จี้ผุดแผนปั้นบัณฑิตพันธ์ุใหม่ชง ครม. หลัง WEF ระบุผลิตคนไม่ตอบโจทย์

นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ผ่านมาได้มีการหารือกรณี World Economic Forum (WEF) ประเมินผลจากผู้ประกอบการในประเทศไทย พบว่าทั้งระดับอุดมศึกษาและอาชีวศึกษาผลิตกำลังคนไม่ตรงกับความต้องการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงสั่งการให้ปฏิรูปการศึกษาระดับอาชีวศึกษาและอุดมศึกษาใหม่ ตนจึงมอบหมายให้ นพ.อุดม คชินทร รมช.ศึกษาธิการ เป็นประธานขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงอุดมศึกษาและอาชีวะใหม่ เริ่มจากปรับปรุงหลักสูตรใหม่โดยเชิญผู้ประกอบการ ผู้เชี่ยวชาญ เข้ามาช่วยปรับปรุงเพื่อผลิตกำลังคนให้ตอบโจทย์ โดยหลักสูตรต้องมีความยืดหยุ่นสามารถปรับเปลี่ยนได้ โดยต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน

รมว.ศึกษาธิการกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ต้องมีการเสนอรูปแบบพัฒนาคนสูตรใหม่ เช่น อาชีวะ 4.0, อาชีวะพันธุ์ใหม่, มหาวิทยาลัยหลักสูตรใหม่ เสนอให้ ครม. พิจารณา เพื่อจัดสรรงบประมาณสนับสนุน คล้ายกับโครงการผลิตแพทย์เพิ่ม

อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวจะเริ่มในมหาวิทยาลัยหรือวิทยาลัยที่มีความพร้อมก่อน ไม่ใช่ทำพร้อมกันหมด ซึ่งตนต้องการที่จะเริ่มภายในภาคเรียนที่ 1 ของปีการศึกษา 2561 นี้ ทั้งนี้ การปฏิรูปการผลิตกำลังคนในระดับอาชีวะและอุดมศึกษาในครั้งนี้ จะต้องนึกถึงผลลัพธ์เป็นหลักไม่ใช่ผลผลิตเพียงอย่างเดียว โดยจะมีการหารือรายละเอียดเรื่องนี้อีกครั้งในวันที่ 5 ม.ค.นี้

ด้าน ดร.สุภัทร จำปาทอง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวว่า สำหรับการดำเนินการของการปรับหลักสูตรมหาวิทยาลัยในส่วนของกลุ่มที่มีความพร้อม สามารถดำเนินการได้ทันที สำหรับกลุ่มที่ต้องการที่จะผลิตแต่ยังไม่มีความพร้อม เช่น อาจารย์ไม่เพียงพอ อุปกรณ์ เครื่องมือไม่พร้อม ก็สามารถประสานร่วมระหว่างมหาวิทยาลัยได้ ซึ่งในกรณีดังกล่าวสามารถขอดุลพินิจจากคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เป็นกรณีพิเศษได้ อย่างไรก็ตาม การปรับหลักสูตรจะต้องทำให้สามารถเชื่อมต่อกับการศึกษาของอาชีวศึกษาได้ด้วย คือเมื่อเด็กจบระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) แล้วก็สามารถโอนหน่วยกิตและศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีได้ ดังนั้น จึงจะต้องมาดูในส่วนของเนื้อหารายวิชาต่างๆที่ต้องทำให้ตรงกันด้วย.

...