ความรักที่ไม่มีเงื่อนไข แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต แสดงธรรม เปิดใจความรักครั้งแรก และครั้งเดียวที่มีต่อ 'เสถียร เสถียรสุต' หนึ่งในผู้ก่อตั้งเสถียรธรรมสถาน
แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต กล่าวในการแสดงธรรมภายในงานสวดพระอภิธรรม คุณเสถียร เสถียรสุต ณ วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 60 ว่า คุณเสถียร ถือเป็นตัวอย่างของความรักที่ไม่มีเงื่อนไข วันที่คุณเสถียรจะคืนลมหายใจให้กับธรรมชาติ เป็นช่วงเวลาที่เสถียรธรรมสถานกำลังสร้าง ธรรมาศรม หรือ Mindfulness Hospital เพื่อดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย อยู่ช่วงเวลาเดียวกันที่แม่ต้องไปๆ มาๆ ระหว่าง โรงพยาบาลและเสถียรธรรมสถาน ในขณะที่ตัวเองก็ป่วยเป็นมะเร็ง
คุณเสถียร เข้าโรงพยาบาลด้วยอาการผู้สูงอายุ ซึ่งคุณเสถียรมีอายุ 90 ปี และมีอาการหกล้มทำให้กระดูกข้างซ้ายแตก แต่ไม่ได้บอกใคร เป็น 2 วันที่อดทนต่อความเจ็บป่วยโดยไม่ได้บอกใคร จนกระทั่งผู้ดูแล เล่าว่า คุณเสถียรไม่ลุกจากที่นอน และเรียกให้คนดูแลนวดให้หน่อย ซึ่งคุณเสถียรเองก็ไม่ทราบว่ากระดูกแตก คนที่เฝ้าบอกดูผิดปกติ จึงเรียกรถโรงพยาบาลมา ช่วงนั้นเป็นช่วงที่วางแผนกันว่า ถ้าเผื่อคุณเสถียรแข็งแรงดี จะทำการผ่าตัดในเช้าของวันเสาร์ที่ 9 ธ.ค.
...
ทั้งนี้ ช่วงวันเสาร์ ร่างกายของคุณเสถียรไม่พร้อมจะเข้าห้องผ่าตัดและดมยาสลบ หมอปรึกษาว่าจะบล็อกหลัง และถือเป็นการไม่พร้อมแบบสมัครใจที่จะไม่เข้าห้องผ่าตัด ถ้าเรามองตามความเป็นจริงจะเห็นอย่างหนึ่งว่า ถ้าผู้ป่วยมีความปรารถนาที่จะใช้ชีวิตในช่วงสำคัญเพื่อเผชิญความเจ็บปวด
"คุณเสถียรอยู่กับความเวทนาด้วยความอดทน หมอปรึกษาว่า คุณเสถียรยังมีความรู้สึกที่ดี เช่น การรับรู้ จึงให้คุณเสถียร วางใจ เอาใจวางไว้ได้เลย เรามีเวลาที่อยู่กับกุศลมากกว่าอกุศล ขอให้ระลึกเสมอว่าเสถียรธรรมสถาน ทำกุศลทุกวัน ซึ่งตอนคุณเสถียรบีบมือเพื่อแสดงว่ารับรู้ทุกอย่าง"
แม่ชีศันสนีย์ กล่าวอีกว่า เวลาที่พูดถึงว่าเราจะยังพบกันในเวลาที่เราสงบ จากราคะ โทสะ โมหะ จิตของเราก็จะบริสุทธ์ เมื่อเราพบกันด้วยความบริสุทธิ์ คือ ความรักที่ไม่มีเงื่อนไข เนื่องจากคุณเสถียร เป็นคนโรแมนติก และเป็นคนที่มีความโก้อยู่ตลอดเวลา ซึ่งคุณเสถียร อยู่ในสภาพที่พึ่งตัวเองไม่ได้ จะอึดอัด เป็นคนที่พึ่งพาตัวเองตลอด เป็นคนมีความเป็นส่วนตัวสูง คุณเสถียรที่ดูแลตัวเองในช่วงสุดท้าย ลักษณะของเวทนาที่เกิดขึ้น คุณเสถียร ก็ใช้ภาวะการปลดปล่อยด้วยอารมณ์ขัน หรืออารมณ์อื่นๆ ซึ่งคนที่ดูแลก็เข้าใจ
ช่วงเวลาวิกฤติที่ได้เรียนรู้ ได้ใช้บทสวดมนต์อานาปานสติ การหายใจที่มีสติ ทำให้เราได้ฝึกปฏิบัติไปด้วยกัน ช่วงแรก ก็เอ่ยเสียงสวดไปด้วย รอบที่สอง ก็มีภาวะที่อ่อนลง การเต้นของหัวใจที่อ่อนลง เราก็ต้องประคองใจให้เป็นกุศล สิ่งที่พบคือ ช่วงนั้นคุณเสถียร รับรู้อย่างต่อเนื่อง ได้ใช้ช่วงเวลานั้น ได้ใช้การคืนลมหายใจอย่างสง่างาม เป็นการคืนลมหายใจแบบไม่ทุกขเวทนา เป็นการคืนแบบสงบ
"การดูแลผู้ป่วย เราจะต้องเฝ้าสังเกต แบบไม่เอาความรู้สึกเป็นตัวตั้ง เฝ้าสังเกตแบบความรักไม่มีเงื่อนไข เราจะทำให้อย่างไรให้ผู้ป่วย หรือคนที่เรารักกังวลกับเราน้อยที่สุด การวางใจ คือ การไปแบบไม่ต้องกังวล ไม่ต้องห่วงใย ซึ่งก็เป็นแบบนั้นจริงๆ คุณเสถียรไปด้วยลมหายใจกล้ำกลืนไม่ฝืนไว้ และสงบ"
อย่างไรก็ตาม แม่ชีบวชมา 38 ปี ตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ. 2523 ตอนที่นำคุณเสถียรออกมาจากโรงพยาบาลพากลับมาที่วัดนี้ เวลาที่เราพบว่า 38 ปีที่แล้วพาคุณแม่มาบวช เป็นสิ่งที่ชัดเจน เป็นการแสดงออกว่าเป็นรักที่ไม่มีเงื่อนไข เป็นความรักที่ไม่ต้องดึงเอาไว้ ว่าเป็นของฉัน ไม่ต้องบอกว่าจะเข้าไปครอบครอง แต่เป็นลักษณะการวางใจ รักใคร ซึ่งตอนนั้นเป็นช่วงที่เราได้เรียนรู้มาก และคุณเสถียร ก็ยังต้องทำใจ
เมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา หลวงพ่อใหญ่ ท่านก็แนะนำให้ได้ซื้อที่ใกล้ๆ ก่อนที่ท่านจะมรณภาพ ตอนนั้นก็เป็นการจากพรากอีกครั้ง แม้ว่าสิ่งที่รักตายจาก หลวงพ่อก็แนะนำให้คุณเสถียรซื้อที่ดินใกล้ๆ จึงกลายเป็นเสถียรธรรมสถาน
หลังจากนั้นหลวงพ่อก็มรณภาพ 3 เดือนต่อมาด้วยท่านั่งสมาธิ เราก็เสียใจเราจะทำอย่างไรกับความรักที่จะต้องจากพราก สิ่งที่เราพบคือ คุณเสถียรเป็นหนึ่งที่แสดงว่า การเคารพในการตัดสินใจ และเป็นส่วนหนึ่งของการก่อกำเนิดของเสถียรธรรมสถาน แม่ก็ทำงานแบบนี้มาเป็นปีที่ 30 และจะเป็นที่จะก้าวสู่ทศวรรษของเสถียรธรรมสถาน ให้รับรู้ว่าความรักที่มีนั้นจะคงยังอยู่
ทั้งนี้ สิ่งที่แม่ทำได้มากมายขณะนี้ เป็นเพราะคุณเสถียร ทั้งสิ้น ก่อนหน้าเราเคยเตรียมสถานที่ในธรรมาศรมแต่คุณเสถียร ไม่ยอมมาอยู่ และคุณเสถียรก็ได้คืนสู่ธรรมชาติก่อน
อย่างไรก็ตาม พอคุณเสถียรรู้ว่าแม่เป็นมะเร็ง ก็ถามแม่ว่า เราจะอยู่กับใคร ทั้งที่มาเสถียรธรรมสถานไม่บ่อย แต่มาที่วัดศิริพงษ์มากกว่า ซึ่งจะมาแค่ปีละครั้ง และรูปหน้าศพที่ถ่ายคือ ตอนอายุ 90 ปี เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 60
หลังจากนั้น คุณเสถียร ก็มาพบคุณแม่อีกครั้ง ตอนรู้ว่าแม่เป็นมะเร็ง มาแบบไม่ต้องนั่งรถเข็น และถามแม่ว่า คุณเจ็บมากไหม คุณเสถียรร้องไห้เมื่อรู้ว่าแม่เป็นมะเร็ง และจะอยู่อย่างไร แม่ก็นึกว่า เขาถามแม่ว่าจะอยู่อย่างไร แต่นั่นหมายถึงเขาจะอยู่อย่างไร ซึ่งคุณเสถียร เขาไปก่อนเพราะไม่อยากอยู่คนเดียว
ในตอนสุดท้ายคุณเสถียรไม่ห่วงแล้ว แต่ก่อนคุณเสถียร มาเสถียรธรรมสถาน ต้องใส่ชุดหล่อตลอด เสื้อผ้าสีสันสดใส และเดินมาไม่ยอมนั่งรถเข็น แต่วันเสาร์ที่ 2 ธ.ค. คุณเสถียรใส่ชุดขาว ซึ่งทุกอย่างรวดเร็วมาก แต่แม่ก็ได้เยียวยาในเวลาที่สำคัญที่สุด และคุณเสถียรก็ทิ้งลมหายใจคืนธรรมชาติตอน 15.25 น. ของวันที่ 9 ธ.ค.60