ในหลวงพระราชทานพระราชดำรัสแก่ปวงชนชาวไทย ในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2567 ทรงระบุในรอบปีมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นหลายอย่าง ทั้งการประกาศให้วันที่ 13 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันนวมินทรมหาราช และพิธีเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติ รวมถึงเรื่องน่ายินดีที่เมืองโบราณศรีเทพได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม และทรงขอให้ทุกคนร่วมมือร่วมใจกันอย่างมั่นคงแน่วแน่ และหากมีอุปสรรคปัญหาใดให้เผชิญปัญหาอย่างผู้มีสติ มีปัญญา และร่วมกันคิดอ่าน แก้ไขด้วยเหตุผล ด้วยหลักวิชาและด้วยความบริสุทธิ์ จริงจัง เหมาะสมทันต่อเหตุการณ์ พร้อมพระราชทาน ส.ค.ส.2567 แก่ปวงชนชาวไทย เซ็นทรัลเวิลด์-ไอคอนสยามโชว์พลุยิ่งใหญ่ตระการตารับปี 2567
เนื่องในศุภวารดิถีขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2567 เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 31 ธ.ค.2566 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสแก่ปวงชนชาวไทย เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พุทธ ศักราช 2567 ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ความว่า ในโอกาสขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2567 นี้ ข้าพเจ้าขอส่งความสุขและความปรารถนาดีมายังท่านทั้งหลายโดยทั่วกัน ในรอบปีที่ล่วงแล้วมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นในบ้านเมืองเราหลายอย่าง ดังที่ท่านทั้งหลายก็คงทราบกันเป็นอย่างดีแล้ว เรื่องหนึ่งที่ควร กล่าวถึงก็คือ ได้มีการประกาศให้วันที่ 13 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เป็นวันนวมินทรมหาราช และได้มีพิธีเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติ เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ที่ผ่านมา มีประชาชนไปร่วมงาน ร่วมถวายราชสักการะ และร่วมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณเป็นจำนวนมาก
ทั้งยังมีเรื่องที่น่ายินดี คือเมืองโบราณศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้รับการขึ้นทะเบียนโดยองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก ให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม นำความปลาบปลื้มใจมาสู่เราทุกคนโดยถ้วนหน้ากัน การที่บ้านเมืองเราดำรงมั่นคงและมีเกียรติยศศักดิ์ศรี เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศชาติ จวบจนทุกวันนี้ ก็ด้วยเราทุกคนต่างร่วมแรงร่วมใจกันบำเพ็ญความดี และมุ่งประโยชน์ของส่วนรวมมาโดยตลอด ดังเช่นโครงการต่างๆที่จัดตั้งขึ้น เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ก็เป็นการทำงานร่วมกันของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ทำให้ประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ นอกจากนี้ ทุกคนยังช่วยสืบสานรักษา ต่อยอด วัฒนธรรมอันดีงามของไทยโดยเต็มกำลังสามารถ ด้วยเห็นได้ชัดเจนจากการจัดแสดงโขนของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างงดงาม
ในปีใหม่นี้ข้าพเจ้าจึงใคร่ขอให้ท่านร่วมมือร่วมใจกันอย่างมั่นคงแน่วแน่ และหากมีอุปสรรคปัญหาใดๆเกิดขึ้น ก็เผชิญปัญหาอย่างผู้มีสติ มีปัญญา และร่วมกันคิดอ่าน ปฏิบัติแก้ไขด้วยเหตุผล ด้วยหลักวิชา และด้วยความบริสุทธิ์ จริงจังรวมกำลังความรู้ ความสามารถของทุกคนทุกฝ่ายมาใช้ให้ถูกต้องและเหมาะสม ทันต่อเหตุการณ์ ถ้าทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันได้ดังนี้ ประเทศชาติของเราก็จะเจริญวัฒนาเป็นที่อยู่ที่อาศัยอันสงบร่มเย็นของเราทั้งหลายได้สืบไป
ขออานุภาพแห่งพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านเคารพนับถือ พร้อมด้วยพระบารมีแห่งพระบาท สมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพิตร จงคุ้มครองรักษาทุกท่านให้ปราศจากทุกข์โศกโรคภัยทุกๆประการ บันดาลให้มีกำลังกาย กำลังใจ กำลังปัญญา ประสบแต่สิ่งที่พึ่งปรารถนาตลอดศกหน้านี้และตลอดไป
โอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานบัตรอวยพรปีใหม่ ประจำปีพุทธศักราช 2567 แก่ปวงชนชาวไทย ด้านหน้าของบัตรพระราชทานพรปีใหม่ มีตราประจำพระราชวงศ์จักรีอยู่กึ่งกลาง ด้านล่างเป็นตราพระปรมาภิไธย ว.ป.ร. และตราพระนามาภิไธย ส.ท.เมื่อเปิดบัตรพระราชทานพร ด้านขวา มีพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงฉายกับสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ใต้พระบรมฉายาลักษณ์ระบุพระ ปรมาภิไธย “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” และพระนามาภิไธย “สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี” ส่วนด้านซ้าย มีข้อความว่า “พระราชทานพรปีใหม่ พ.ศ.๒๕๖๗” พร้อมทั้งทรงลงพระปรมาภิไธยและพระนามาภิไธย
ขณะเดียวกัน สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พระราชทาน ส.ค.ส.เนื่องในวาระดิถีขึ้นปีใหม่พุทธศักราช 2567 แด่พสกนิกรชาวไทย โดยมีผู้แทนจากสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์และราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เป็นผู้เชิญ โดยด้านหน้าของ ส.ค.ส. มีตราประจำพระองค์อยู่ด้านบน ตามด้วยอักษรภาษาไทยว่า สุขสันต์ วันปีใหม่ 2567 อักษรภาษาอังกฤษ Season’s Greeting 2024 และพระนามาภิไธยสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ส่วนด้านขวาของ ส.ค.ส.เป็นพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี
เมื่อเวลา 20.10 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง กล่าวคำปราศรัย เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2567 ผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย คลื่น FM.92.50 MHz และวิทยุเครือข่ายกรมประชาสัมพันธ์ทั่วประเทศ ตอนหนึ่งว่า ปีพุทธศักราช 2566 ที่ผ่านมาเป็นปีที่ประเทศไทยกำลังอยู่ระหว่างการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและสังคมเตรียมตัวที่จะก้าวเข้าสู่ยุคเพื่อชดเชย 9 ปีที่ประเทศไทยเราสูญเสียโอกาสไปหลาก หลายอย่าง ได้เร่งดำเนินนโยบายที่จะวางรากฐานระยะกลางและระยะยาว เพื่อสร้างรากฐานให้กับอนาคตที่ดีกว่าให้ลูกหลานของพวกเราทุกคน เราจะก้าวสู่ปีพุทธศักราช 2567 ที่นับได้ว่าเป็นปีแห่งความก้าวหน้าอย่างแท้จริง ด้วยพลังกาย พลังใจที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง ความสุขเป็นก้าวของความสำเร็จ และความมั่นคงในชีวิตของพี่น้องชาวไทยทุกคน ขอให้ทุกคนเริ่มต้นศักราชใหม่ด้วยจิตใจที่อิ่มเอม ไปด้วยความสุข ความสดชื่น
สำหรับบรรยากาศการส่งท้ายปีเก่าเมื่อค่ำคืนวันที่ 31 ธ.ค. ทั่วประเทศเนืองแน่นไปด้วยผู้คนและนักท่องเที่ยว ร่วมเฉลิมฉลองการเข้าสู่ศักราชใหม่อย่างคึกคัก โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.เปิดเผยหลังการประชุมกำชับการปฏิบัติและติดตามสถานการณ์ในคืนวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2567 ว่า จุดใหญ่ที่มีการจัดกิจกรรมเคาต์ดาวน์ทั่วประเทศไทย มีทั้งสิ้น 46 จุด ใช้กำลังพล 1 แสนนายทั่วประเทศ ซึ่งจุดเซ็นทรัลเวิลด์คาดว่าจะมีคนเข้ามาร่วมงานกว่า 1 แสนคน จึงใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 2,200 นาย เข้ามาดูแลตรงจุดเซ็นทรัลเวิลด์ นอกจากเซ็นทรัลเวิลด์แล้ว จะมีจุดคัดกรองใหญ่อีก 2 จุด คือไอคอนสยามและเอเชียทีค โดยมีการวางมาตรการคุมเข้มในเรื่องของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์คัดกรองอาวุธ และไปดูที่ศูนย์ CCOC ของเซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อดูภาพรวมของเซ็นทรัลเวิลด์ รวมถึงจุดคัดกรองเรื่องอาวุธ แอลกอฮอล์ ที่ถนนเพชรบุรีและแยกราชประสงค์ด้วยตนเอง
สำหรับไฮไลต์ที่การเคาต์ดาวน์หรือนับถอยหลังก้าวเข้าสู่ศักราชใหม่ 2024 จุดใหญ่ที่หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ TimesSquareofAsia หนึ่งเดียวใจกลางกรุงเทพฯ บจม.เซ็นทรัลพัฒนา ผนึกกำลังกับพันธมิตรภาครัฐและเอกชนชั้นนำ ได้แก่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ (RSTA) บจม.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส บจ.ไทยฮอนด้า บจ.โคคา-โคล่า (ประเทศไทย)บจม.หาดทิพย์ บจ.บุญรอดเทรดดิ้ง บจ.โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย บจ.เจเนอรัล การ์ดเซอร์วิสเซส บจ. ช้างอินเตอร์เนชั่นแนล จัดงาน “Centralworld Bangkok Countdown 2024” ที่ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ รวมถึงเหล่าแฟนคลับของเหล่าศิลปินดังทั้งไทยและเทศ เดินทางมาร่วมงานตั้งแต่ช่วงบ่ายและพร้อมใจร่วมนับถอยหลังสู่ศักราชใหม่ปี 2024 ท่ามกลางพลุ City-scene อลังการ ผสาน Futuristic Fireworks สุดล้ำบนจอ panoramix ใหญ่ที่สุดในโลก สร้างสรรค์โดยศิลปินไทย ไป-ธนา แสงศร และเหนือ-จักรกฤษณ์ อนันตกุล ทั้งหมด 5 องก์ ได้แก่องก์ที่1 The Futuristic องก์ที่ 2 The Masterองก์ที่ 3 The Collab องก์ที่ 4 The NewLegendary และองก์ที่ 5 The Phenomenon ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์แห่งความสุขสุดยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองสู่การเริ่มต้นใหม่ที่น่าจดจำไปตลอดกาล พร้อมกับบรรยากาศสนุกสนานสุดมันส์ไปกับโชว์ดีที่สุดตลอดกาลจากสุดยอดศิลปิน K-Pop Youngjae Got7, C-Pop แพทริค ณัฐวรรธ์ และ T-Pop นำโดย 5 Headliner ศิลปินไทย พีพี-กฤษฏ์ และบิวกิ้น-พุฒิพงศ์ โบกี้ไลออน นนท์ ธนนท์ และอิ้งค์ วรันธร เสริมทัพด้วยศิลปินท็อปชาร์ตทุกอวอร์ดกว่าครึ่งร้อยชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในช่วง 15 นาทีสุดท้ายของปี นอกจากผู้คนที่ร่วมลุ้นการนับถอยหลังอย่างใจจดใจจ่อแล้ว ผู้คนทั่วประเทศยังได้ร่วมรับชมวินาทีเข้าสู่ศักราชใหม่พร้อมกันที่แพลตฟอร์มของสื่อต่างๆ รวมทั้งที่ AiA Tower สี่แยกนานาแยกสุรศักดิ์ ดินแดงทางด่วนศรีรัช แยกวิทยุ โรงแรมแอสทราสาทร แยกชิดลม อาคารเสริมมิตรทาวเวอร์ แยกประตูน้ำ และหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวสต์เกต นนทบุรี ลาดพร้าว เชียงใหม่ เชียงใหม่แอร์พอร์ต สมุย สุราษฎร์ธานี หาดใหญ่ ขอนแก่น พัทยาภูเก็ต ซึ่งเมื่อถึงเวลานับถอยหลังวินาทีเข้าสู่ปี ค.ศ.2024 หรือ พ.ศ.2567 แต่ละจุดต่างอื้ออึงไปด้วยเสียงโห่ร้องด้วยความยินดีกับการต้อนรับปีใหม่จนดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ
อีกด้านหนึ่งที่ไอคอนสยาม ถนนเจริญนคร อีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญของบรรยากาศเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2024 ไอคอนสยามร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน และชุมชมริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งธนบุรีจัดงานเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปี 2024 ภายใต้แนวคิด “เคานต์ดาวน์สะกดโลกส่งต่อความรุ่งโรจน์แห่งสยาม” ด้วยการแสดงพลุการแสดงพลุรักษ์โลก 50,000 ดอก เปิดศักราชใหม่แห่งสยาม จำนวน 7 ชุด ความยาว 9 นาที รวมระยะทาง 1,400 เมตร ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยบนโค้งน้ำเจ้าพระยา ครอบคลุมรัศมีการชมได้มากกว่า 5 กิโลเมตร ภายใต้การดูแลของ “โอกุจิ โยชิมาซะ” ผู้กำกับการแสดงพลุระดับโลกจากญี่ปุ่น คอนเสิร์ตจากทัพศิลปินดังทั้งไทยและต่างประเทศ อาทิ บะหมี่ (BameeKT), PERSES, Jeff Satur, Proxie, QRRA, 4EVE, ATLAS, Three Man Down, ซี-พฤกษ์ พานิช, นุนิว-ชวรินทร์ เพริศพิริยะวงศ์, พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร และบิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล พร้อมพบกับ “แบมแบม”-กันต์พิมุกต์ ภูวกุล ศิลปินสัญชาติไทยที่ไปโด่งดังระดับโลก พร้อมด้วย YUGYEOM “ยูคยอม” และ Mark Tuan “มาร์ค ต้วน” ซึ่งถือเป็นการรวมตัวกันครั้งแรกของสมาชิก GOT7 มากถึง 3 คน ท่ามกลางประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากร่วมชมพลุริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งสองฝั่งแม่น้ำเป็นระยะทางร่วม 2 กิโลเมตร
ขณะที่บรรยากาศการท่องเที่ยวในวันส่งท้ายปี 2566 ที่ตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วประเทศกลับมาคึกคักและเนืองแน่นไปด้วยผู้คน ทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยเฉพาะตามยอดดอย ที่มีนักท่องเที่ยวออกมาสัมผัสแสงแรกของวันสุดท้ายของปีและอากาศที่ยังคงหนาวเย็นได้ใจ ทั้งที่ผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหลที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ที่ยังคงมีเหมยขาบโผล่มาให้เห็นเป็นครั้งที่ 8 ของหน้าหนาวปีนี้ เช่นเดียวกับตามวัดวาอารามทั่วประเทศ มีการจัดสวดมนต์ข้ามปี ต่างเนืองแน่นไปด้วยพุทธ ศาสนิกชนเข้ามาร่วมกิจกรรมเพื่อเสริมสิริมงคลกับชีวิตรับศักราชใหม่
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
