่ การแกะเกา การปล่อยให้ผิวหนังแห้งขุย การสูบบุหรี่ การดื่มสุรา เป็นต้น

4. สังเกตและป้องกันตนเองจากภาวะโรคแทรกซ้อน เช่น หากว่าเกิดอาการปวดบริเวณข้อใดข้อหนึ่งในร่างกายจะต้องรีบมาพบแพทย์ทันที เพื่อให้แพทย์ทำการวินิจฉัยและรักษาจากโรคข้อเสื่อมอักเสบ ผู้ป่วยบางรายที่ปล่อยให้ตนเองอ้วนมากเกินไปก็อาจเพิ่มความเสี่ยงสูงต่อการเป็นโรคหัวใจมากกว่าคนไข้ที่มีน้ำหนักปกติ

"โรคสะเก็ดเงิน ถือเป็นโรคหนึ่งที่ส่งผลกระทบในด้านการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วยและคนทั่วไป อาจยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับโรคนี้อย่างชัดเจน จนมองว่าเป็นโรคติดต่อและเกิดจากความสกปรก ซึ่งส่งผลกระทบต่อจิตใจผู้ป่วยอย่างมาก"