"ในหลวง-ราชินี" ทรงเสด็จฯ ไปทรงเป็นองค์ประธานร่วมกับ ประธานประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เปิดสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 ที่บึงกาฬ
วันที่ 25 ธันวาคม 2568 เวลา 16.05 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยเครื่องบินพระที่นั่ง ไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 23 จังหวัดอุดรธานี เสด็จพระราชดำเนิน ไปทรงเป็นองค์ประธานร่วมกับ นายทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และนางนาลี สีสุลิด ภริยา ในพิธีเปิดสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - บอลิคำไซ) อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงท่าอากาศยานทหาร กองบิน ๒๓ จังหวัดอุดรธานี นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วยคณะข้าราชการ และประชาชน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ต่อจากนั้น ประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังสนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - บอลิคำไซ)
เวลา 16.53 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินถึงยังสนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว สะพานมิตรภาพไทย - ลาว (บึงกาฬ - บอลิคำไซ) ณ ที่นั้น นายนคร ศิริปริญานันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ พร้อมด้วยคณะข้าราชการ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ จากนั้น เสด็จเข้าห้องประทับรับรอง ทรงลงพระปรมาภิไธย และพระนามาภิไธย ในแผ่นศิลา เสร็จแล้ว ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังพลับพลาพิธีบริเวณกลางสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - บอลิคำไซ)
เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินถึง พลับพลาพิธีบริเวณกลางสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - บอลิคำไซ) พร้อมกับนายทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และนางนาลี สีสุลิด ภริยา ซึ่งเดินมาจากฝั่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ณ ที่นั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายปิยพงษ์ จิวัฒนกุลไพศาล อธิบดีกรมทางหลวง พร้อมด้วยคณะข้าราชการ และประชาชน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ
ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงพระราชปฏิสันถารกับนายทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และนางนาลี สีสุลิด ภริยา จากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว กราบบังคมทูลรายงาน เสร็จแล้ว พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทย กราบบังคมทูลรายงานวัตถุประสงค์ของการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - บอลิคำไซ) พร้อมทั้งกราบบังคมทูลเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - บอลิคำไซ) พร้อมด้วยนายทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และนางนาลี สีสุลิด ภริยา
ต่อจากนั้น ทรงพระดำเนินไปยังแท่นพิธี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้ายสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - บอลิคำไซ) พร้อมกับนายทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ขณะนั้น พระสงฆ์ทั้ง 2 ประเทศเจริญชัยมงคลคาถาพร้อมกัน จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรนิทรรศการความเป็นมาและวัตถุประสงค์การก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - บอลิคำไซ) เสร็จแล้ว ทรงพระดำเนินไปยังบริเวณหน้าป้ายที่ระลึกการเปิดใช้สะพานและป้ายแสดงกรรมสิทธิ์ พร้อมด้วยนายทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และนางนาลี สีสุลิด ภริยา
ในโอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ฉายพระบรมฉายาลักษณ์ ร่วมกับนายทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และนางนาลี สีสุลิด ภริยา พร้อมด้วยข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของทั้งสองประเทศ ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ
สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงพระราชปฏิสันถารกับนายทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และนางนาลี สีสุลิด ภริยา ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับไปยังสนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - บอลิคำไซ) ฝั่งไทย
ทั้งนี้ มีราษฎรในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬและจังหวัดใกล้เคียงจำนวนมาก มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ด้วยความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงสนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - บอลิคำไซ) ฝั่งไทย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายกรัฐมนตรี กับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายหนังสือที่ระลึกสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - บอลิคำไซ) แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ต่อจากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ปลัดกระทรวงคมนาคม และอธิบดีกรมทางหลวง เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายตราไปรษณียากรที่ระลึกสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - บอลิคำไซ) แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี
จากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายสุรพล เจริญภูมิ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายผ้าไหมทอมือย้อมสีธรรมชาติ “สิริบึงกาฬราชพัสตรา” ของที่ระลึกจังหวัดบึงกาฬแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และนางจิรภา เจริญภูมิ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดบึงกาฬ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายผ้าไหมทอมือย้อมสีธรรมชาติ “ขวัญมิ่งสองฝั่งโขง” ของที่ระลึกจังหวัดบึงกาฬแด่สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสร็จแล้ว ประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 23 จังหวัดอุดรธานี เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพมหานคร
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงมุ่งมั่นในการสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ด้วยพระราชหฤทัยอันแน่วแน่ในการยกระดับคุณภาพชีวิตของราษฎรให้ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งทรงธำรงไว้ซึ่งสายสัมพันธ์อันงดงามกับนานาประเทศ ซึ่งรวมถึงสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มิตรประเทศเพื่อนบ้านที่มีสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นบนพื้นฐานของมิตรภาพความเข้าใจอันดี และมีวัฒนธรรมประเพณีที่สืบทอดมาร่วมกัน
โดยในปี 2568 ทั้งสองประเทศได้ร่วมกันเฉลิมฉลองวาระครบ 75 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน ด้วยพระราชวิสัยทัศน์อันกว้างไกล ทรงให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อมโยง ระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยเฉพาะโครงการสะพานมิตรภาพ ซึ่งไม่เพียงเป็นเส้นทางคมนาคม หากยังเป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพอันมั่นคงและความร่วมมืออันแนบแน่นของทั้งสองประเทศ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นองค์ประธานร่วมกับนายหนูฮัก พูมสะหวัน ประธานประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในพิธีเปิดสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 1 (หนองคาย - เวียงจันทน์) เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2537 พระราชกรณียกิจในด้านนี้ได้ส่งผลเป็นรูปธรรมต่อการเสริมสร้างศักยภาพของเศรษฐกิจชายแดน การเดินทางของประชาชนทั้งสองประเทศ และการพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงให้เจริญเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน
การจัดสร้างสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - บอลิคำไซ) เชื่อมต่อทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 222 อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ กับถนนสาย 13 เมืองปากซัน แขวงบอลิคำไซ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีรูปแบบการก่อสร้างตัวสะพานเป็นรูปแบบคานขึง สร้างด้วยคอนกรีตอัดแรงรูปกล่อง มีขนาด 2 ช่องจราจร ความยาวรวม 1,350 เมตร มีเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นคือการนำรูปทรงของ “แคน” ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีพื้นบ้านลุ่มน้ำโขง มาออกแบบเป็นเสาหลักของสะพาน เพื่อสื่อถึงวัฒนธรรมประเพณีที่สืบทอดมาร่วมกันและความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของสองประเทศ โดยการเปิดสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งนี้ สะท้อนให้เห็นอย่างเด่นชัดถึงความสัมพันธ์ฉันมิตรอันใกล้ชิดที่มีมายาวนาน บนพื้นฐานของความเคารพยกย่องและความมุ่งมั่นตั้งใจร่วมกันในการสร้างสรรค์ประโยชน์แก่ประเทศและประชาชนทั้งสองฝ่าย ผ่านการพัฒนาความร่วมมือและความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ในกิจการด้านต่าง ๆ ทั้งในระดับทวิภาคีและกรอบอาเซียนมาอย่างเข้มแข็ง ซึ่งสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งนี้จะเป็นฟันเฟืองสำคัญของยุทธศาสตร์การเชื่อมโยงโลจิสติกส์ระดับภูมิภาคที่สนับสนุนการคมนาคมขนส่งระหว่างประเทศไทย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และสาธารณรัฐประชาชนจีน ให้มีความคล่องตัว ปลอดภัย และประหยัดต้นทุน อีกทั้งยังเสริมสร้างศักยภาพของเศรษฐกิจชายแดน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย และเปิดโอกาสทางการค้าการลงทุนภายใต้กรอบความร่วมมือในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี - เจ้าพระยา - แม่โขง ให้เจริญก้าวหน้าต่อไป
