สมาชิก
ทรงบำรุงขวัญทหารชายแดน ปีติพระเทพฯ พระราชทานพระให้ แม่ทัพภาค 2 แจกทหารทุกนาย

ทรงบำรุงขวัญทหารชายแดน ปีติพระเทพฯ พระราชทานพระให้ แม่ทัพภาค 2 แจกทหารทุกนาย

-ก+

แชร์ข่าว

“กรมสมเด็จพระเทพฯ” ทรงห่วงใยทหารชายแดนไทย-กัมพูชา พระราชทานพระเครื่องให้แม่ทัพภาคที่ 2 นำไปแจกจ่ายทหารทุกคน ด้านกองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์ทหารกัมพูชาตั้งใจลาดตระเวนล้ำเข้ามาในเขตไทยจนพบกับทหารไทย พูดจายั่วยุให้มีการโต้เถียง เพื่อถ่ายคลิปวิดีโอ ชี้เป็นแผนทำไอโอเผยแพร่ให้คนในชาติตัวเองดู ยันฝ่ายไทยรับรู้ถึงพฤติกรรมทหารอีกฝ่ายดี พร้อมรับมือควบคู่ไปกับการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของไทยอย่างเต็มกำลังและไม่ประมาท ขณะที่ ศบ.ทก.ย้ำไทยพร้อมเสมอที่จะเจรจากับกัมพูชาในทุกกรอบการเจรจาระดับทวิภาคี ด้วยความจริงใจ ยึดหลักการความเคารพซึ่งกันและกัน

จากกรณีปมพิพาทพื้นที่ชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาที่ยืดเยื้อมานาน จนนำไปสู่มาตรการกำหนดเวลาเปิดปิดด่านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ใน 7 จังหวัด เพื่อความปลอดภัยของประชาชน มาครบ 1 เดือน ท่ามกลางความตึงเครียดที่ยังมีอยู่ต่อเนื่อง

ต่อมาเมื่อวันที่ 5 ก.ค. พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังโครงการทหารพันธุ์ดี กรมการทหารช่าง ค่ายบุรฉัตร อำเภอเมืองฯ จ.ราชบุรี เพื่อทอดพระเนตรการดำเนินงานของโครงการฯ ที่ส่งเสริมการพัฒนาทางการเกษตรอย่างยั่งยืนแก่กำลังพลและประชาชนในพื้นที่ ในห้วงหนึ่งของการเสด็จพระราชดำเนิน พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมด้วยแม่ทัพภาคที่ 1 แม่ทัพภาคที่ 2 แม่ทัพภาคที่ 3 และแม่ทัพภาคที่ 4 โดยมี พล.ท.สิรภพ ศุภวานิช เจ้ากรมการทหารช่าง และกำลังพลเหล่าทหารช่าง ร้องเพลงถวายกำลังพระราชหฤทัยร่วมกับดุริยางค์ทหารบก ในบทเพลงดวงใจ และสุขสันต์ดั่งเอราวัณ แด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรม สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงอุทิศพระวรกาย ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อราษฎรเสมอมา เสียงขับร้องครั้งนี้เป็นดั่งสื่อแทนดวงใจของเหล่าทหารหาญ ที่พร้อมเคียงข้างใต้เบื้องพระยุคลบาทเพื่อถวายพระกำลังใจแด่พระองค์ผู้ทรงอุทิศพระวรกายเพื่อประโยชน์สุขแห่งปวงชนชาวไทย

พล.ท.บุญสินกล่าวอีกว่า หลังจากนั้นสมเด็จ พระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีความห่วงใยและได้พระราชทานพระเครื่องให้กับตน เพื่อนำไปให้ทหารปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา รับสั่งให้นำไปแจกจ่ายทหารให้ครบทุกคน

ส่วนกรณีมีรายงานว่า จากเหตุการณ์ปะทะคารมระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชาบริเวณชายแดน โดยทางฝ่ายกัมพูชานำคลิปไปเผยแพร่ในโซเชียลต่อเนื่อง นับตั้งแต่เหตุการณ์การโต้เถียงระหว่างเจ้าหน้าที่ไทย-กัมพูชา ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม วันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา เรื่องการแจ้งเตือนนักท่องเที่ยว โดยทหารกัมพูชาชี้หน้าทหารไทย รวมถึงกรณีชุดลาดตระเวนของกองร้อยทหารพรานที่ 2304 ได้ตรวจพบความเคลื่อนไหวของกำลังทหารกัมพูชา บริเวณจุดชมวิว “ภูผี” ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ตามแนวชายแดน ใกล้บริเวณปราสาทโดนตวลและเขาพระวิหาร เมื่อวันที่ 4 ก.ค.โดยต่างฝ่ายต่างกล่าวหาว่าอีกฝ่ายล้ำแดน มีการระบุจะใช้กำลังกัน โดยบางช่วงของคลิปวิดีโอที่มีการเผยแพร่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เห็นว่าทหารกัมพูชารายหนึ่งถือเครื่องยิงจรวด RPG แสดงท่าทีข่มขู่ใส่ทหารไทยด้วย

ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 2 ประเมินว่าทหารกัมพูชา ตั้งใจออกลาดตระเวนเดินล้ำเข้ามาในเขตประเทศไทย จนพบกับทหารไทยที่ออกลาดตระเวนอยู่บ่อยครั้ง เพื่อถ่ายคลิปวิดีโอ และทุกครั้งเป็นคลิปวิดีโอที่มาจากฝั่งประเทศกัมพูชาทั้งหมด หากสังเกตภายในคลิปจะเห็นทหารกัมพูชาจำนวน 3-4 คน ทำหน้าที่ยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายคลิปรอบด้านเก็บภาพทุกมุม และให้ทหารกัมพูชาที่อยู่ด้านหน้า 4-5 คน พูดจายั่วยุ ให้ทหารไทยพูดและมีการโต้เถียงกัน ทำให้ดูเหมือนว่าทหารกัมพูชา มีความฮึกเหิม จากการข่มทหารไทยได้ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวทางทหารกัมพูชาได้บันทึกคลิป เพื่อนำไปทำไอโอเผยแพร่ให้ประชาชนกัมพูชาได้เห็นว่ากำลังทหารของตัวเองสามารถข่มทหารไทยได้ อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมของทหารกัมพูชา ทหารไทยรับรู้กันดี เป็นกลยุทธ์ของฝ่ายกัมพูชา และพร้อมรับมือควบคู่ไปกับการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของไทย อย่างเต็มกำลังความสามารถและไม่ประมาท

วันเดียวกัน เพจเฟซบุ๊กศูนย์เฉพาะกิจชายแดนไทย-กัมพูชาฯ (ศบ.ทก.) โพสต์ยืนยันถึงคำแถลงของนางมาระตี นะลิตา อันดาโม โฆษก ศบ.ทก.ด้านต่างประเทศ ที่แถลงผลการประชุม ศบ.ทก.เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา ยืนยันว่าฝ่ายไทยพร้อมเสมอที่จะเจรจากับฝ่ายกัมพูชา ในทุกกรอบการเจรจาระดับทวิภาคี ด้วยความจริงใจ ยึดหลักการความเคารพซึ่งกันและกัน เป็นเพื่อนบ้านที่ดี และที่เป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ ส่วนการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาตินั้น ย้ำว่าฝ่ายไทยยังคงดำเนินการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะปัญหาการหลอกลวงทางออนไลน์ ที่เป็นปัญหาระดับภูมิภาค สร้างความเสียหายต่อประชาชนของทุกประเทศในภูมิภาค

สำหรับบรรยากาศที่ปราสาทตาเมือนธม บ.หนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ตลอดวันที่ 5 ก.ค. ซึ่งเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์วันเสาร์ ปรากฏว่าตั้งแต่ช่วงเช้ามีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางมามอบสิ่งของให้กำลังใจทหารกันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะในช่วงสายๆ และตลอดทั้งวัน พร้อมกับเที่ยวชมตัวปราสาทอย่างเนืองแน่นหนาตากว่าวันธรรมดา ประกอบกับ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เชิญชวนคนไทยมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ยิ่งทำให้เกิดกระแสรักชาติฟีเวอร์ ประชาชนยิ่งแห่มาเที่ยวกันจำนวนมาก ทั้งจากหลายจังหวัดทั่วประเทศ ทั้งนั่งรถทัวร์มาเป็นหมู่คณะ จาก จ.หนองคาย และ จ.อุดรธานี บางส่วน และหลายคนที่มาด้วยรถยนต์ส่วนตัว จาก จ.ร้อยเอ็ด จันทบุรีและตราด เป็นต้น ไม่ต่างจากปราสาทตาเมือนโต๊ดและปราสาทตาควาย ท่ามกลางการดูแล ความปลอดภัยอย่างใกล้ชิดของทหารไทย

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อช่วงบ่าย ที่ปราสาทตาควาย ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เกิดเหตุการณ์ปะทะคารมกันระหว่างนักท่องเที่ยวชายชาวกัมพูชากับทหารไทย จากนั้นนักท่องเที่ยวไทยชายรายหนึ่งยืนฟังและทนดูพฤติกรรมของชาวกัมพูชาที่พูดออกอาการในเชิงว่าปราสาทตาควายเป็นของกัมพูชา จึงออกอาการไม่พอใจ ชี้หน้าก่อนจะเดินปรี่เข้าไปหาหวังประชิดตัว เพื่อมีเรื่องกับชาวกัมพูชา แต่ถูกทหารไทยเข้าห้ามไว้ เบื้องต้นสาเหตุเกิดจากผู้หญิงชาวกัมพูชารายหนึ่ง คล้องผ้าขาวม้าเขมร ซึ่งมีรูปธงชาติกัมพูชา ซึ่งทหารไทยได้เตือนว่าห้ามนำสัญลักษณ์ที่มีรูปธงชาติเข้ามาในพื้นที่ปราสาทตาควายตามข้อตกลงที่ห้ามแสดงกิจกรรมในเชิงสัญลักษณ์ ทำให้ชาวกัมพูชาไม่พอใจและเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ก่อนที่แต่ละฝ่ายจะแยกย้ายกันไป โดยไม่มีเหตุการณ์บานปลายแต่อย่างใด แต่พบว่ามีชาวกัมพูชาได้ถ่ายคลิปขณะเกิดเหตุและโพสต์บนโลกโซเชียลและมีชาวกัมพูชาแชร์เป็นจำนวนมาก ไม่ต่างจากคนไทยที่มีการถ่ายคลิปและแชร์ภาพอีกมุมกันเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน

ส่วนที่ จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานที่ 1201 (ร้อย ทพ.1201) หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 12 (ชค.ทพ.12) กองกำลังบูรพา จับกุมวัยรุ่นชายขณะพยายามปีนหลังคาตลาดหลังคาฟ้า บริเวณตลาดโรงเกลือ บ้านคลองลึก ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดล่อแหลมที่อยู่ติดแนวชายแดน เมื่อนำตัวมาสอบสวน ทราบชื่อ นายรัตนกร ฝึกจันทร์ อายุ 21 ปี ที่ยอมรับว่าเดินทางไปทำงานเป็นพนักงานให้กับเว็บไซต์พนันออนไลน์ในฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา แต่ไม่สามารถเดินทางกลับเข้าประเทศไทยได้ตามช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมือง เนื่องจากหนังสือผ่านแดน (Border Pass) ที่ใช้ข้ามแดนหมดอายุไปตั้งแต่มกราคม 2568 และไม่ได้เข้ารายงานตัวเพื่อคัดเลือกทหารกองประจำการ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นความผิดฐาน  “หลบหนีการเกณฑ์ทหาร” ส่งผลให้ไม่สามารถใช้ช่องทางปกติในการเดินทางกลับได้ เนื่องจากเกรงว่าจะถูกเจ้าหน้าที่ตรวจพบและจับกุมตามหมายเรียกหรือหมายจับที่อาจมีอยู่แล้ว จึงจ้างชาวกัมพูชาเป็นผู้นำทาง ลักลอบผ่านช่องทางธรรมชาติ โดยใช้เส้นทางผ่าน “ตลาดหลังคาฟ้า” และใช้วิธีปีนหลังคาตลาดตามคำแนะนำของผู้นำทาง เพื่อหลีกเลี่ยงด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ฝั่งไทย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก เพื่อดำเนินคดีต่อไป

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่