กรมควบคุมโรค สธ.ออกโรงเตือนระวังภัย 3 เรื่องวันลอยกระทง โดยเฉพาะเด็กจมน้ำ พบว่าข้อมูล 10 ปีย้อนหลัง ตัวเลขน่าตกใจมากกว่าวันปกติ...

เมื่อวันที่ 3 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอุบัติภัย 3 เรื่อง คือ 1. การจมน้ำ 2. การบาดเจ็บจากการจราจรและ 3.การบาดเจ็บจากพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ

ทั้งนี้ ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เฉพาะในวันลอยกระทงวันเดียวมีเด็กจมน้ำเสียชีวิตเฉลี่ยวันละเกือบ 5 คน มากกว่าในช่วงวันปกติเกือบ 2 เท่า แนะไม่ควรปล่อยให้เด็กลงไปเก็บกระทง เพราะอาจจะเป็นตะคริวทำให้จมน้ำเสียชีวิตได้ และเตือนให้ระมัดระวังการใช้รถใช้ถนน หลีกเลี่ยงการดื่มสุราขณะขับขี่ รวมถึงการจุดพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ ที่อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บรุนแรง พิการหรือเสียชีวิตได้         

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากข้อมูลช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ปี 2550-2559 ช่วงเทศกาลลอยกระทง 3 วันคือ ก่อนวันลอยกระทง วันลอยกระทง และหลังวันลอยกระทง พบว่ามีคนจมน้ำเสียชีวิตมากถึง 401 คน โดยเป็นเด็ก อายุต่ำกว่า 15 ปี ถึง 111 คนหรือร้อยละ 27.7 เฉพาะในวันลอยกระทงวันเดียว มีคนจมน้ำเสียชีวิตสูงถึง 154 คน เป็นเด็ก 49 คน ร้อยละ 31.8 เฉลี่ยวันละเกือบ 5 ราย ซึ่งมากกว่าในช่วงวันปกติเกือบ 2 เท่า นอกจากนี้ ยังพบว่าเป็นชายมากกว่าหญิงประมาณ 2 เท่า และเกือบครึ่งหนึ่งของเด็กที่จมน้ำในวันลอยกระทงพบว่าเป็น กลุ่มเด็กอายุ 5-9 ปี ร้อยละ 47.1

สำหรับข้อแนะนำเพื่อป้องกันเด็กจมน้ำในช่วงลอยกระทงนั้น มีดังนี้ ห้ามปล่อยเด็กไว้ตามลำพัง ห้าม ห้ามเด็กอยู่ใกล้ขอบบ่อ ห้ามไปเก็บเงินในกระทง โดยมีข้อปฏิบัติ คือ ผู้ปกครองควรดูแลเด็กอย่างใกล้ชิดไม่ให้คลาดสายตา และเพิ่มความระมัดระวังเมื่อนำเด็กเข้าใกล้แหล่งน้ำ ไม่ปล่อยให้เด็กไปลอยกระทงกันเองตามลำพัง และเก็บกระทงแม้จะอยู่บนฝั่งเพราะอาจพลัดตกได้ เด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ต้องอยู่ในระยะที่มองเห็นและเข้าถึง สอนให้เด็กใช้นกหวีดเพื่อขอความช่วยเหลือ และในกลุ่มผู้ใหญ่ควรหลีกเลี่ยงการดื่มสุราและลงน้ำ หากโดยสารเรือให้สวมเสื้อชูชีพทุกครั้งทั้งผู้ใหญ่และเด็ก.          

...