ผู้อ่านขาประจำ อยากทราบว่าต้น “สายน้ำผึ้ง” เป็นอย่างไร ซึ่งต้น “สายน้ำผึ้ง” มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า LONICERA JAPONICA THUNB. ชื่อสามัญคือ HONEYSUCKLE, JAPANESE HONEYSUCKLE. อยู่ในวงศ์ CAPRIFOLIACEAE มีลักษณะทางพฤกษศาสตร์เป็นต้นไม้เถาเลื้อย กิ่งก้านและต้นเป็นสีน้ำตาลมีขน ใบเป็นใบเดี่ยว ออกตรงกันข้าม รูปรีแกมรูปใบหอก ปลายใบแหลม โคนใบมนหรือตัดตรง สีเขียวสด
ดอก ออกเป็นช่อตามซอกใบ มีกลีบเลี้ยงโคนเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 5 แฉก เรียงกันเป็นสัน กลีบดอกโคนเชื่อมกันเป็นหลอดยาวประมาณ 2.5 ซม. ปลายแยกเป็นกลีบดอก 2 ส่วน ไม่เท่ากัน กลีบบนมีกลีบเดียว ส่วนกลีบล่างปลายแยกเป็นกลีบจำนวน 4 กลีบ มีเกสรตัวผู้ 5 อัน พ้นกลีบดอก กลีบดอกเป็นสีขาวหรือสีเหลืองอ่อน จากนั้นจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองจัด เมื่อดอกแก่จะมีกลิ่นหอมเย็น เวลามีดอกดกและดอกบานพร้อมกันทั้งต้นจะดูสวยงาม พร้อมส่งกลิ่นหอมกระจายเป็นที่ประทับใจมาก “ผล” เป็นรูปทรงกลม สีดำ มีเมล็ด ดอกออกตลอดทั้งปี และจะมีดอกดกเป็นพิเศษในช่วงระหว่างเดือนมีนาคม ขยายพันธุ์ด้วยการตอนกิ่ง มีต้นขายทั่วไปที่ ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ ราคาอยู่ที่ขนาดของต้น
ในทางสมุนไพร ตำรายาแผนไทยระบุว่า ลำต้นหรือเถาของ “สายนํ้าผึ้ง” จะเป็นส่วนไหนก็ได้ กะจำนวนพอประมาณต้มกับนํ้าอาบแก้โรคผิวหนัง แผลฝีต่างๆ แผลเปื่อยตามตัวดีมาก นอกจากนั้น นํ้าต้มดังกล่าวยังดื่มแก้บิด ท้องเสีย แก้ปวดเมื่อยตามข้อ ขับปัสสาวะ แก้ไข้และรักษาแผลในกระเพาะอาหารได้ เนื่องจากมีสารฝาดและ “ซาโปนิน” ดอกของ “สายนํ้าผึ้ง” ชาวจีนสมัยโบราณและปัจจุบันยังนิยมเอาดอกสดจำนวนตามต้องการต้มกับนํ้าจนเดือด ดื่มเป็นยาแก้ไข้หวัดได้ระดับหนึ่ง และยังอมกลั้วในปากช่วยแก้เหงือกอักเสบเป็นแผลมีหนองได้ ซึ่งดอกของ “สายนํ้าผึ้ง” มีสารจำพวก Luteolin. inositol ครับ.
...
“นายเกษตร”