เมื่อเวลา 10.50 น. วันที่ 25 ธ.ค. พล.อ.กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรีเป็นผู้แทนพระองค์ บำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ขณะที่ตลอดทั้งวันมีพสกนิกรจากทั่วทุกสารทิศและคณะบุคคล อาทิ สำนักงานผู้บังคับบัญชากองทัพบก สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา บริษัทอาร์เอ็กซ์ จำกัด รวมทั้งประชาชนจาก 4 จังหวัด คือ กระบี่ กาญจนบุรี กาฬสินธุ์ กำแพงเพชร กว่า 3,300 คน ทยอยเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ ซึ่งสำนักพระราชวังเปิดให้ถวายสักการะเบื้องหน้าพระโกศเป็นวันที่ 47 ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย
ที่สำนักช่างสิบหมู่ จ.นครปฐม กรมศิลปากรจัดพิธีรับมอบไม้จันทน์หอมสำหรับนำไปจัดสร้างพระโกศจันทน์และพระหีบจันทน์ในงานพระราชพิธี ถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแปรรูปแล้วเสร็จจากอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จัดขบวนนำมาส่งมอบให้กรมศิลปากรและมอบต่อให้แก่ น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมว.วัฒนธรรม
นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ กล่าวว่า รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ ที่ได้มีโอกาสดูแลรักษาไม้จันทน์หอมอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นพุทธบูชาและเป็นส่วนสำคัญยิ่งในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ไม้จันทน์หอมที่ส่งมอบได้ทำพิธีบวงสรวง ตัด แปรรูป จำนวน 20 ต้น ได้ไม้ท่อนจำนวน 130 ท่อน ไม้แผ่น จำนวน 1,000 แผ่น
ขณะที่ น.ส.ซาบีดากล่าวว่า กรมศิลปากรจัดทำแบบร่างพระโกศจันทน์และพระหีบจันทน์ทูลเกล้าฯ ถวายแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์ที่ปรึกษาฯ และทรงมีพระราชวินิจฉัยเรียบร้อยแล้ว ส่วนประกอบอื่นๆ อยู่ระหว่างการขยายแบบ ในการดำเนินการต้องอาศัยช่างฝีมือหลายประเภท แต่ละขั้นตอนต้องใช้ความละเอียดรอบคอบ ประณีตและพิถีพิถัน คาดว่าการดำเนินการจะแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย.2569 และจะมีการบันทึกองค์ความรู้เกี่ยวกับการจัดสร้างพระโกศจันทน์และพระหีบจันทน์ ขั้นตอนการจัดสร้างโดยละเอียด เพื่อเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของชาติและสืบทอดองค์ความรู้สู่ช่างรุ่นต่อไป
นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เผยถึงรายละเอียดแบบพระโกศจันทน์ว่า เป็นยอดมหามงกุฎบนฐานย่อไม้สิบสอง ประดับลายพุ่มเข้าบิณฑ์ก้านแย่งหงสุ์ลีลา เป็นพระโกศรูปทรงแปดเหลี่ยม ฝายอดมงกุฎทำด้วยไม้จันทน์ ฉลุแกมด้วยการปิดทองคำเปลวและปีกแมลงทับทิมทองบางแห่งของลาย ที่ฝายอดมงกุฎปลายปลียอดประดับพุ่มเข้าบิณฑ์ ที่ชั้นเกี้ยวปักดอกไม้ไหวและดอกไม้ทิศ บนฝาบัวถลามาลัยทองปักดอกไม้ไหวและประดับดอกไม้ทิศห้อยเฟื่องอุบะ 8 เฟื่อง จงกลพระโกศทำเป็นกลีบบัวจงกลลายใบเทศ ประดิษฐานรูปเทพยดา จำหลักด้วยไม้จันทน์แกมทองคำเปลวกลีบเว้นกลีบ พระโกศประดิษฐานบนหีบพระบรมศพย่อมุมไทยสิบสอง ตรงกลางสลักลวดลายอักษรพระนามาภิไธย ส.ก. รอบข้างพระโกศจันทน์ปักพุ่มช่อมยุรฉัตรใหญ่ ซ้าย-ขวา ทั้ง 2 ข้าง ที่หน้ากระดานปากพระหีบประดับดอกไม้ไหว ดอกไม้ทิศ ห้อยอุบะเฟื่องโดยรอบ ที่ผนังพระหีบฉลุไม้จันทน์ลายก้านแย่งออกรูปราชหงสุพ่าห์ ที่ฐานพระหีบตรงบัวปากฐานปักดอกไม้ไหว ที่บัวเชิงบาตรประดับรูปจำหลักฉลุราชหงส์โดยรอบฐาน มีบัวหน้ากระดานล่างเป็นที่สุด จากนี้จะระดมช่างฝีมือที่มีความเชี่ยวชาญทั้งหมดของกรมศิลปากรมาทำงานร่วมกัน ส่วนการออกแบบพระเมรุมาศและอาคารประกอบอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนาแบบก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค. จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนของการคำนวณโครงสร้าง ประเมินราคา เพื่อเสนอของบกลางในเดือน ม.ค. 2569