มท.ซ้อมเชิญนํ้าพระพุทธมนต์ การแสดงโขนสด-ใต้ร่มพระบารมี

สำหรับการฝึกซ้อมในครั้งนี้ เริ่มตั้งแต่ผู้เชิญคนโทน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ จำนวน 77 คนโท จากห้องประชุมดำรงธรรม เดินลงจากศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย ทางบันไดหน้ามุข และเชิญขึ้นจัดวางบนรถเชิญคนโทน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ บริเวณถนนอัษฎางค์ ด้านหน้าศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย จากนั้น เป็นการจัดขบวนเกียรติยศเชิญน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ แบ่งเป็นจำนวน 9 ตอน รวมจำนวนผู้ร่วมขบวน 581 คน ความยาวขบวน 126 เมตร เคลื่อนขบวนฯจากกระทรวงมหาดไทย ไปตามถนนอัษฎางค์ เลี้ยวซ้ายข้ามสะพานช้างโรงสี เคลื่อนตรงไปตามถนนกัลยาณไมตรี ผ่านกระทรวงกลาโหม เลี้ยวซ้ายหน้าวัดพระศรีรัตน ศาสดาราม เข้าถนนสนามไชย ตรงไปจนถึงบริเวณหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร โดยเมื่อขบวนฯเคลื่อนถึง ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะเชิญคนโทน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ไปวางที่โต๊ะเคียง ในพระอุโบสถวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามฯ เพื่อเตรียมประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ต่อไป

จากนั้นเวลา 11.00 น.เป็นการฝึกซ้อมขบวนเกียรติยศจากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามฯ ไปยังพระที่นั่งอัมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมซักซ้อมขบวนด้วย โดยขบวนเกียรติยศเชิญน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ แบ่งเป็น 9 ตอน รวมจำนวนผู้ร่วมขบวน 1,072 คน ความยาวขบวน 168 เมตร เคลื่อนขบวนฯไปตามถนนสนามไชย เลี้ยวซ้ายเข้าถนนหน้าพระลาน ถึงหน้าประตูวิเศษไชยศรี โดยมีผู้แทนนายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐสภา ผู้แทนประธานศาลฎีกา เชิญพระเต้าปทุมนิมิตทอง นาก เงิน และพานดอกไม้รูปเทียนแพ และผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย เข้าประตูวิเศษไชยศรี ผ่านประตูพิมานไชยศรี ไปยังพระที่นั่งอัมรินทรวินิจฉัย ผ่านพระทวารกลาง ไปยังหน้าพระวิสูตร จากนั้น ผู้แทนนายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐสภา ผู้แทนประธานศาลฎีกา เชิญพระเต้าปทุมนิมิตทอง นาก เงิน มอบให้เจ้าพนักงานภูษามาลา สำนักพระราชวัง เพื่อเชิญไปวางบนพระแท่นบัว หน้าพระวิสูตร ผู้แทนนายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐสภา ผู้แทนประธานศาลฎีกา เชิญพานดอกไม้ ธูปเทียนแพไปวางที่เสาบัวกลุ่ม ตามลำดับ จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด และผู้ว่าฯ กทม.ฝึกซ้อมการถวายราชสักการะหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นอันเสร็จการฝึกซ้อม

ขณะที่การจัดงานมหรสพสมโภช เฉลิมพระเกียรติฯ ที่ท้องสนามหลวง วันสุดท้าย มีประชาชนหลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ ร่วมถ่ายรูปที่ระลึกตามซุ้มต่างๆ รวมถึงชมการแสดงจากเวทีต่างๆโดยการแสดงเวทีใหญ่ มีไฮไลต์อยู่ที่การแสดง “สิงโตบนเสาดอกเหมยเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มหาวชิราลงกรณ” การแสดง “มังกรเบิกฟ้า 72 พรรษามหามงคล ใต้ร่มบรมโพธิสมภาร” เป็นการแสดงเชิดสิงโตและมังกร โดยสมาคมอุปรากรจีน ต่อด้วยการแสดงดนตรี “แผ่นดินธรรมแผ่นดินไทยใต้ร่มพระบารมี” การแสดงนาฏศิลป์โขนสดใต้ร่มพระบารมี ตอน ศึกทศกัณฐ์ยกรบ และตอน ยักษ์บรรลัยกัลป์ออกศึก การแสดง “ศิลปะร่วมสมัยเทิดไท้องค์ราชัน” และปิดท้ายด้วยการแสดงโดรนเฉลิมพระเกียรติอย่างยิ่งใหญ่ ชุด “พระราชปณิธานเพื่อประโยชน์สุขของปวงชนชาวไทย” นำเสนอ 11 ภาพ พระราชกรณียกิจ ตามพระปฐมบรมราชโองการที่ทรงประกาศในวันบรมราชาภิเษก 4 พฤษภาคม 2562 ความว่า “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอดและครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งราษฎรตลอดไป”

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่