ถอยคนละก้าว แต่ปัญหาก็ยังไม่จบ! หนุ่มหาทางออก หลังแม่ไม่ชอบลูกสะใภ้ ทั้งที่ปรับตัวเข้ากับแม่ทุกอย่าง ขอคำปรึกษา หรือจะพาไปบ้านคนชราเพื่อตัดปัญหา

สมาชิกหมายเลข 4300506 ในเว็บไซต์พันทิป ตั้งกระทู้ขอปรึกษา จะพาแม่ไปอยู่บ้านพักคนชรา จะบอกท่านยังไงดีครับ ไม่ให้ท่านเสียใจ โดยเขาระบุว่า ผมซื้อบ้านไว้เมื่อ 2 ปีก่อน เป็นหมู่บ้านจัดสรรแถวบางกะปิ ทุกวันนี้ผมอาศัยอยู่กับแม่ 2 คน ตอนแรกที่ผมซื้อบ้านหลังนี้ไว้ เพราะตั้งใจจะเอาไว้เป็นเรือนหออยู่กับแฟน โดยให้แม่อาศัยอยู่กับผมด้วย แต่ปัญหาคือแม่ไม่ชอบแฟนผมเอามากๆ

ตอนนี้ผมอายุ 39 แฟนผมอายุ 30 แม่ผมอายุ 71 พ่อผมตายไปได้ 9 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้แม่ผมอาศัยอยู่กับน้องสาวที่ต่างจังหวัด แต่พอน้องผมแต่งงาน แม่ก็ย้ายมาอยู่กับผมหลังจากที่ผมซื้อบ้านได้ไม่นาน

ผมกับแฟนคบกันมา 5 ปี มีแพลนจะแต่งงานกันมาตั้งนานแล้ว แต่แม่ผมไม่ยอมรับในตัวแฟนผม ทำยังไงก็ไม่รับ ทั้งที่แฟนผมก็พยายามปรับตัวเอาใจท่านทุกอย่าง ผมเลยคุยกับแฟนว่าชาตินี้คงไม่ได้แต่งงาน เลยพากันไปจดทะเบียนสมรสเมื่อ 3 เดือนก่อน ช่วงนี้แฟนผมต้องอาศัยอพาร์ตเมนต์อยู่ไปก่อนเรื่อยๆ

แต่ดูแนวโน้มแล้ว แม่ผมคงไม่ยอมรับสะใภ้คนนี้แล้วครับ ทั้งๆ ที่บ้านที่ท่านอยู่ทุกวันนี้ ผมตั้งใจจะซื้อไว้อยู่กับแฟน โดยให้แม่มาอยู่ด้วย แต่เมื่อแม่ผมไม่ยอมแบบนี้ ผมกับแฟนเลยคุยกันเพื่อจะหาทางออก ผมกับแฟนรอที่จะอยู่ด้วยกันมานานแล้วครับ ผมไม่อยากรอต่อไปนานกว่านี้แล้ว เพราะไม่มีวันที่แม่ผมจะยอมรับแฟนผม

ผมกับแฟนเลยตัดสินใจว่า จะพาท่านไปอยู่บ้านพักคนชรา เพื่อตัดปัญหาทุกอย่างไปเลย ทุกวันนี้ผมเองก็ไม่ค่อยมีเวลาได้ดูแลท่านอยู่แล้ว เพราะงานผมรัดตัวมาก แฟนผมก็งานยุ่ง ต่างคนต่างได้เลื่อนขั้นรับตำแหน่งใหม่ ถ้าอยู่ด้วยกันคงไม่มีใครที่จะมีเวลาดูแลท่านแน่

...

อย่างน้อยพาแม่ไปอยู่บ้านพักคนชรา ผมจะได้อุ่นใจว่ามีคนดูแลแม่ผมแน่ๆ แล้วแฟนผมจะได้ย้ายมาอยู่กับผมอย่างที่ตั้งใจไว้ตอนแรกด้วย ผมเองก็อยากสร้างชีวิตครอบครัวของผม ผมว่านี่คือทางออกที่ดีที่สุดแล้ว แต่ผมไม่รู้ว่าจะหาทางบอกท่านยังไงดี เพื่อไม่ให้ท่านเสียใจ ช่วยผมคิดเหตุผลหน่อยครับชาวพันทิป

ทั้งนี้ สมาชิก มึนมึนจัง แสดงความคิดเห็นว่า บางคนก็ว่าเจ้าของกระทู้ บางคนก็บอกให้สำนึกบุญคุณแม่ บางคนก็บอกให้ทำบ้าน แต่เราอ่านแล้วมีคำถามในหัว เจ้าของกระทู้มีเงินพอปรับปรุงบ้านเหรอ? แล้วเราก็เห็นว่าแฟนเค้าทนมาตั้ง 5 ปี

ห้าปีนี่ไม่ใช่น้อยๆ นะ ยอมจดทะเบียนกันเงียบๆ ด้วย ยอมอยู่อพาร์ตเมนต์คนเดียว เรารู้สึกว่าแฟนเจ้าของกระทู้ เค้าก็ถอยมากเลยนะ ถ้าเป็นชะนีสายไฟต์แม่ผัวป่านนี้หอบเสื้อผ้าย้ายมาฉะกับแม่ผัวคาบ้านแล้ว

มีแต่คนบอกให้สงสารสำนึกบุญคุณแม่ แม่อยู่อีกไม่นานก็ตาย แล้วถ้าแม่เจ้าของกระทู้ตาย แฟนเจ้าของกระทู้ทิ้ง อนาคตเจ้าของกระทู้ต้องแก่ตายคนเดียวเพราะแม่ไล่ผู้หญิงดีๆ ออกจากชีวิตเค้า เค้าอดมีครอบครัว ใครจะรับผิดชอบชีวิตผู้ชายแก่ๆ ตัวคนเดียวคนนี้?

ปัญหามันไม่ใช่แฟนเจ้าของกระทู้ทะเลาะกับแม่สามีสักหน่อย ยังจะให้เค้าปรับอะไรอีก ยอมเป็นเมียลับๆ ขนาดนี้แล้วยังยอมไม่พออีกเหรอ? ปัญหามันอยู่ที่แม่เจ้าของกระทู้ต้องหาวิธีปรับแม่เข้าหาแฟน ไม่ใช่ให้แฟนยอมทุกอย่าง ทางแก้คือต้องหาวิธีจัดการแม่ให้หายหัวแข็ง ไม่ใช่ข้อความชวนสำนึกบุญคุณค่าน้ำนมแม่ ถ้าเจ้าของกระทู้เค้าไม่สำนึกบุญคุณจริง เค้าไม่รับแม่มาอยู่ด้วยต่อจากน้องสาวหรอก

ป.ล. เป็นเรา เราสวนแม่เลยว่า "แม่อยากให้ผมคอยดูแลแม่ แล้วแม่ไม่คิดว่าผมเองก็อยากมีคนดูแลบ้างเหรอ?"

ป.ล. 2 ถึงเราจะแสดงความเห็นฮาร์ดคอร์ แต่เราโตมากับแม่เลี้ยงเดี่ยว 2 คนนะ เราสำนึกบุญคุณแม่ยิ่งกว่าใคร เพราะไม่มีพ่อ ไม่มีพี่น้อง ทั้งชีวิตมีแต่แม่

สมาชิกหมายเลข 2411583 : น้ำท่วมปาก กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เห็นหลายครอบครัวเป็นแบบนี้ ลูกจะ 40 แล้ว ก็ยังไปยุ่งกับชีวิตลูก เรากลับคิดว่าแม่ไม่คิดบ้างเหรอว่าตายไปแล้วลูกจะอยู่กับใคร มีครอบครัวตัวเองไม่ได้ คุณจัดงานแต่ง พาแฟนเข้าบ้านไปเลย

แม่คุณไม่รับก็ปล่อยเค้า แต่กลัวว่าคนที่ทนไม่ไหวจะเป็นภรรยาคุณมากกว่า คนกลางอย่างคุณต้องให้กำลังใจมากๆ เห็นลูกชายหลายบ้านแล้วที่แม่เป็นแบบนี้จนจะ 50 แล้ว ชีวิตเงียบเหงา อับเฉา ยังสงสัยว่าแม่ทนเห็นลูกเป็นแบบนี้ได้ยังไง.