มส. รับรองมติตั้ง “พระราชปริยัติสุนทร” เป็นเจ้าคณะ จ.ฉะเชิงเทรา ชี้กรณีเคยต้องอธิกรณ์ จบไปแล้ว ด้านโฆษกมส. เผย กรรมการมส.อยากเจอ “พงศ์พร” หลังลาประชุมมส. 2 ครั้งติด

เมื่อวันที่ 31 ก.ค.60 ที่อาคารสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ สำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) พุทธมณฑล จ.นครปฐม มีการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อมฺพรมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเป็นประธานการประชุม ทั้งนี้ไม่พบ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.พศ. ในฐานะเลขาธิการมส. เข้าร่วมประชุม ซึ่งถือเป็นการลาประชุมมส.เป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกันแล้ว

ทั้งนี้ในระหว่างการประชุมสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม กรรมการ มส. เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก ได้กราบทูลรายงานต่อสมเด็จพระสังฆราช ถึงมติ มส. เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา ในการแต่งตั้ง พระราชปริยัติสุนทร (อมรภิรักษ์ ปสนฺโน) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวราราม เจ้าคณะอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา เป็นเจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา ว่า เป็นไปตามระเบียบ มส.ทุกประการ จากนั้น มส.จึงได้พิจารณารับรองมติดังกล่าว ต่อมาภายหลังการประชุม พระพรหมเมธี (จำนงค์ ธมฺมจารี) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม กรรมการและโฆษกมส. พร้อมด้วยนายประดับ โพธิกาญจนวัตร ผอ.สำนักงานพุทธมณฑล ในฐานะโฆษก พศ. นายบุญเชิด กิตติธรางกูร ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม ร่วมกันแถลงข่าวผลการประชุมมส.

โดยพระพรหมเมธี กล่าวว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์ รายงานต่อ มส. ซึ่งมีสมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานการประชุม ถึงขั้นตอนการแต่งตั้ง พระราชปริยัติสุนทร ว่ายึดตามหลักเกณฑ์ตามระเบียบ มส. ในการตั้งเจ้าคณะจังหวัด ที่มีระเบียบระบุไว้ว่า 1. เป็นรองเจ้าคณะจังหวัด ไม่ต่ำกว่า 2 ปี หรือ 2. เป็นเจ้าคณะอำเภอในจังหวัดไม่ต่ำกว่า 4 ปี หรือ 3. เป็นพระราชาคณะสามัญ หรือ พระคณาจารย์โทขึ้นไป หรือจบไม่ต่ำกว่าเปรียญธรรม (ป.ธ.) 6 อย่างใดอย่างหนึ่ง และได้ดูจากผลงานการทำงาน โดยเฉพาะด้านการศึกษาบาลีที่มีผลงานเป็นที่โดดเด่นยอมรับในแวดวงการศึกษาคณะสงฆ์ ทั้งยังมีการเสนอเป็นวาระปกติ ไม่ได้นำเสนอเป็นวาระเร่งด่วนตามที่มีข่าวออกไป และทางสมเด็จพระพุฒาจารย์ ยังยืนยันด้วยว่า การแต่งตั้งดังกล่าวไม่มีผลประโยชน์ และไม่มีการวิ่งเต้น

...

ส่วนกรณีที่มีการระบุว่า พระราชปริยัติสุนทร เคยต้องอธิกรณ์ (โทษ) นั้น เรื่องดังกล่าวได้จบลงตั้งแต่ปี 2557 แล้ว โดยผลสอบอธิกรณ์ว่าด้วยการละเมิดจริยาพระสังฆาธิการ พบว่า มีความผิดไม่ร้ายแรงได้ถูกตำหนิโทษเป็นลายลักษณ์อักษร ดังนั้น ทางเจ้าคณะผู้ปกครองตามลำดับชั้น จึงได้เสนอต่อมส. ให้คืนตำแหน่งแก่พระที่ถูกสอบอธิกรณ์ทั้งหมด ส่งผลให้พระราชปริยัติสุนทร พ้นอธิกรณ์ ตามมติการประชุม มส.เมื่อวันที่ 30 ต.ค.2557

ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงกรณีมส.มีความไม่พอใจการทำงานของ พ.ต.ท.พงศ์พร ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร และการประชุมมส.ครั้งนี้ พ.ต.ท.พงศ์พร ยังลาประชุมเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกันแล้วด้วยนั้น พระพรหมเมธี กล่าวว่า ที่ประชุมมส.ได้ปรารภถึงผอ.พศ.ว่า ไม่ได้เจอกัน เพราะ พ.ต.ท.พงศ์พร ติดภารกิจอื่นไม่ได้เข้าประชุม จึงอยากที่จะมีการพูดคุย เพื่อสร้างความเข้าใจต่อปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพราะถือว่า เป็นบุคคลที่นายกรัฐมนตรี ส่งมาสนองงานคณะสงฆ์ในฐานะเลขาธิการมส. จึงอยากคุยกันเพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกัน และได้ฝากให้นายกนก แสนประเสริฐ รองผอ.พศ. นายประดับ โพธิกาญจนวัตร โฆษกพศ. นายบุญเชิด กิตติธรางกูร ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม ให้แจ้งพ.ต.ท.พงศ์พร ด้วยว่า หากมีโอกาสควรจะหาเวลามาหารือกับทางกรรมการมส.ด้วย

ด้านนายประดับ โพธิกาญจนวัตร โฆษก พศ. กล่าวว่า พ.ต.ท.พงศ์พร ได้ลาประชุม โดยระบุว่าติดราชการสำคัญ และมอบให้นายกนก แสนประเสริฐ รองผอ.พศ. เข้าประชุมแทน