SIRIVANNAVARI x BEAUTY GEMS ร่วมกันถ่ายทอดคอลเลกชันจิวเวลรีชั้นสูงแห่งปี 2025 “TREASURE OF DREAMS” ผลงานล้ำค่าดุจความฝันรวม 88 ชิ้น รังสรรค์จากพระอัจฉริยภาพการออกแบบของ “สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา”
อีกครั้งกับการสร้างสรรค์ผลงานร่วมกันระหว่างแบรนด์ “SIRIVANNAVARI” และ “BEAUTY GEMS” เพื่อถ่ายทอดคอลเลกชันจิวเวลรีชั้นสูงแห่งปี 2025 “TREASURE OF DREAMS” ผลงานล้ำค่าดุจความฝันรวม 88 ชิ้น รังสรรค์จากพระอัจฉริยภาพการออกแบบของ “สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา” นอกจากจะได้ประจักษ์ถึงพระอัจฉริยภาพในด้านงานออกแบบจิวเวลรีอันล้ำค่าและทันสมัยขององค์ดีไซเนอร์ การรังสรรค์ผลงานครั้งนี้ยังช่วยพัฒนาและยกระดับฝีมือช่างจิวเวลรีไทยสู่สากลอย่างน่าภาคภูมิใจ
“ตลอดกระบวนการทำงานของคอลเลกชันนี้เป็นเหมือนการเปิดดูสมุดบันทึกงานออกแบบ หรือไม่ก็แฟ้มงานที่เคยทำไว้ เพื่อนำทุกความล้ำค่าของงานฝีมือ แรงบันดาลใจ มาร้อยเรียงเป็นเรื่องราวบทใหม่ ด้วยภาษาแห่งเครื่องประดับรัตนศิลป์และศาสตร์เครื่องประดับชั้นสูง ถ่ายทอดความอ่อนหวานและอ่อนโยนของเฉดสีในโทนพาสเทล ลงสู่งานออกแบบตัวเรือนที่ช่วยทวีความงดงามในคุณลักษณะโดดเด่นเฉพาะตัวของทั้งอัญมณีและรัตนชาติเลอค่า จากสีฟ้าต่างระดับความโปร่งใสระหว่างอะความารีนกับเทอร์คอยซ์ ไปจนถึงหลากสีละลานตาของไพลิน ท่ามกลางประกายสุกสกาวของเพชรน้ำล้อแสงร่วมกับมอร์แกไนต์ และไข่มุกอาโกยะ ขณะเดียวกันก็มีสีแดงสดของทับทิมกับสีเขียวกระจ่างของมรกตเป็นลูกเล่นคั่นอารมณ์”...“สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา” ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แบรนด์ “SIRIVANNAVARI” ตรัสถึงขั้นตอนการสรรค์สร้างคอลเลกชันเครื่องประดับชั้นสูงในครั้งนี้
งานนี้ถือเป็นการรวมที่สุดแห่งช่างศิลป์งานฝีมือทุกแขนงของ “BEAUTY GEMS” ระดมกันนำทักษะเหนือชั้นเฉพาะด้านเพื่อรังสรรค์สุดยอดผลงานให้ตราตรึง จากอเตอลิเยร์ของ “SIRIVANNAVARI” มาสู่สายตาเฉียบคมเปี่ยมประสบการณ์ของนักอัญมณีวิทยา ที่ร่วมกันตรวจคัด เฟ้นหาอัญมณี และรัตนชาติคุณภาพสูง เช่นเดียวกับความเหนือชั้นเชิงทักษะของศาสตร์เครื่องประดับชั้นสูง ที่อยู่เบื้องหลังการรังสรรค์ความอ่อนช้อยงดงามในทุกจังหวะการเคลื่อนไหวตามวงจรธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น พรรณพฤกษา หรือสัตว์น้อยใหญ่ ก่อเกิดเป็นผลงานเลอค่า ด้วยลูกเล่นการจัดสัดส่วนทั้งแบบสมมาตรและอสมมาตร สะท้อนความจริงตามธรรมชาติ
“ทุกขั้นตอนตลอดกระบวนการหัตถศิลป์ คือกลไกขับเคลื่อนสำคัญ นำมาซึ่งความโดดเด่นเป็นหนึ่งให้แก่เครื่องประดับชั้นสูงทุกชิ้น แต่ละชิ้นล้วนแสดงถึงการสืบสาน และยกระดับทักษะของบรรดาเทคนิคเก่าแก่ดั้งเดิม ควบคู่ไปกับการนำนวัตกรรมล้ำสมัยมาประยุกต์ ไม่ว่าจะเป็น งานหล่อแบบ 3D, การขึ้นตัวเรือนโลหะ, งานเจียระไน และฝังรัตนชาติขึ้นตัวเรือน การทำงานเช่นนี้ทำให้เราสามารถพัฒนาผลงานอันมีความสดใหม่ ทันสมัย และร่วมสมัยได้อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา การนำเทคนิคดั้งเดิมมาใช้ เพื่อเป็นการสืบสาน อนุรักษ์ความล้ำค่าทางหัตถศิลป์ชั้นสูงในงานเครื่องประดับไทย ความกล้าในการใช้ความคิดสร้างสรรค์ ได้ท้าทายเชิงเทคนิคได้อย่างน่าตื่นตา อย่างงานแกะสลัก, งานเจียระไน และขัดผิวกลึงลูกปัด, งานประกอบชิ้นส่วน ตลอดจนทักษะแขนงอื่นๆ ทำให้เราสามารถสร้างสรรค์รูปลักษณ์ที่มีความสมจริงตามธรรมชาติ ตามแนวคิดทรงออกแบบของเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯได้อย่างสมบูรณ์แบบ”...“สุริยน ศรีอรทัยกุล” แห่งบิวตี้เจมส์ บอกเล่าถึงเบื้องหลังการรังสรรค์ครั้งสำคัญ
จากไพลินสีเหลืองสุกสกาวกลางพราวเพชร สู่สีเขียวต่างโทนระหว่างมรกตกับพลอยแพริดอต ตลอดจนประกายเจิดจรัสตัดเฉดระหว่างหินไข่นกการเวกฟ้าสด กับส้มแซลมอนของมอร์แกไนต์ แต่ละงานออกแบบ ล้วนแสดงให้เห็นถึงความเกี่ยวพันระหว่างงานฝีมือต่างสาขา อันสะท้อนซึ่งการเชื่อมโยงของแรงบันดาลใจในงานศิลปะต่างแขนง โดยมีลูกเล่นเฉียบคมขององค์นักออกแบบในการเรียงร้อยทุกความแตกต่างและขัดแย้ง ให้ผสมผสานกันอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็น เหลี่ยมมุมเจียระไนกับความกลมกลึงของลูกปัด, ความกระจ่างใสของเพชร หรือพลอย กับเนื้อสีทึบแสงของไข่มุก หรือโปร่งแสงในงานประดับพลอยสลัก ตลอดจนถึงโครงสร้างเปิดโปร่งของลายเส้นอ่อนช้อยสุดซับซ้อน กับน้ำหนักสีละมุนตาดุจกำมะหยี่ อันเป็นผลจากศิลปะฝังอัญมณีชิดขอบกลบโลหะตัวเรือน หรือ “การฝังแบบไร้หนาม” (invisible setting)
ผลงานส่วนหนึ่งใน “Treasure of Dreams” คือการนำมรดกงานออกแบบจากคอลเลกชันก่อนมารังสรรค์ใหม่ โดยยังคงเอกลักษณ์, คุณค่า และความหมายแต่แรกเริ่มไว้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น “เข็มกลัดกุหลาบควีนสิริกิติ์” อันเป็นอนุสรณ์ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแห่ง “สมเด็จพระอัยยิกา” สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง, “สร้อยข้อมือเพชร” สื่อถึงของขวัญพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว อันเป็นตัวแทนความรักและการส่งผ่านความปรารถนาดี ขณะที่ดอกไม้พื้นบ้านอย่าง “ดอกลำดวน” และ “สัตว์น้อยใหญ่ในสวนของเจ้าหญิง” อาทิ นกยูง, ช้าง, นกฮูก ก็ยังคงปรากฏให้เห็น
ผลงานการออกแบบใหม่นำมาซึ่งความตื่นตาตื่นใจรวมถึง “เข็มกลัดนกแอบรัก” ถ่ายทอดความอ่อนหวานของลูกเล่นเฉดสีตามแนวทางศิลปะอิมเพรสชันนิสต์ จากภาพวาดฝีพระหัตถ์ในชื่อเดียวกันขององค์นักออกแบบ นอกจากนี้ยังมีเซ็ตสร้อยคอและต่างหูประดับโมราฑิฆัมพร (Blue Lace Agate) กับโอปอลสีชมพู “Symphony of Poetry Multicolor” และสร้อยคอมรกตทรงหยดน้ำหลังเบี้ยประดับแพริดอต “Melody of Eden” มาพร้อมต่างหูเข้าเซ็ต บรรดาสัญลักษณ์ประจำแบรนด์ เช่น อักษรย่อพระนามาภิไธย “S Signature” ตลอดจนเกือกม้า และตะขอปากม้า ก็มาปรากฏพร้อมรูปหัวใจ ขาดไม่ได้คือการถ่ายทอดความงดงามตระการตาน่าอัศจรรย์จากมวลธรรมชาติ ทั้งดอกไม้ และสัตว์น้อยใหญ่ในต่างอากัปกิริยา ด้วยโครงสร้างเปิดโปร่งลดน้ำหนักตัวเรือน กับศิลปะประกอบชิ้นส่วนทั้งแบบสมมาตร และอสมมาตร สะท้อนความล้ำค่าของไหวพริบในการพลิกแพลงความชำนาญแขนงต่างๆในศิลปศาสตร์อัญมณีได้อย่างแยบคาย.
