ในหลวง-พระราชินี เสด็จฯไปในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระสิริโฉมในฉลองพระองค์ชุดไทยบรมพิมานสีม่วง สีประจำวันพระราชสมภพ นายกฯ-คู่สมรสเป็นประธานพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล พร้อมลงนามถวาย พระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนม พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 จากนั้นนายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี หน่วยงานภาครัฐ-เอกชน ประชาชน พร้อมใจลงนามถวายพระพร “พระราชินี” เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิ.ย.2568 ขณะที่ 3 เหล่าทัพยิงสลุตหลวงเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี
พสกนิกรไทยทั่วแผ่นดินสุดปลื้มปีติยินดี หลั่งไหลถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 เมื่อเวลา 17.37 น. วันที่ 3 มิ.ย.พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง ไปในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง โดยในวันนี้สมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระสิริโฉมยิ่ง ฉลองพระองค์ชุดไทยบรมพิมานผ้าไหมไทยสีม่วง สีประจำวันพระราชสมภพ พระพักตร์อิ่มเอิบยิ้มแย้มตลอดทางเสด็จพระราชดำเนินไปยังพระอุโบสถฯ พสกนิกรจำนวนมากที่เฝ้ามารับเสด็จฯ ต่างเปล่งเสียงทรงพระเจริญและเปล่งเสียงถวายพระพรเสียงดังกึกก้องตลอดเส้นทาง
เมื่อเสด็จฯ ถึงชานหน้าพระอุโบสถวัดพระศรี รัตนศาสดาราม บรรพชิตจีนและญวนถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จากนั้นเสด็จเข้าพระอุโบสถ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรง พระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯทรงจุดเทียนพระมหามงคล 1 คู่ ที่ตั้งอยู่บนธรรมาสน์ศิลา เทียนเท่าพระองค์ในตู้ข้างธรรมาสน์ศิลา ด้านพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และด้านพระพุทธเลิศหล้านภาไลย
เสร็จแล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงวางกระทงดอกไม้บนพานหน้าฐานชุกชี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่ง แล้วทรงจุดเทียนห่วงบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกและพระพุทธเลิศหล้านภาไลย แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองใหญ่ที่หน้าธรรมาสน์ศิลา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองทิศที่หน้าธรรมาสน์ศิลา เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯไปทรงจุดเทียนที่โต๊ะหน้าอาสน์สงฆ์ พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์นวัคคหายุสมธัมม์ ทรงจุดเทียนที่บัตรเทวดานพเคราะห์บนแท่นและพระราชทานเงินแก่ข้าราชการผู้ทำหน้าที่โหรหลวงบูชาเทวดานพเคราะห์ จากนั้นเสด็จออกจากพระอุโบสถ ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จฯไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย
เมื่อเสด็จฯถึงพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรด เกล้าฯ ให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ไปทรงจุดเทียนพระมหามงคล ที่พระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร เทียนเท่าพระองค์ในตู้ข้างพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรและทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธรูป เทวรูปนพเคราะห์ที่โต๊ะหมู่ ด้านพระราชอาสน์ จากนั้นสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯไปทรงจุดเทียนพระมหามงคลที่พระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร เทียนเท่าพระองค์ในตู้ข้างพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร และธูปเทียนบูชาพระพุทธรูป แล้วทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธรูป เทวรูปนพเคราะห์ที่โต๊ะหมู่ ด้านพระบรมวงศ์
เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพานทองสองชั้นบูชาพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ 9 และพระพุทธรูปประจำพระชนมวารของสมเด็จพระนาง เจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง ที่หน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร จากนั้น สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองทิศ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆ ปริณายก ถวายศีล พระสงฆ์ 48 รูป เจริญพระพุทธมนต์การพระราชพิธี เฉลิมพระชนมพรรษา เมื่อพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ถึงบทเสกน้ำพระพุทธมนต์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงจุดเทียนที่ฝาพระครอบพระกริ่งอุบาเก็ง ทรงประเคนพระครอบพระกริ่งอุบาเก็งแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์
จบแล้ว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯไปทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะเจ้าคณะรอง และพระราชาคณะ จนครบ 48 รูป เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา จากนั้น เสด็จฯไปทรงกราบที่เครื่องนมัสการหน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท แล้วเสด็จออกจากพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จ พระราชดำเนินกลับ
ที่ท้องสนามหลวง เช้าวันเดียวกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์และพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 มีคณะองคมนตรีและภริยา ประธานศาลฎีกา ประธานวุฒิสภา ผู้แทน ประธานรัฐสภา ประธานศาลปกครองสูงสุด ประธานกรรมการการเลือกตั้ง ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญ หน่วยราชการในพระองค์ คณะรัฐมนตรี (ครม.) พร้อมคู่สมรส ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผบ.ตร. หัวหน้าส่วนราชการ ระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า ปลัด กทม.ร่วมพิธี โดยนายกฯและคู่สมรสร่วมถวายผ้าไตรและเครื่องไทยธรรม แด่พระสงฆ์ 10 รูป พร้อมนำผู้เข้าร่วมพิธีร่วมตักบาตรพระสงฆ์ 148 รูป เมื่อเสร็จพิธี นายกฯและคู่สมรสเดินทางไปลงนามถวายพระพร ชัยมงคลสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ณ ห้องแดง อาคารหน่วยราชการในพระองค์ 904 ในพระบรม มหาราชวัง
ส่วนช่วงเที่ยง กองทัพบก กองทัพเรือและกองทัพอากาศ ยิงสลุตหลวง 21 นัด เฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 โดยกองทัพบกยิ่งสลุต ณ ท้องสนามหลวง กองทัพเรือ โดยกองพันทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ กรมทหารราบที่ 1 กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ยิงสลุตหลวง 21 นัด เฉลิมพระเกียรติฯ ณ ป้อมวิไชยประสิทธิ์ พระราชวังเดิม เขตบางกอก ใหญ่ กรุงเทพฯ ด้านกองทัพอากาศ กรมทหารต่อสู้อากาศยานรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน ยิงสลุตหลวงเฉลิมพระเกียรติ 21 นัด เฉลิมพระเกียรติฯ ณ อุทยานการบินกองทัพอากาศ
ด้านพระบรมมหาราชวัง สำนักพระราชวัง เปิดให้สมาชิกราชสกุล องคมนตรี คณะทูตานุทูต ผู้นำศาสนา นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และคู่สมรส องค์กรอิสระ ผู้นำเหล่าทัพ บุคคลสำคัญ หน่วยงานภาครัฐ-ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป นำแจกันดอกไม้มาทูลเกล้าฯ ถวายเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 พร้อมลงนามถวายพระพร ให้ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ที่อาคารหน่วยราชการในพระองค์ 904 ศาลาสหทัยสมาคม และสนามหญ้าข้างศาลาลูกขุนในพระบรม มหาราชวัง ตั้งแต่เวลา 08.00-12.00 น.
ขณะเดียวกัน มีประชาชนในพื้นที่กรุงเทพ มหานคร ปริมณฑล และต่างจังหวัด ต่างหลั่งไหลเดินทางนำแจกันดอกไม้และตะกร้าสิ่งของมาถวาย อาทิ ผลไม้ ขนมต่างๆ ฯลฯ มาร่วมลงนามถวาย พระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน
ค่ำวันเดียวกัน ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพร ชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 โดยมีผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ภาคเอกชนและภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง นายกฯกล่าวกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคลและกล่าวนำถวายพระพรชัยมงคลหน้าพระฉายาลักษณ์ สรุปความว่า พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ทั้งที่ได้มาพร้อมกันอยู่ ณ บริเวณมณฑลพิธีแห่งนี้และที่อยู่ในสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ตลอดจนทั่วโลก มีความปลาบปลื้มปีติเป็นล้นพ้น ที่ได้มาร่วมแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณโดยพร้อมเพรียงกัน
เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ที่เวียนมาบรรจบ ครบรอบอีกวาระหนึ่งในวันนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเป็นอเนกประการ ด้วยพระราชวิริยอุตสาหะ จนเป็นที่ประจักษ์ แก่ผองพสกนิกรครอบคลุม ทั้งด้านศิลปวัฒนธรรม ด้านสาธารณสุข ด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเผยแผ่สายธารแห่งพระเมตตาบารมี สู่การพัฒนาสตรีที่ยั่งยืน เพื่อให้เป็นรากฐานอันมั่นคงของครอบครัว นำพาไปสู่ความมั่นคงของสังคม และประเทศชาติสืบไป
ในศุภวาระอันเป็นมงคลยิ่งนี้ ข้าพระพุทธเจ้า ขอพระราชทาน พระราชานุญาตนำพสกนิกรทั้งหลายถวายพระพรชัยมงคล ด้วยความจงรักภักดี ขออัญเชิญคุณพระศรีรัตนตรัยและอำนาจแห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล โปรดอภิบาลบันดาลดลให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงพระเจริญ พร้อมจตุรพิธพรชัย พระเกียรติคุณเกริกไกรแผ่ไพศาล ทรงพระเกษมสำราญ สถิตเป็นมิ่งขวัญร่มเกล้าของปวงข้าพระพุทธเจ้าและเหล่าพสกนิกรตราบกาลนานเทอญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
จากนั้น ดนตรีบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี นายกรัฐมนตรีและคู่สมรส รับมอบโคมเทียนและร่วมร้องเพลง สดุดีจอมราชา 2 จบ ต่อจากนั้นนายกรัฐมนตรีกล่าวนำว่า “ทรงพระเจริญ” 3 ครั้ง เป็นอันเสร็จพิธี
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่