“...คนไทยเรานั้นมีน้ำใจไมตรีต่อกัน ใฝ่ใจช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันเสมอมา ไม่ว่าจะมีเรื่องราวเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้น เราคนไทยก็ต่างพร้อมจะร่วมมือร่วมใจกัน ปัดเป่าบรรเทาความทุกข์ยากเดือดร้อนของกันและกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลให้กำลังใจปลอบโยนซึ่งกันและกัน เพื่อให้ความทุกข์ยากนั้นผ่อนคลายและบรรเทาลง การที่เราทั้งหลายสามารถร่วมมือร่วมใจรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สถานการณ์ของโรคระบาด หรือเหตุการณ์ภัยพิบัติใดๆที่เกิดขึ้น เราคนไทยก็สามารถร่วมมือแก้ไขและป้องกัน จนสถานการณ์ต่างๆเหล่านั้นผ่านพ้นและคลี่คลายไปได้ด้วยดี นั่นเป็นเพราะพื้นฐานจิตใจที่ดีงามของคนไทย ซึ่งมีความเมตตา เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน น้ำใจไมตรีอันทรงคุณค่าที่เราทุกคนมีให้แก่กันนี้ เปรียบเสมือนพลังอันยิ่งใหญ่ที่ผนึกเข้าด้วยกัน เป็นกำลังสำคัญให้บ้านเมืองของเรานั้นมั่นคงดำรงอยู่ และพัฒนาก้าวหน้ายิ่งๆขึ้นไปได้อย่างยั่งยืนถาวรตลอดไป...” พระราชดำรัสดังกล่าวของ “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” ที่พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย ในโอกาสขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2566 เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2565 สะท้อนได้ดีถึงพลังแห่งน้ำใจไมตรีและความรักความสามัคคีของประชาชนคนไทย
หลายคนอาจไม่รู้ว่าล้นเกล้าฯรัชกาลที่ 10 ได้ทรงงานอยู่เบื้องหลังแบบค่อยเป็นค่อยไปหลายอย่าง เพื่อสืบสาน รักษา และต่อยอดโครงการต่างๆของ “พระบาทสมเด็จ พระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร” ให้ผลิดอกออกผลงดงามขึ้น
“คลองสวย น้ำใส ปรับภูมิทัศน์คลองรอบเกาะรัตนโกสินทร์” ให้เป็นสถานที่พักผ่อน และพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว พลิกฟื้นชีวิตคลอง ให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ตลอดจนแก้ปัญหาลดน้ำเน่าเสีย กำจัดขยะในลำคลอง จนถึงขณะนี้ได้ดำเนินการไปแล้วอย่างน้อย 12 คูคลอง
“นำสายไฟฟ้าและสายสื่อสารลงใต้ดิน” ปัญหาเรื่องสายไฟและสายสื่อสารของแต่ละหน่วยงาน ที่ไม่สามารถบูรณาการการใช้งานร่วมกันได้ มีความพยายามแก้ไขและจัดระบบมานานมาก แต่ดำเนินการไม่สำเร็จ นับตั้งแต่พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ได้เริ่มจัดระเบียบนำสายลงใต้ดิน เริ่มที่ถนนราชดำเนิน หลังจากนั้นได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องในถนนสายหลัก และทยอยทำในต่างจังหวัด
“พัฒนาแหล่งน้ำ สืบสานและต่อยอดโครงการต่างๆ” พัฒนาโครงการพระราชดำริ จ.จันทบุรี พัฒนาแหล่งน้ำกว่า 116 โครงการ และพัฒนาแหล่งน้ำในพระราชดำริ 25 โครงการ
“จัดระเบียบ สร้างวินัย” ทรงให้ความสำคัญกับเรื่องระเบียบวินัยมาก ด้วยทรงเห็นว่าการมีวินัยเป็นพื้นฐานที่สะท้อนถึงสังคมและประเทศชาติ จึงมีการปลูกฝังตั้งแต่เด็ก และต่อยอดสร้างระเบียบให้ยั่งยืน ตัวอย่างอาทิ จัดที่พักพิงให้คนเร่ร่อน ตลอดจนสร้างเลนจักรยานสำหรับผู้ปั่นจักรยาน เพื่อความปลอดภัย และปลูกฝังวินัยจราจรตั้งแต่เด็ก ดังจะเห็นได้จากการจัดงานอุ่นไอรัก จะมีมุมสร้างวินัยจราจรสำหรับเด็ก ทรงมีแนวคิดให้คนไทยมีน้ำใจแบ่งปันการใช้ถนนร่วมกัน ภายใต้แนวคิด “Share The Road”
“สาธารณสุข ห่วงใยประชาชน” ด้วยทรงตระหนักดีว่าการออกกำลังกายเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะทำให้ประชาชนมีสุขภาพดีขึ้น จึงทรงเป็นต้นแบบรณรงค์ให้คนไทยหันมาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดี อีกทั้งยังสร้างวินัยและความสามัคคี โดยทรงนำกิจกรรมปั่นจักรยานทั่วประเทศ สร้างเลนสำหรับปั่นจักรยาน เพื่อส่งเสริมให้สังคมไทยหันมาออกกำลังกายมากขึ้น ขณะเดียวกัน ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทรงให้การช่วยเหลือซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้โรงพยาบาล 27 แห่ง ช่วยโรงพยาบาลทหารผ่านศึก และโรงพยาบาลศิริราช ตลอดจนพระราชทานรถตรวจเชื้อชีวนิรภัยเคลื่อนที่
“พระบารมีแผ่ไปถึงทุกที่ ดูแลทั่วถึงทั่วไทย” ด้วยทรงตระหนักดีว่าในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สิ่งสำคัญคือการให้บริการประชาชนในการตรวจเชื้อโควิด จึงพระราชทานรถตรวจเชื้อชีวนิรภัยเคลื่อนที่จำนวน 13 คัน แก่กระทรวงสาธารณสุข ใช้สำหรับวิ่งไปอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ ยังพระราชทานเครื่องบินเล็กลาดตระเวน 3 ลำ สำหรับกองทัพบกใช้ช่วยเหลือประชาชน เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการช่วยเหลือ 13 หมูป่า ทำให้สามารถบูรณาการและระดมทุกหน่วยไปช่วยเหลือ พร้อมตั้งหน่วยเคลื่อนที่พระราชทานรถพยาบาลกู้ชีพ ศูนย์แพทย์ชายแดนใต้ พัฒนาสร้างนวัตกรรมตรวจเชื้อโควิดร่วมกับ SCG และเครื่องเป่าลมดับไฟป่า
“ภูมิใจในชาติ สร้างสังคมมีสุข รักษาเอกลักษณ์ไทยล้ำค่า” ทรงเจริญรอยตามวัฒนธรรมโบราณราชประเพณีไทย ส่งเสริมให้คนไทยหันมาแต่งกายชุดไทยได้อย่างภาคภูมิใจ จุดประกายในงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว
“ส่งเสริมโอกาสด้านการศึกษา” ฟื้นฟูโรงเรียน การศึกษา ที่ประสบอุทกภัย ดูแลอย่างทั่วถึง อาทิ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ สร้างโอกาสทางการศึกษาในพื้นที่ทุรกันดาร และพระราชทานโฉนดที่ดินในพระปรมาภิไธย ให้มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา 60 ไร่ 1 งาน 80 ตารางวา และมหาวิทยาลัยสวนดุสิต 37 ไร่ 1 งาน 10 ตารางวา
“พัฒนาคน รักษาธรรมชาติ” โครงการพัชรสุธาคชานุรักษ์ ลดความขัดแย้งคนกับช้าง ด้วยการพัฒนาแหล่งอาหารของช้างและสัตว์ป่าให้สามารถใช้ชีวิตร่วมกัน พร้อมต่อยอดโครงการหลวง ฟื้นชีวิตชาวป่าละอู
“บารมีปกเกล้าชุมชนอยู่ติดชายแดน” สร้างหมู่บ้านต้นแบบตามแนวชายแดนให้ชุมชนอยู่ติดชายแดนที่มีความสำคัญต่อความมั่นคงของประเทศและการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ
“พัฒนาสังคมเพื่อการเปลี่ยนแปลง” สร้างศูนย์อพยพให้ชาวบางสะพาน จัดตั้งจิตอาสาพระราชทาน 904 ช่วยสังคมเพื่อการเปลี่ยนแปลง ราชทัณฑ์ปันสุข พระราชทานที่ดินกว่า 2 พันไร่ เพื่อประโยชน์ทางราชการ ทรงเลี้ยงเด็กกำพร้าทั่วประเทศ และทุกครั้งที่ประชาชนประสบภัยจะทรงจัดถุงยังชีพพระราชทานช่วยเหลือ
นับเป็นสายธารแห่งพระเมตตาอันยิ่งใหญ่ ที่ทรงห่วงใยในทุกข์สุขของประชาชนอย่างแท้จริง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2566 ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน.
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ทีมข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
