สวทช. จับมือ วว. มอบใบรับรองระบบบริหารการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ให้กับ เอสซีจี ใช้สิทธิยกเว้นภาษี 300% ได้ด้วยตนเอง (Self-Declaration)
เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 60 ที่บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) จัดพิธีรับมอบใบรับรองระบบบริหารการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ให้กับบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) สามารถใช้สิทธิยกเว้นภาษี 300% ได้ด้วยตนเอง (Self-Declaration) สำหรับโครงการวิจัยฯ ที่มีมูลค่าโครงการไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยการขอรับรองระบบบริหารการวิจัยฯ เป็นรายบริษัท แทนการรับรองโครงการวิจัยฯ เป็นรายโครงการแบบเดิม (Pre-approval) ซึ่ง สวทช. และ วว. ร่วมทำหน้าที่ตรวจประเมินระบบบริหารการวิจัยฯ ตามข้อกำหนดที่พัฒนาขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการเกิดความสะดวก และมั่นใจในการขอใช้สิทธิยกเว้นภาษี 300% พร้อมทั้งสร้างแรงจูงใจให้ภาคเอกชนลงทุนทำวิจัยมากขึ้น ส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวม และยกระดับความสามารถการแข่งขันของประเทศต่อไป
ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า สวทช. เป็นหน่วยงานวิจัยและพัฒนาที่ได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่ในการดำเนินการตรวจสอบ และรับรองโครงการวิจัยฯ ในรูปแบบ Pre-Approval เริ่มตั้งแต่ปี 2545 จนถึงปัจจุบันมีผู้ประกอบการยื่นขอรับรองโครงการวิจัยเพื่อขอรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี จำนวน 352 ราย และมีแนวโน้มว่าผู้ประกอบการที่เคยยื่นขอรับรองโครงการวิจัยฯ ในปีแรกจะกลับมายื่นขอรับรองในปีต่อๆ ไปเพิ่มมากขึ้น ซึ่งมีโครงการที่ได้รับยื่นฯ จากผู้ประกอบการ 3,940 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 15,500 ล้านบาท และโครงการที่ผ่านการพิจารณาแล้ว 3,633 โครงการ รวมมูลค่าการรับรองกว่า 12,500 ล้านบาท โดยผลงานวิจัยที่เกิดขึ้นได้สร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจ เฉพาะในปี 2558 และ 2559 ที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาท
...
สำหรับในปี 2559 สวทช. ยังมีบทบาทเกี่ยวกับการตรวจประเมิน และรับรองระบบบริหารการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม หรือ (Research, Technology Development and Innovation Management System: RDIMS) ด้วย ซึ่งผู้ประกอบการที่ผ่านการรับรองระบบ RDIMS และขึ้นทะเบียนเป็นผู้ใช้สิทธิกับ สวทช. สามารถรับรองตนเอง สำหรับโครงการวิจัยฯ ที่มีมูลค่าไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยไม่ต้องขอการรับรองเป็นรายโครงการ แล้วยื่นใช้สิทธิยกเว้นภาษี 300% ในรูปแบบ Self-Declaration ได้อีกช่องทางหนึ่ง นอกจากสร้างความสะดวกของผู้ประกอบการในการใช้สิทธิยกเว้นภาษีแล้ว การนำระบบดังกล่าวไปใช้ในกิจการจะทำให้ผู้ประกอบการมีการบริหารงานวิจัยที่เป็นระบบและเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ในการสร้างองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) เพื่อพัฒนาเป็นสินค้า หรือบริการนวัตกรรม โดยเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนของระบบเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต

"ที่ผ่านมา สวทช. และ วว. ร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินการตรวจประเมินและรับรองระบบ RDIMS เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถใช้สิทธิยกเว้นภาษีในรูปแบบ Self-Declaration และเกิดความมั่นใจว่าผู้ประกอบการจะสามารถดำเนินงานและประยุกต์ใช้ระบบ RDIMS ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการโครงการนำร่องในการตรวจประเมินระบบ RDIMS ให้กับผู้ประกอบการเอกชนอาสาสมัครอีกด้วย ซึ่งผลจากการดำเนินงานได้สร้างความรู้ความเข้าใจให้กับผู้ประกอบการอาสาสมัครได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ ขอแสดงความยินดีกับ เอสซีจี ที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินการตรวจประเมิน และรับรองระบบ RDIMS และได้รับผลการรับรองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถือว่าเป็นบริษัทรายแรกที่สามารถนำข้อกำหนดของระบบไปประยุกต์ใช้ให้เกิดความสอดคล้องกับการดำเนินการวิจัย พัฒนา และนวัตกรรมของตนเองได้ และได้รับสิทธิประโยชน์ตามมาตรการยกเว้นภาษี 300% ด้วยวิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ซึ่งเป็นบริษัทตัวอย่างที่ลงทุนการวิจัยและพัฒนาด้าน วทน. มาใช้ประโยชน์และร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้ยั่งยืนตามนโยบายของรัฐบาล"ดร.ณรงค์ กล่าว
ดร.ลักษมี ปลั่งแสงมาศ ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กล่าวว่า "วว. มีสำนักรับรองระบบคุณภาพ (สรร.) ทำหน้าที่เป็นหน่วยรับรอง (Certification Body; CB) ที่ให้บริการตรวจประเมินและรับรองระบบคุณภาพตามมาตรฐานสากล อาทิ ISO 9001, ISO 14001, OHSAS 18001, GMP, HACCP และ ISO 22000 เป็นต้น ให้กับภาคอุตสาหกรรมมากว่า 15 ปี จึงมีความสามารถ ความชำนาญ และประสบการณ์ด้านงานตรวจประเมินเป็นอย่างดี ดังนั้น การที่ วว. ได้มีโอกาสมาร่วมทำงานกับ สวทช. ครั้งนี้ ทำให้เกิดความเชื่อมั่นได้ว่าจะส่งเสริมและพัฒนาระบบบริหารการวิจัยฯ ให้มีประสิทธิภาพ ยกระดับมาตรฐานการดำเนินการวิจัยและพัฒนา เป็นประโยชน์ต่อองค์กรที่นำระบบนี้ไปประยุกต์ใช้ และเชื่อมโยงในการใช้สิทธิยกเว้นภาษี 300% เป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยให้เกิดการผลักดันด้านการลงทุนงานวิจัยมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้เกิดการกระตุ้นต่อระบบเศรษฐกิจของชาติต่อไป"
ดร.วิไลพร เจตนจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานเทคโนโลยี บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (เอสซีจี) กล่าวว่า "สำนักงานเทคโนโลยี เอสซีจี ให้ความสำคัญ และมุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมสินค้า และบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม (High Value-Added) ตามกลยุทธ์หลักในการดำเนินธุรกิจของเอสซีจี ผ่านการทำ R&D โดยมีระบบบริหารการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม หรือ “Innovation management" ตั้งแต่แนวคิดไปจนถึงการผลิตเชิงพาณิชย์ออกสู่ท้องตลาด ผ่านระบบการดำเนินงานภายในที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทั้งด้านบัญชีและการเงิน รวมถึงการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล ที่เริ่มตั้งแต่การรับพนักงานที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรม และการพัฒนา skill & competency ที่จำเป็น มาโดยตลอด
โอกาสนี้ เอสซีจี รู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นตัวแทนภาคเอกชนรายแรกที่ผ่านการประเมินโครงการการตรวจรับรองระบบ RDIMS ในรูปแบบ self-declaration ตามเกณฑ์ของ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) โดย มองว่าการสนับสนุนจากภาครัฐในครั้งนี้ จะช่วยเอื้อประโยชน์ให้เกิดความคล่องตัว และประสิทธิภาพสูงสุดในการผลักดันนวัตกรรมใหม่ๆ ต่อไป และบริษัทฯ มุ่งหวังว่าจะสามารถเป็นแนวทางให้กับภาคเอกชนรายอื่นๆ เพื่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค และขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจขับเคลื่อนไปข้างหน้าร่วมกันในอนาคต.