ปลัดกระทรวงศึกษาธิการบรูไน ชื่นชมรางวัลเจ้าฟ้ามหาจักรี ช่วยกระตุ้นการพัฒนาครูในประเทศอาเซียน พร้อมสานต่อความร่วมมือด้านการศึกษากับไทยให้มากขึ้น ด้านครูผู้ได้รับการเสนอชื่อให้รับรางวัลในปีนี้ เผย ดีใจจนคิดว่าฝันไป พร้อมมุ่งมั่นพัฒนาการเรียนการให้ดียิ่งขึ้น
เมื่อวันที่ 2 ส.ค. นายกฤษณพงษ์ กีรติกร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และประธานมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี พร้อมด้วยคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา อดีตปลัดกระทรวงศึกษาธิการศึกษาธิการ ได้นำคณะกรรมการและอนุกรรมการมูลนิธิเดินทางไปยังประเทศบรูไน ดารุสซาราม เพื่อพบปะแลกเปลี่ยนกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการบรูไน พร้อมทั้งพบกับครูผู้ที่จะได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้าฯ ประจำปี 2560
ในการพบปะกับ นางโรไมซาห์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการบรูไน และนางนาเดีย ลีเซียวฮุน รองปลัดกระทรวงฯ และเจ้าหน้าที่ระดับสูง นายกฤษพงษ์ กล่าวว่า การมาพบกันครั้งนี้ เพื่อต้องการแจ้งความคืบหน้าเกี่ยวกับกิจกรรมของมูลนิธิ โดยเฉพาะการจัดพิธีพระราชทานรางวัลเจ้าฟ้ามหาจักรี แก่ครูดีเด่นจาก 11 ประเทศอาเซียน และติมอร์เลสเต้ ในวันที่ 11 ต.ค.นี้ ซึ่งจะเชิญปลัดกระทรวงศึกษาธิการบรูไน ไปร่วมงานด้วย นอกจากนี้ ภายหลังจากการพระราชทานรางวัลเมื่อปี 2558 ทางมูลนิธิได้ประสานงานกับชุมชนคนไทยในบรูไน เพื่อช่วยสนับสนุนให้ นางรัตนาวาตี ครูดีเด่นจากบรูไนประจำปี 2558 เดินทางไปศึกษาดูงานด้านการศึกษาพิเศษในประเทศไทย เมื่อเดือนธันวาคม 2559 ซึ่งทำให้เกิดความร่วมมืออื่นๆ ตามมา
...
ด้านปลัดกระทรวงศึกษาธิการ บรูไน กล่าวว่า ขอขอบคุณคณะกรรมการมูลนิธิฯ อย่างมากที่ช่วยกันจัดให้มีรางวัลนี้ขึ้น เพราะมีส่วนช่วยให้เกิดความตื่นตัวในการพัฒนาครูในหมู่ประเทศอาเซียน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการของไทย ได้ย้ำถึงความสำคัญของรางวัลนี้ในการประชุมรัฐมนตรีศึกษาธิการอาเซียนเมื่อเร็วๆนี้ ที่ประเทศอินโดนีเชีย พร้อมทั้งต้องขอขอบคุณ ที่ได้ช่วยประสานงานให้ครูผู้ได้รับพระราชทานรางวัลในปี 2558 ได้มีโอกาสไปศึกษาดูงานในประเทศไทย อีกด้วย
สำหรับประเด็นอื่นๆ ที่ได้มีการหารือร่วมกันได้แก่ การพัฒนาโรงเรียนกีฬาที่ทางบรูไนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก รวมถึงความร่วมมือในการจัดการศึกษาแก่เด็กพิเศษและโรงเรียนสอนศาสนาที่สามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันได้ ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการบรูไน เสนอว่า น่าจะนำไปหารือเพิ่มเติมให้เกิดความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมในคณะกรรมการร่วมด้านการศึกษาระหว่างไทยและบรูไนต่อไป
ขณะที่ นางลิม ซง โงว ครูประจำโรงเรียนมัธยมมัตตับ ดูลี ซึ่งได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้เข้ารับพระราชทานรางวัลในปีนี้ กล่าวว่า ตนเพิ่งได้รับทราบข่าวว่าจะได้รับพระราชทานรางวัลเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา รู้สึกดีใจและปลาบปลื้มใจเป็นอย่างมาก จนถึงวันนี้ ยังรู้สึกเหมือนว่าตัวเองฝันไป แต่ก็ภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่ครูมากว่า 27 ปี และคิดว่า ที่ได้รับการคัดเลือกก็เพราะตนได้ทุ่มเทให้กับการสอนวิชาเคมีในระดับมัธยมปลาย จนเป็นที่รักของนักเรียนทุกรุ่น โดยสามารถทำให้นักเรียนรู้สึกว่า สนุกที่ได้เรียนวิชานี้ ซึ่งผลการเรียนของนักเรียนอยู่ในเกณฑ์ดีเกือบทุกคน
"ในการสอนนักเรียนนั้น แม้นักเรียนจะมีผลการเรียนไม่ดี ดิฉันก็ไม่เคยตำหนิพวกเขาเลย เพราะเห็นว่าพวกเขาได้พยายามอย่างเต็มที่แล้ว ซึ่งการพูดแบบนี้ ทำให้นักเรียนมีความพยายามมากขึ้น และมีผลการเรียนที่ดีขึ้นด้วย และจะนำความภูมิใจที่ได้รับรางวัลมาพัฒนาการเรียนการสอนให้ดียิ่งขึ้นต่อไป" นางซง โงว กล่าว...
สำหรับประวัติของนางลิม ซง โงว ปัจจุบันอายุ 52 ปี จบการศึกษาปริญญาตรีและโท ด้านวิทยาศาสตร์เคมีและคณิตศาสตร์ เริ่มอาชีพครูในโรงเรียนมัธยมศึกษามาแล้ว 4 แห่ง โดยสอนนักเรียนตั้งแต่อายุ 11-18 ปี โดยได้พัฒนาวิธีการสอนที่หลากหลาย โดยการสอนที่เน้นการมีส่วนร่วมของนักเรียน เพื่อสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ ทำให้นักเรียนมีความเข้าใจและมีการเรียนรู้ที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังได้นำวิธีการเหล่านี้ไปถ่ายทอดให้แก่เพื่อนครูทั่วประเทศบรูไน จนได้รับรางวัลครูยอดเยี่ยมประจำปี 2555 ของประเทศบรูไนจากสุลต่านบรูไนอีกด้วย
นอกจากการเดินทางไปพบปะแลกเปลี่ยนกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการและครูผู้ที่จะได้รับพระราชทานรางวัลในประเทศบรูไนแล้ว คณะกรรมการมูลนิธิฯ ได้เดินทางไปทำกิจกรรมในลักษณะเดียวกันที่ประเทศสิงคโปร์มาแล้ว และจะเดินทางไปในอื่นๆ อีก 8 ประเทศภายในปีนี้.